5 พฤติกรรมที่ทำให้คุณอ้วนโดยไม่รู้ตัว
กินข้าวน้อยกว่าคนอื่น แต่ทำไมยังอ้วน ?
หลายๆ คนอาจจะเคยตั้งคำถามแบบนี้กับตัวเอง เพราะสงสัยเหลือเกินว่าทำไมถึงได้อวบขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่ในแต่ละวันก็กินข้าว 3 มื้อ เท่าๆ คนอื่น ไม่เคยสั่งเบิ้ล จานก็ไม่ได้ใหญ่ แล้วเอาอะไรมาอ้วน?
แต่ลองสำรวจพฤติกรรมการใช้ชีวิตในแต่ละวันของคุณให้ดี ไม่แน่ว่าคุณอาจจะอ้วนโดยไม่รู้ตัวเพราะสิ่งเหล่านี้ก็ได้
1. กินอาหารรสจัด
กินข้าวผัดก็ต้องโรยน้ำปลาพริก กินก๋วยเตี๋ยวก็ต้องปรุงให้แซ่บ เปรี้ยว หวาน เผ็ด เค็ม ต้องมาครบเพื่อความอร่อย แต่รู้หรือไม่ อาหารรสจัดจะทำให้เราตัวบวม ด้วยกลไกตามธรรมชาติที่จะรักษาระดับน้ำและเกลือโซเดียมในร่างกายให้อยู่ในระดับสมดุล ยิ่งกินรสจัดมากเท่าไร ร่างกายก็ยิ่งเก็บน้ำไว้มากเท่านั้น
...และที่น่ากลัวกว่าอาการบวมของร่างกายแล้ว เครื่องปรุงรสเหล่านี้ยังเป็นสาเหตุของโรคอีกมาก ทั้งเบาหวาน ไตวาย ความดัน ฯลฯ ถ้าเลี่ยงได้ก็ควรจะเลี่ยง ซึ่งต้องบอกตรงๆ ว่าเลี่ยงได้ยากมากในสมัยนี้ เพราะเกลือโซเดียมถูกใช้ในหลายๆ รูปแบบ ไม่จำกัดเฉพาะเกลือเท่านั้น
ไม่ว่าจะเป็นอาหารกล่องแช่แข็ง อาหารแปรรูป อาหารหมักดอง เครื่องปรุงที่มากับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เหล่านี้ล้วนอัดแน่นไปด้วยเกลือโซเดียมทั้งสิ้น
2. ไม่อ่านฉลากโภชนาการ
อาหารบางอย่างหน้าตาไม่น่าอ้วน แต่แคลอรีสูงมาก เมื่อรวมๆ กับอาหารอื่นๆ ที่กินเข้าไปในแต่ละวันแล้ว ก็จะกลายเป็นว่าคุณได้รับแคลอรีเกินกว่าที่ร่างกายจะเผาผลาญได้หมด จบลงที่ความอ้วนเช่นเคย
ดังนั้น ก่อนจะหยิบอะไรมาใส่ปาก ควรจะชำเลืองมองที่ฉลากโภชนาการสักเล็กน้อย เพื่อดูว่ามันให้พลังงานกี่แคลอรีต่อหนึ่งหน่วยบริโภค นอกจากนี้ก็ควรจะดูปริมาณน้ำตาลและโซเดียมด้วย เพราะ 2 อย่างนี้ก็ทำให้เราอ้วนได้เช่นกัน
3. เคลื่อนไหวน้อย
ความอ้วนเกิดจากการที่ร่างกายเผาผลาญพลังงานที่รับเข้ามาได้ไม่หมด อาจจะด้วยไลฟ์สไตล์ของเราๆ ท่านๆ ในสมัยนี้ที่อยู่กันแต่ในออฟฟิศ ไม่มีโอกาสได้เคลื่อนไหวร่างกายเท่าที่ควร กลายเป็นว่ากินเยอะแต่ไม่ได้ใช้พลังงานที่รับเข้ามา จึงเกิดเป็นไขมันสะสมตามเนื้อตัว
แนะนำให้ลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายทุกๆ ชั่วโมง หรือใช้แก้วน้ำเล็กๆ ที่ต้องเติมน้ำบ่อยๆ เพื่อที่เราจะได้ลุกจากโต๊ะบ่อยขึ้น ใช้บันไดแทนลิฟต์ เพื่อให้ร่างกายได้ใช้พลังงานบ้าง
จะให้ดีกว่านั้นก็ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอกจากจะได้เผาผลาญพลังงานส่วนเกินแล้ว ยังทำให้สมองปลอดโปร่งพร้อมลุยงานตลอดวันอีกด้วย
4. ติดเครื่องดื่ม/ของหวานหลังอาหารมื้อหลัก
สาวออฟฟิศหลายๆ คนลงไปทานมื้อกลางวันแล้วจะกลับขึ้นมาพร้อมกับเครื่องดื่มหวานๆ ล้างปากตามความเคยชิน ยกตัวอย่างเช่น ชาไข่มุก ที่มีแคลอรีสูงพอๆ กับข้าว 1 จาน เท่ากับว่ามื้อนั้นคุณได้รับพลังงานเท่ากับการกินข้าว 2 จาน ยังไม่นับของหวานมื้อบ่ายและขนมจุกจิกแก้ง่วงระหว่างนั้น
เรียกว่ากินเพลินๆ อ้วนเพลินๆ โดยไม่รู้ตัว
ถ้าคุณมีพฤติกรรมแบบนี้โดยความเคยชิน ขอแนะนำให้เลิกซะ หันมาใส่ใจกับการรักษาสมดุลระหว่างพลังงานที่รับเข้าและใช้ไปให้มากขึ้น จะได้ไม่ต้องมาบ่นเรื่องกางเกงคับทีหลัง
5. นอนน้อย
การนอนน้อยจะส่งผลต่อฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้ทานอะไรก็รู้สึกไม่ค่อยอิ่ม แล้วเราก็จะทานมากขึ้น แม้จะได้รับพลังงานเพียงพอแล้วก็ตาม ที่ร้ายไปกว่านั้น การนอนน้อยๆ ยังทำให้ระบบเผาผลาญของเราช้าลงอีกด้วย
กินก็เยอะ เผาผลาญก็ช้า แบบนี้จะไม่อ้วนยังไงไหว?
แล้วทำยังไงถึงจะนอนหลับได้หลายๆ ชั่วโมงให้เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการ? บางคนอาจจะนอนดึกเพราะงานรุมเร้า แต่บางคนก็นอนดึกเพราะมัวแต่เฝ้าหน้าจอมือถือ ลองลดเวลาที่ใช้ไปกับโซเชียลมีเดีย แล้วหันมาใส่ใจกับการจัดการตารางชีวิตในแต่ละวันให้มากขึ้น แล้วเราก็จะมีเวลานอนมากขึ้นเอง
จะเห็นได้ว่าความอ้วนไม่ได้มาจากการกินอาหารมื้อหลักๆ เพียงอย่างเดียว แต่มันขึ้นอยู่กับพลังงานที่รับเข้าไปตลอดทั้งวัน ไม่ว่าคุณจะกินอะไรมันก็มาพร้อมกับแคลอรี ดังนั้น คิดให้ดีก่อนที่จะกิน รวมไปถึงการใช้ชีวิตในแต่ละวัน ที่จะทำให้พลังงานที่รับเข้ามาและพลังงานที่ใช้ไปให้พอดีกัน