ภัยอันตราย “ช็อกโกแลตซีสต์” ผู้หญิงเสี่ยงทุกคน ทุกวัย
ผู้หญิงหลายคนเริ่มรู้จักโรคนี้กันดียิ่งขึ้น เพราะพบผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดบ่อยขึ้น ใกล้ตัวมากยิ่งขึ้นนั่นเอง แต่เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่ทราบถึงสาเหตุ อาการ และสัญญาณบอกเหตุก่อนพุ่งตัวไปโรงพยาบาล มีอาการแตกต่างจากการปวดท้องปกติอย่างไร Sanook! Health รวบรวมข้อมูลมาฝากให้เตรียมตัวกันค่ะ
ช็อกโกแลคซีสต์ คืออะไร?
จริงๆ แล้วช็อกโกแลตซีสต์เป็นคำเรียกง่ายๆ ของ โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือถุงน้ำช็อกโกแล็ต (สีของเลือดประจำเดือนตกค้าง) เป็นอาการผิดปกติที่เซลล์เจริญเติบโตผิดที่ นานวันเข้าเซลล์นั้นใหญ่ขึ้น เลือดประจำเดือนไหลไปตกค้างอยู่ในนั้น จนกลายเป็นซีสต์ เราจึงเรียกว่า “ช็อกโกแลตซีสต์”
ผู้หญิงที่มีความเสี่ยงเป็นช็อกโกแล็ตซีสต์
ผู้หญิงทุกวัยที่มีประจำเดือน ทุกคนเริ่มมีความเสี่ยงต่อโรคช็อกโกแล็ตซีสต์ ตั้งแต่เริ่มมีประจำเดือน ไปจนถึงวัยหมดประจำเดือน เพราะเป็นโรคที่มีความสัมพันธ์กับฮอร์โมนผู้หญิง
อาการของช็อกโกแลตซีสต์
เป็นเรื่องที่น่าเสียดายว่า หากไม่ได้รับการตรวจร่างกายด้วยการตรวจภายใน อัลตร้าซาวนด์ หรือการส่องกล้อง เราอาจไม่มีทางทราบได้เลยว่ากำลังมีช็อกโกแล็ตซีสต์อยู่ในร่างกายของเรา กว่าเราจะทราบก็ต่อเมื่อก้อนซีสต์เกิดอาการอักเสบ ปวดท้องอย่างรุนแรง จนอาจต้องผ่าตัดด่วน
แต่หากตรวจร่างกายพบก่อน แล้วก้อนซีสต์มีขนาดใหญ่ หรือมีหลายก้อน แพทย์อาจพิจารณานัดผ่าตัดก่อนที่จะมีอาการปวดท้องเกิดขึ้นได้เช่นกัน
ปวดท้องแบบไหน ถึงเสี่ยงเป็นช็อกโกแลตซีส
โดยมากแล้ว ช็อกโกแลตจะเกิดขึ้นบริเวณมดลูก หรือรังไข่ภายนอก ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ว่าเมื่อก้อนซีสต์มีอาการอักเสบ อาจจะปวดท้องได้ทั้งด้านซ้าย หรือด้านขวา หรือกลางท้องในกรณีที่มีก้อนซีสต์บริเวณมดลูก แต่ข้อสังเกตคือ บริเวณที่ปวดจะอยู่ในช่วงท้องด้านล่าง ต่ำกว่าสะดือ เหนือขาหนีบ และคนที่ปวด้องมากในช่วงมีประจำเดือน ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน หากปวดมากต้องได้รับการผ่าตัด หากปวดๆ หายๆ อาจเป็นซีสต์ธรรมดาที่ไม่ใช่ช็อกโกแลตซีสต์
ผลร้ายที่เกิดขึ้น หลังพบช็อกโกแลตซีสต์
นอกจากจะต้องทรมานกับอาการปวดท้องมากๆ ช่วงที่มีประจำเดือนแล้ว ด้วยพังผืดที่เกาะมดลูกหรือรังไข่ และขนาดของก้อนซีสต์ที่เข้าไปเบียดรังไข่ และท่อรังไข่จนคดงอ อาจทำให้การผลิตไข่ไม่ได้คุณภาพ ไข่กับอสุจิที่ผสมกันได้แล้วอาจฝังตัวไม่สะดวก เป็นเหตุให้มีโอกาสที่จะมีบุตรยากนั่นเอง และหากก้อนซีสต์ใหญ่ขึ้น และอยู่ไกล้ตำแหน่งอวัยวะสำคัญอื่นๆ เช่น ไต อาจทำให้ไตวายได้เช่นกัน
ช็อกโกแล็คซีสต์ รักษาอย่างไร?
โดยทั่วไปแล้ว หากพบก้อนซีสต์ที่มีอันตรายน้อย ขนาดเล็ก อาจให้การรักษาด้วยยา ที่จะคล้ายกับวิธีการคุมกำเนิด เพื่อยังยั้งการทำงานของฮอร์โมนเพศหญิงไปก่อน อาจจะให้ทานยาคุม หรือฉีดยาคุมกำเนิด อาจมีความเป็นไปได้ที่ก้อนซีสต์จะยุบลงได้
อีกวิธีหนึ่ง คือ การผ่าตัด มีทั้งการผ่าตัดเปิดหน้าท้อง และการส่องกล้อง ที่จะทำให้ผู้ป่วยมีบาดแผลเล็กกว่า สูญเสียเลือดน้อยกว่า ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วกว่า แต่ค่ารักษาก็จะแพงกว่าด้วย แต่ทั้งหมดนั้นขึ้นอยู่กับพิจารณาของแพทย์ว่าผู้ป่วยท่านนั้นเหมาะที่จะผ่าตัดด้วยวิธีไหนถึงจะเห็นผลดีที่สุด
วิธีการป้องกันช็อกโกแล็ตซีสต์ที่ดีที่สุด คือการสังเกตตัวเองว่าปวดท้องบ่อยหรือไม่ ปวดประจำเดือนมากผิดปกติหรือเปล่า และควรเข้ารับการตรวจร่างกายเป็นประจำทุกปี เพื่อลดความเสี่ยงในการเป็นโรคร้ายแรงในภายหลังได้ค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก รพ. เปาโล