ทานอาหารเสริมอย่างไร ไม่ให้ตับอักเสบ-ติดเชื้อในกระแสเลือด
ใครๆ ก็อยากสวย อยากแข็งแรง นอกจากอาหารที่ทานกันอยู่ทุกวัน เลยอยากได้ตัวช่วยที่จะเห็นผลดี เห็นผลเร็ว เมื่ออาหารที่ทานอยู่ทุกวันไม่เห็นผลชัดเจน หลายคนจึงหันไปพึ่งอาหารเสริมที่โฆษณาว่า ช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ที่เราต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสวยๆ งามๆ ลดน้ำหนัก ลดความอ้วน ลดไขมัน เรื่องผิวพรรณของคุณผู้หญิง ไปจนถึงสุขภาพร่างกายทั้งสมอง หัวใจ ระบบประสาท ระบบโลหิต ระบบย่อยอาหาร รวมไปถึงระบบขับถ่าย และรักษาโรคบางโรค เช่น มะเร็ง
ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่า ไม่ใช่ว่าอาหารเสริมทุกชนิดบนโลกจะไม่ดี ไม่ใช่อย่างนั้นเลยค่ะ อาหารเสริมดีๆ จากผู้ผลิตระดับโลกก็มีเช่นเดียวกัน แต่ก็ต้องยอมรับด้วยว่าบางชนิดก็ไม่ได้ผลิตตรงตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น ผลงานวิจัยที่นำมาอ้างอิงก็ยังไม่ชัดเจน และมีความเป็นไปได้สูงที่คนที่ซื้อทานยังไม่ทราบวิธีทานอาหารเสริมที่ถูกต้อง
อันตรายจากอาหารเสริม
- ไอคิวต่ำลง เนื่องจากอาหารเสริมบางชนิดแนะนำให้ทานแทนอาหารหลัก ซึ่งไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย และพัฒนาการสมอง ในวัยที่ต้องใช้สมองในการร่ำเรียน และทำงาน หากร่างกายไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ ก็อาจส่งผลให้สมองมีพัฒนาการที่แย่ลงได้
- อาหารเสริม ไม่ว่าจะโฆษณาว่าทำมาจากธรรมชาติ 100% ก็มีความเป็นไปได้ที่จะมีสารเคมีปะปนระหว่างการผลิต ดังนั้นการที่เราทานอาหารเสริมติดต่อกันนานๆ อาจมีความเป็นไปได้ว่าเรารับเอาสารเคมีเข้าสู่ร่างกายติดต่อกันเป็นเวลานานเช่นกัน ซึ่งทำให้ตับทำงานหนักขึ้น เพื่อกรอง และคัดเลือกเอาสารอาหารที่จำเป็น และเกินความจำเป็นออก การทานอาหารเสริมมากเกินไปทำให้ตับทำงานหนักมากเกินไป จนอาจมีความเสี่ยงที่ตับและไตจะเสื่อม อักเสบ จนติดเชื้อในภายหลังได้
- การทานอาหารเสริมจากแหล่งผลิตที่ต่ำกว่ามาตรฐาน และ/หรือผลิตจากงานวิจัยที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์อย่างชัดเจน เราอาจกำลังเป็นหนูทดลองให้เขาอยู่ก็เป็นได้ เมื่อเกิดอะไรขึ้นกับร่างกาย ผู้ผลิตเหล่านี้อาจไม่สามารถช่วยเหลือ หรือรับผิดชอบอะไรเราได้เลย
ดังนั้นเรามาดูวิธีการทานอาหารเสริม เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ หลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะทำให้รางกายได้รับอันตรายกันดีกว่าค่ะ
- ทานอาหารเสริมตามคำแนะนำที่ฉลากข้างผลิตภัณฑ์อย่างเคร่งครัด
อาหารเสริมแต่ละชนิดมีวิธีการทานไม่เหมือนกัน วิตามินรวมอาจต้องทานตอนเช้าครั้งเดียว แต่อาหารเสริมบางประเภทต้องทานวันละ 2-3 ครั้ง ดังนั้นควรอ่านฉลากอย่างละเอียดก่อนทานเสมอ
- ความต่อเนื่องในการทานอาหารเสริมก็สำคัญ
เราอาจเคยได้ยินว่าควรทานอาหารเสริม หรือวิตามินเดือนเว้นเดือน หรือ 3 เดือน เว้น 3 เดือน เพื่อไม่ให้ตับพัง อันที่จริงแล้วจะบอกว่าไม่ผิดแต่ก็ไม่ถูก เพราะอาหารเสริม หรือวิตามินบางชนิดสามารถทานต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน เพื่อให้เห็นผลอย่างชัดเจนได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการทานอาหารเสริมเพื่อแก้ปัญหาสุขภาพอย่างใดอย่างหนึ่ง หากรับประทานจนเห็นผลเป็นที่พอใจแล้ว สามารถหยุดการทานได้เช่นกัน เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายได้รับสารอาหารบางชนิดมากจนเกินไป ดังนั้นก่อนทานอาหารเสริมควรสอบถามเภสัชกรให้ละเอียดก่อนทาน
- ไม่จำเป็นต้องทานอาหารเสริมหลายตัวในคราวเดียวกัน
หากเราอยากบำรุงผิวพรรณ สามารถเลือกทานวิตามินอี หรือน้ำมันอีฟนิ่ง พริมโรส ที่มีคุณสมบัติในการบำรุงผิวพรรณใกล้เคียงกัน โดยไม่ต้องทาน 2 ตัวนี้พร้อมกัน ป้องกันการทานวิตามินซ้ำซ้อน หรือมากเกินไปโดยไม่มีความจำเป็น
- คอลลาเจน กลูต้า ยังไม่มีงานวิจัยรับรองชัดเจน
วิตามินอื่นๆ อาจมีรายงานชัดเจนว่าช่วยในเรื่องของอะไรได้บ้างอย่างชัดเจน แต่สำหรับคอลลาเจน และกลูต้าในรูปแบบของอาหารเสริม ที่ยังไม่มีผลงานวิจัยที่สามารถยืนยันถึงคุณสมบัติ และความปลอดภัยต่อร่างกายอย่างแท้จริงนั้น สามารถบอกได้ว่าผลลัพธ์ และความเสี่ยง อยู่ที่ตัวผู้บริโภคเองล้วนๆ
- สำรวจความจำเป็นก่อนทาน
อาหารเสริม ก็คืออาหารเสริม หมายถึงร่างกายขาดเราถึงต้องเสริม หากร่างกายของเราไม่ได้ขาดสารอาหารอย่างชัดเจนจนถึงขั้นต้องหามาทานเสริม ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปซื้อมาทาน หากคุณไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ทานอาหารไม่ค่อยมีประโยชน์ พักผ่อนน้อย หรือมีปัญหาใดปัญหาหนึ่งกับร่างกายจริงๆ อาจปรึกษาแพทย์เพื่อมองหาอาหารเสริมที่เหมาะสมกับร่างกายของเราจริงๆ ได้ การปรึกษาแพทย์ก่อนซื้ออาหารเสริมมาทาน นอกจากจะสามารถช่วยหาอาหารเสริมที่เหมาะกับร่างกายของเราจริงๆ แล้ว ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และลดภาวะการรับสารอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งมากเกินไปได้ด้วย
อาหารเสริมไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดีต่อร่างกายจนทำให้ตับไตวาย หากเราทานอย่างมีความรู้ ศึกษาหาข้อมูลเยอะๆ หรือปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทาน ดังนั้นควรเลือกทานอาหารเสริมกันอย่างมีสตินะคะ