ตับอ่อนอักเสบ ภัยเงียบที่เฝ้าระวัง
โรคตับอ่อนอักเสบ นับเป็นอีกหนึ่งมฤตยูเงียบที่พบไม่บ่อยนักเมื่อเทียบกับโรคในระบบทางเดินอาหารอื่น ๆ จะแสดงอาการก็ต่อเมื่อตับอ่อนของเราโดนจู่โจมเสียแล้ว ซึ่งจะรุนแรงมากน้อยแตกต่างกันไป บางกรณีไม่มีอาการบ่งชี้และไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน
ตับอ่อนเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งในระบบทางเดินอาหาร มีลักษณะเป็นต่อมขนาดใหญ่รูปร่างรียาวคล้ายใบไม้ อยู่ด้านหลังของกระเพาะอาหารใกล้กันลำไส้เล็กส่วนต้น ประกอบด้วยเซลล์หลัก 2 ชนิด คือเซลล์จากต่อมไร้ท่อ มีหน้าที่สร้างฮอร์โมนหลายชนิด เช่น อินซูลิน กลูคากอน มีหน้าที่ระดับน้ำตาลในเลือด และเซลล์จากต่อมมีท่อที่สร้างน้ำย่อยอาหารโดยเฉพาะไขมัน โดยน้ำย่อยจะผ่านเข้าไปในลำไส้เล็กผ่านทางท่อตับอ่อน
โรคที่พบบ่อยที่สุดในตับอ่อนก็คือ โรคตับอ่อนอักเสบ เกิดเมื่อน้ำย่อยในตับอ่อนไม่สามารถไหลผ่านท่อของตับอ่อนได้ทำให้เกิดน้ำย่อยทำการย่อยเนื้อเยื่อของตับอ่อนเองก่อให้เกิดการอักเสบขึ้น และเริ่มจะมีหินปูนไปเกาะที่ตับอ่อน ทำให้ตับอ่อนมีขนาดเล็กลง สมรรถภาพการทำงานลดลง
โดยแบ่งตามอาการได้ 2 ชนิด คือ การอักเสบแบบเฉียบพลัน มีอาการปวดท้องรุนแรงและตลอดเวลา ปวดร้าวไปถึงด้านหลัง มีอาการอาเจียมร่วมด้วย และการอักเสบแบบเรื้อรัง เพราะการรักษาไม่หายขาดจะทำให้กลับมาเป็นโรคอีก อาการปวดจะไม่มากแต่จะมีอาการอื่นตามมา เช่น ปวดท้องเรื้อรัง ไม่สามารถระดับน้ำตาลในเลือดได้ ท้องเสียเรื้อรัง ตัวเหลือง ตาเหลือง เป็นต้น ปัจจัยหลักๆ ที่จะส่งผลให้เกิดโรคที่พบมากก็คือการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการเป็นนิ่วในถุงน้ำดี เนื่องจากมีการใช้ท่อน้ำดีร่วมกัน แต่จะมีร้อยละ 5-10 ที่ตับอ่อนอักเสบโดยไม่พบสาเหตุว่าเกิดจากอะไร
ผู้ป่วยที่เป็นโรคตับอ่อนอักเสบที่อาการไม่รุนแรง แพทย์จะทำการตรวจเลือดเพื่อดูปริมาณเอนไซม์ว่าสูงขึ้นหรือไม่ ร่วมกับการทำอัลตร้าซาวด์ และเอกซเรย์คอมพิวเตอร์เพื่อให้การวินิจฉัยแม่นยำมากขึ้น แพทย์จะให้ผู้ป่วยงดน้ำ งดอาหาร เพื่อลดภาระการทำงานของตับอ่อนให้ทำงานน้อยลง พร้อมหยาลดอาการปวด ให้น้ำ 24-48 ชั่วโมงเพื่อไม่ให้ร่างกายของผู้ป่วยเกิดภาวะขาดน้ำ หากพบว่ามีการอักเสบมากจนเกิดการเน่าของเนื้อเยื่อตับอ่อน และมีโอกาสที่จะติดเชื้อสูง แพทย์จะใช้ยาปฎิชีวนะและผ่าตัดเพื่อทำความสะอาดในส่วนของตับอ่อนที่มีการอักเสบ โรคตับอ่อนอักเสบนั้นเป็นโรคที่มีอัตราการเสียชีวิตต่ำ ส่วนโรคตับอ่อนอักเสบเรื้อรังที่ยังหาสาเหตุไม่ได้ ผู้ป่วยต้องปฏิบัติตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด เพราะเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะลุกลามเป็นโรคอื่นได้ เช่น เบาหวาน หรือมะเร็งในตับอ่อนได้
ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ หรือรับประทานอาหารประเภทแป้ง ทอด ๆ มัน ๆ บ่อย ๆ หากพบว่าร่างกายของเรามีอาการผิดปกติที่สุ่มเสี่ยงต่อการเป็นโรคตับอ่อนอักเสบ ให้รีบพบแพทย์โดยด่วน เพื่อทำการรักษาไม่ให้ลุกลามไปยังโรคทางเดินอาหารเพิ่มเติมอีก เมื่อแพทย์ทำการรักษาจนเป็นปกติแล้วควรดูแลอาหารการกินอย่างเคร่งครัดเพื่อไม่ให้กลับมาเป็นอีก นอกจากนี้ยังทำให้ร่างกายของเราห่างจากโรคภัยอื่นด้วย