วิธีเลือกกระเช้าของขวัญปีใหม่ให้ดีต่อสุขภาพ

วิธีเลือกกระเช้าของขวัญปีใหม่ให้ดีต่อสุขภาพ

วิธีเลือกกระเช้าของขวัญปีใหม่ให้ดีต่อสุขภาพ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ชวนมอบกระเช้าสุขภาพ เน้นผักปลอดสารพิษ ผลไม้หลากสี ข้าว หรือผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผักและผลไม้ที่ถูกหลักสุขอนามัยเป็นของขวัญปีใหม่ สร้างสุขภาพดีรับปีใหม่

นายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยถึงการเลือกซื้อของขวัญในช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า ประชาชนส่วนใหญ่จะนิยมซื้อของขวัญเพื่อส่งมอบความสุขให้แก่กัน แต่ละคนก็จะเลือกซื้อของขวัญหลากหลายชนิดแตกต่างกันไป ซึ่งกระเช้าของขวัญถือเป็นสิ่งที่นิยมกันอย่างมากเพราะหาซื้อได้ง่ายและสะดวก แต่ส่วนใหญ่กระเช้าที่วางขายตามร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้ามักเป็นกระเช้าขนมหวาน คุกกี้ ขนมกรุบกรอบหรืออาหารกระป๋อง แต่หากกระป๋องไม่ได้มาตรฐาน บุบ เป็นสนิม หรือมีรอยแตกรั่ว หมดอายุจะทำให้อาหารปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์และเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้

ดังนั้นการมอบของขวัญปีใหม่ให้แก่กัน ควรมอบสุขภาพที่ดีด้วยการเลือกกระเช้าสุขภาพ ได้แก่ กระเช้าผลไม้หลากสีที่มีรสไม่หวาน เช่น ส้ม ฝรั่ง กล้วย มะม่วง ชมพู่ องุ่น หากเป็นกระเช้าผักสามารถจัดเป็นชุดเมนูต่าง ๆ เช่น แกงเลียง แกงจืด แกงป่า แกงส้ม แกงฟักทอง หรือผัดผักรวมมิตร ที่สามารถนำมาปรุงประกอบและรับประทานได้ทันทีภายในครอบครัว เพราะการรับประทานผักและผลไม้เป็นประจำจะช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงและป้องกันโรคโดยเฉพาะผักสีเขียวจะมีสาร คลอโรฟิลล์ และลูทีน ช่วยสร้างภูมิต้านทานโรค ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดการเสื่อมของจอประสาทตา และผนังเซลล์แข็งแรง ผักใบเขียวเข้ม ยังมีธาตุเหล็กและแคลเซียมที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันอีกด้วย ส่วนผักสีอื่นๆ เช่น สีแดง ม่วง เหลือง ส้ม จะมีสารไลโคปีน แอนโทไชยานิน เบตาแคโรทีน ช่วยบำรุงหัวใจ เสริมสร้างความจำ รักษาระบบทางเดินปัสสาวะและลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งบางชนิด

นายแพทย์วชิระ กล่าวต่อไปว่า สำหรับกระเช้าของขวัญประเภทอาหารแห้ง ข้าว และธัญพืชเป็นอีกทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ อาหารจำพวกข้าว มีทั้งข้าวไม่ขัดสีสายพันธ์ต่างๆ อาทิ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวหอมนิล ข้าวสังข์หยด เป็นต้น โดยข้าวจะมีสีสันที่สวยงามแปลกตา ยังให้ประโยชน์ด้านสารอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระ นอกจากข้าวสายพันธ์ต่างๆ แล้ว ธัญพืชที่อุดมไปด้วย สารอาหาร วิตามินและแร่ธาตุ ที่ดีต่อร่างกาย อาทิ ถั่วเมล็ดแห้งต่างๆ และงา เป็นต้น ซึ่งข้อดีของกระเช้าข้าวและธัญพืชนี้ยังเก็บได้นานโดยไม่เน่าเสียง่ายอีกด้วย แต่หากเก็บในสภาพที่มีความชื้นเกินไปหรือร้อนเกินไป คุณภาพของอาหารก็อาจจะเสื่อมลงได้ จะสูญเสียคุณค่าทางอาหาร และก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้บริโภคทั้งจากเชื้อแบคทีเรียหรือสารพิษเชื้อราที่เรียกว่าสารอะฟลาท็อกซิน ซึ่งความร้อนไม่สามารถทำลายได้ เป็นสารที่อาจทำให้เกิดโรคมะเร็งตับอีกด้วย

ดังนั้นอย่างน้อยจึงควรใส่ใจสังเกตความผิดปกติ เช่น หากมีเชื้อราปนเปื้อนก็สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าเมื่อราเจริญเติบโตจะมีลักษณะเป็นปุยคล้ายสำลี และมีสีต่างๆ ตามอาหารที่มันเจริญเติบโตตาม อาหารที่มันเจริญอยู่ เช่น ราเหลือง ราขาว ราเขียว ราดำ และราขนมปัง เป็นต้น การป้องกันที่ดีคือต้องเลือกอย่างพิถีพิถัน ธัญพืชพวกถั่วเมล็ดแห้งที่ใหม่และเก็บไว้ในภาชนะที่แห้งพอ โดยก่อนที่จะนำมาปรุงประกอบอาหารควรล้างให้สะอาด เพื่อขจัด  สิ่งปนเปื้อนที่อยู่ในเมล็ดถั่วแห้งและธัญพืชต่าง ๆ และควรปรุงสุกทุกครั้งก่อนนำมาบริโภค อีกทั้งควรหลีกเลี่ยงของขวัญประเภทอาหารที่มีแป้ง ไขมัน โซเดียมและน้ำตาลสูง เช่น เค้ก คุกกี้ ขนมกรุบกรอบ เครื่องดื่มรสหวาน น้ำอัดลมเป็นต้น และที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการให้เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ไม่ว่าจะเป็นเหล้า เบียร์ ไวน์ ฯลฯ เป็นของขวัญปีใหม่ เพราะส่งผลเสียต่อสุขภาพ

“ทั้งนี้ กระเช้าผลไม้ที่จะเก็บได้นาน ควรเลือกผลไม้ชนิดที่เปลือกบางหรือกินได้ทั้งเปลือกก่อน เช่น ชมพู่ องุ่น ฝรั่ง ละมุด เนื่องจากจะช้ำง่ายและเสียเร็ว จากนั้นคัดผลไม้เสียทิ้งไป และให้ทำความสะอาดสิ่งสกปรกด้วยการเช็ดไม่ควรล้าง นำไป   ผึ่งลมให้แห้ง หากมีปริมาณมากควรแยกเก็บแต่ละชนิด เช่น แอปเปิ้ล สาลี่ แก้วมังกร มังคุด มะม่วง ควรเก็บในถุงพลาสติก เจาะรู มะละกอ แตงไทย แคนตาลูป เก็บทั้งขั้วแล้วห่อด้วยกระดาษเก็บในถุงพลาสติกเจาะรู ส่วนกล้วยต้องเก็บแบบห่ามหรือสีเหลืองอ่อน โดยฉีกแยกเป็นผล เก็บในถุงพลาสติกที่มีกระดาษรอง มัดปากถุงพอให้มีอากาศถ่ายเท และเก็บไว้ในตู้เย็น ก่อนนำมาทานล้างให้สะอาด หากต้องการกระเช้าที่สามารถเก็บไว้ได้นานมากขึ้น ควรเลือกเป็นกระเช้าผัก ผลไม้แปรรูปหรือผลไม้อบแห้ง เช่น ธัญพืช กล้วยตาก กล้วยฉาบ ฟักทองกรอบ เป็นต้น โดยเลือกที่ไม่เค็มจัดหรือหวานจัดจนเกินไป” อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook