อีสุกอีใส VS มือเท้าปาก แตกต่างกันอย่างไร?
เด็กเล็กๆ ในช่วงนี้มีโรคระบาดให้คนเป็นพ่อแม่กังวลใจอยู่ไม่น้อย แต่โรคแรกๆ ที่เราอาจนึกถึงกันว่า “ทุกคนต้องเคยเป็น” นั่นคือ “อีสุกอีใส” เชื่อกันว่าหากได้เป็นอีสุกอีใสในตอนเด็ก จะดีกว่าเป็นโรคนี้ตอนโต เพราะโรคนี้เป็นแค่ครั้งเดียวในชีวิต และเพราะทิ้งตุ่มแผลตามร่างกายมากมาย หากเป็นตอนเด็กจะได้ไม่ทิ้งรอยแผลเป็นเมื่อโตขึ้น
แต่สำหรับโรค “มือเท้าปาก” นั่น มีอาการใกล้เคียงกับอีสุกอีใสมาก จนหลายคนแยกไม่ออก แถมยังเป็นโรคระบาดที่น่ากังวลอีกโรคหนึ่งเช่นเดียวกัน
ดังนั้น Sanook! Health จึงขออนญาตนำข้อมูลดีๆ จาก เฟซบุ๊คเพจ Infectious ง่ายนิดเดียว มาให้ทุกคนได้ทราบถึงความแตกต่างระหว่างอีสุกอีใส และมือเท้าปากกันค่ะ
ความแตกต่างระหว่าง โรคอีสุกอีใส และ โรคมือเท้าปาก
เชื้อที่พบ
อีสุกอีใส – Varicella (HHV3)
มือเท้าปาก – Enterovirus (Coxsackie)
อายุของผู้ป่วย
อีสุกอีใส – พบได้ทุกวัย ส่วนใหญ่เป็นครั้งเดียวในชีวิต (มีส่วนน้อยที่เป็นมากกว่า 1 ครั้ง)
มือเท้าปาก – มักพบในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และสามารถเป็นได้หลายครั้งในชีวิต
ระยะฟักตัว
อีสุกอีใส – 7-20 วัน
มือเท้าปาก – 3-5 วัน
ลักษณะของตุ่มบนผิวหนัง
อีสุกอีใส – ตุ่มน้ำใส คล้ายหยดน้ำกลมๆ บนพื้นแดง ตุ่มกระจาย มีหลายขนาดตั้งแต่เส้นผ่าศูนย์กลาง 0.1-0.5 มม.
มือเท้าปาก – ตุ่มน้ำในถึงขุ่น ขนาดมักใหญ่ และตุ่มมักรวมกันเป็นกลุ่ม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.2 มม. – 1 ซม.
วิธีป้องกัน
อีสุกอีใส – ฉีดวัคซีน (เชื้อเป็น) หลังสัมผัส 5 วัน
มือเท้าปาก – ไม่มีวัคซีน รักษาความสะอาด กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ
____________________
ไม่ว่าจะเป็นโรคอะไร ควรได้รับการวินิจฉัย และวิธีรักษาอย่างถูกวิธีจากคุณหมอนะคะ อย่าซื้อยามาทานเองเด็ดขาด เพราะเราอาจวินิจฉัยโรคผิด หรืออาจยิ่งทำให้อาการป่วยหนักไปกว่าเดิม หากถึงมือหมอได้ทันท่วงทีแล้ว โรคเหล่านี้ก็ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด รักษาหายได้แน่นอนค่ะ
>> อีสุกอีใส ไม่เคยเป็นควรฉีดวัคซีน เสี่ยงติดเชื้อรุนแรง-เสียชีวิต
>> โรค มือ-เท้า-ปาก และโรคจากเชื้อเอนเตอโรไวรัส 71