กินเยอะแต่ผอม ต้องถ่ายพยาธิจริงหรือ?

ทุกครั้งที่คุยกันเรื่องรูปร่าง คนที่ผอมมักได้เปรียบอยู่เสมอ เพราะไปทานอาหารกลางวันด้วยกันทุกวัน กินขนมตอนเย็นก็ไป งานบุฟเฟ่ต์ก็ไม่เคยพลาด แต่ทำไมคนที่ผอมก็ผอมอยู่อย่างนั้น ไม่อ้วนขึ้นเลย จนกระทั่งมีคนพูดขึ้นมาว่า “พยาธิเยอะแน่ๆ ไปถ่ายพยาธิด่วน” ก็ทำเอาคนผอมกลัวไปด้วย

จริงๆ แล้วคนที่ทานเยอะ แต่ผอม แปลว่าพยาธิเยอะจริงหรือไม่ ไปหาคำตอบกันค่ะ

 

ทำไม กินเยอะแต่ผอม?

สาเหตุของอาการกินเยอะแต่ผอม ไม่ได้มาจากการมีพยาธิอยู่ในร่างกายเพียงอย่างเดียว ยังมีอีกหลายสาเหตุที่ต้องดูอาการอื่นๆ ควบคู่กันไปด้วย เช่น อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย น้ำหนักลงอย่างรวดเร็ว ใจสั่น มือสั่น อาจเป็น โรคคอพอกเป็นพิษ หรือหาก มีไข้ และไอเรื้อรัง อาจเป็น โรควัณโรค และอาจเป็นอาการเริ่มต้นของโรคอื่นๆ เช่น โรคมะเร็ง หรือโรคเอดส์ได้อีกเช่นกัน

 

อาการแบบไหน ถึงเรียกได้ว่า “มีพยาธิ”?

• พยาธิไส้เดือน และพยาธิตัวตืด

อาการ ปวดท้องอาเจียน หรือถ่ายออกมาเป็นตัวพยาธิลักษณะเส้นๆ แบนๆ คล้ายเส้นบะหมี่

 

• พยาธิเส้นด้าย หรือเข็มหมุด

อาการ คันทวารหนักในตอนกลางคืน

 

• พยาธิปากขอ

อาการ หน้าซีด ตัวซีด เนื่องมาจากพยาธิเกาะตัวที่ลำไส้ และดูดเลือดจากผู้ป่วย

 

 

ถ้าไม่มีอาการผิดปกติอะไรเลย หมายความว่าอะไร?

หากกินเยอะแต่ผอม โดยไม่มีอาการผิดปกติอื่นๆ อาจเป็นเพราะคุณเป็นคนที่ทำงานหนัก กิจกรรมเยอะ หรือไม่ได้ทานเยอะอย่างที่คิด อาจเลือกทานเยอะเฉพาะอาหารที่ไม่ได้ทำให้อ้วนง่าย ดังนั้นคุณก็อาจสบายใจได้ว่าไม่ได้มีพยาธิอย่างที่คิด แต่ถ้ายังไม่สบายใจ ไม่แน่ใจ หรือมั่นใจว่าทานแต่อาหารที่อ้วนง่าย แต่น้ำหนักไม่เคยเพิ่มเลย อาจลองไปตรวจสุขภาพกับแพทย์ได้ เพราะคนผอมก็มีความเสี่ยงเป็นโรคไขมันในเลือดสูง หรือเบาหวานได้เช่นกัน

 

ถ้าอยากถ่ายพยาธิด้วยตนเอง ต้องทำอย่างไร?

อันที่จริงไม่อยากแนะนำให้ซื้อยาถ่ายพยาธิทานเอง เพราะก่อนจะซื้อยามาทาน ต้องทราบก่อนว่ากำลังมีพยาธิชนิดใดอยู่ ถึงจะเลือกยาที่ถ่ายเฉพาะพยาธิตัวนั้นออกมาได้ แต่หากทราบชนิดของพยาธิแล้วจริงๆ ก็สามารถหาซื้อยาถ่ายพยาธิได้ที่ร้านขายยาทั่วไป แต่ทางที่ดีควรได้รับการตรวจอย่างแน่ชัด รวมถึงรับยาถ่ายพยาธิจากแพทย์โดยตรงจะดีกว่า

 

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ไม่ควรทานยาถ่ายพยาธิเพียงเพราะเชื่อว่า ร่างกายต้องมีพยาธิแน่ๆ เพราะกินเยอะแต่ยังผอม เพราะปัจจัยที่ทำให้กินเยอะแต่ผอม อาจไม่ได้มาจากพยาธิก็เป็นได้ ขึ้นอยู่กับพลังงานของคุณที่ใช้ในแต่ละวัน หรือชนิดอาหารที่คุณทานเข้าไปด้วย หากร่างกายแข็งแรงเป็นปกติดี ก็ไม่ต้องกังวลใจให้มากจะดีกว่า