6 วิธีลดปวดหลัง-ปวดเอว ชาวออฟฟิศต้องลอง
บริเวณบั้นเอว หรือหลังส่วนล่างของเรา เป็นจุดที่เราได้รับบาดเจ็บกันบ่อยๆ ทั้งจากการยกของหนัก การออกกำลังกาย หรืออุบัติเหตุอื่นๆ รวมไปถึงพนักงานออฟฟิศที่ต้องนั่งหลังขดหลังแข็งจิ้มแป้นพิมพ์อยู่หน้าจอทั้งวันอีกด้วย ในบางครั้ง อาการปวดเอว ปวดหลังที่ว่า อาจทำให้เราไม่สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้สะดวก บางคนถึงขั้นต้องไปพบแพทย์เพื่อทำกายภาพบำบัดกันเป็นเดือนๆ เลยทีเดียว
แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เราจะมีอาการปวดไปมากกว่านี้ เรามีขั้นตอนง่าย ๆ ที่จะช่วยบรรเทาอาการบาดเจ็บของหลังและเอว ให้คุณได้ ด้วย 6 ขั้นตอนนี้
-
หยุดพักผ่อน
หากอาการบาดเจ็บนั้น เกิดจากการเข้ายิม ออกกำลังกาย หรือการยกของหนัก ให้หยุดกิจกรรมนั้นชั่วคราว เปลี่ยนมาเป็นการพักผ่อนสบายๆ หรืออาจจะเดินออกกำลังกายได้ วิ่งเหยาะๆ ได้บ้าง แต่ต้องเลือกทำกิจกรรมที่จะไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายเพิ่มขึ้นนะ
-
นวดกับมืออาชีพ
บางครั้งการนวดเพื่อการรักษา ก็สามารถช่วยบรรเทาอาการบาดเจ็บในลักษณะนี้ได้เช่นกัน แต่ต้องมั่นใจว่าเป็นมืออาชีพจริงๆ นะ เพราะหากนวดไม่ถูกวิธี เราอาจบาดเจ็บมากกว่าเดิม
-
การใช้ถ้วยสุญญากาศ
ถ้วยสุญญากาศ หรือที่เรียกกันว่า Cupping นั้น เป็นวิธีที่ช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อได้ และยังช่วยให้ออกซิเจนในเลือด และเลือดมีการไหลเวียน นับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ชอบการแพทย์ทางเลือก แต่อาจไม่เหมาะกับทุกคน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนลองใช้วิธีนี้
-
นวดด้วยลูกกลิ้ง
บางคนหลังจากที่ได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่ได้ไปหาวิธีการรักษาใดๆ วิธีหนึ่งที่จะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นได้ด้วยตัวเองก็คือ การใช้ลูกกลิ้งนวด โดยให้กลิ้งนวด บริเวณที่รู้สึกปวด กลิ้งไปข้างหน้า และหลัง ช้าๆ ราว 10 นาที อาจจะรู้สึกว่าอาการปวดทุเลาขึ้น
-
รับประทานอาหารที่ช่วยลดการอักเสบ
เมื่อเวลาที่ร่างกายมีอาการบาดเจ็บ วิธีหนึ่งที่จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วก็คือ การรับประทานอาหารที่มีส่วนช่วยลดการอักเสบ เช่นอาหารจำพวกน้ำมันปลา อาหารพวกนี้ ลดการอักเสบ ช่วยระบบการต่อต้านการอักเสบของร่างกาย ทำให้ร่างกายสามารถฟื้นตัวจากอาการเจ็บป่วยได้เร็วขึ้น
-
ใช้น้ำแข็ง
หากมีอาการปวดมาก จนอาจถึงขั้นปวดบวม อาจลองใช้น้ำแข็งประคบบริเวณที่เจ็บปวดได้ ควรประคบด้วยน้ำแข็งก้อนเล็กวนๆ โดยใช้เวลาไม่นาน เพียง 10-15 นาที หากยังไม่ดีขึ้นควรหยุดแล้วปรึกษาแพทย์
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า จริงๆ แล้วที่สำคัญคือ “การป้องกันดีกว่าการรักษา” เราควรป้องกันร่างกายของเราไม่ให้บาดเจ็บ เสียหาย ยิ่งหากเป็นบริเวณหลังและเอวแล้ว เราต้องระมัดระวังให้มากเป็นพิเศษ เพราะเป็นส่วนของกระดูกสันหลังที่สำคัญต่ออวัยวะส่วนอื่นในร่างกายเป็นอย่างมาก หากมีอาการปวดมากผิดปกติ หรือปวดบ่อยๆ จนทนไม่ไหว ควรปรึกษาแพทย์จะดีกว่า