“ล้างมือ” ด้วยน้ำอุ่น หรือ น้ำเย็น “ฆ่าเชื้อโรค” ได้ไม่ต่างกัน
การล้างมือทั้งก่อนและหลังทำกิจกรรมใดๆ สามารถช่วยป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ ซึ่งจากผลการศึกษาที่เผยแพร่ในวารสาร Journal of Food Protection พบว่า การล้างมือไม่ว่าจะล้างด้วยน้ำอุ่น หรือน้ำเย็น ล้วนให้ผลที่ไม่แตกต่างกันในการฆ่าเชื้อโรค
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Rutgers University ของสหรัฐอเมริกา ทดลองให้อาสาสมัครจำนวน 21 คน ล้างมือในรูปแบบที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปริมาณของสบู่ (0.5 มิลลิลิตร, 1 มิลลิลิตร, 2 มิลลิลิตร), ชนิดของสบู่หรือเจลล้างมือที่ใช้, อุณหภูมิของน้ำ (15 องศาเซลเซียส, 26 องศาเซลเซียส, 37 องศาเซลเซียส) และระยะเวลาในการถูสบู่ เพื่อหาความแตกต่างในการฆ่าเชื้อโรค
โดยศาสตราจารย์โดนัลด์ ชาฟฟ์เนอร์ ผู้ทำการวิจัยดังกล่าว ระบุถึง ผลการทดลองว่า “อุณหภูมิของน้ำ” ไม่มีผลใดๆ ต่อประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรค หลังจากที่ผ่านมา มีข้อถกเถียงกันมาตลอดเรื่องอุณหภูมิน้ำที่เหมาะสมต่อการล้างมือ เพราะส่วนใหญ่มักมีความเชื่อว่าล้างมือด้วยน้ำอุ่น สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ดีกว่า
นอกจากนี้ ยังพบด้วยว่า ผลิตภัณฑ์ล้างมือที่เป็นสูตรแอนตี้แบคทีเรีย รวมถึงปริมาณผลิตภัณฑ์ที่ใช้ ก็ไม่ได้มีผลในการฆ่าเชื้อโรคที่แตกต่างกัน แต่สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าเราล้างมือสะอาด ปลอดจากแบคทีเรียแล้วหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ใช้ในการล้างมือมากกว่า ซึ่งระยะเวลาที่แพทย์แนะนำสำหรับการล้างมือควรจะใช้เวลาอย่างน้อย 10 วินาที