นานาเหตุผล ทำไมบางคนถึงเลี่ยงการมี “เซ็กซ์”
การมีเซ็กซ์หรือเพศสัมพันธ์ ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับคนที่ใช้ชีวิตคู่ แต่ก็มีบางคนที่เลี่ยงการมีเซ็กซ์ด้วยเหมือนกัน
เชอร์วิน อาสซารี่ นักวิจัยด้านพฤติกรรมมนุษย์, จิตเวช และสาธารณสุข แห่งมหาวิทยาลัยมิชิแกน ในสหรัฐอเมริกา กล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ในเว็บไซต์ theconversation.com ว่า คนที่ปฏิเสธการมีเพศสัมพันธ์กับคู่ของตัวเอง ส่วนใหญ่มีความเชื่อมโยงเกี่ยวกับความเศร้าภายในจิตใจ, มีความกังวลใจ, ซึมเศร้า หรือไม่ก็กำลังมีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์กับคู่ของตนเอง
ขณะที่ผลการวิจัยบางชิ้นระบุว่า มีผู้หญิงมากถึง 40 เปอร์เซ็นต์ที่ไม่อยากมีเซ็กซ์ เพราะมีประสบการณ์เจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ หรือไม่ก็เป็นเพราะไม่ค่อยรู้สึกมีอารมณ์ทางเพศ
นอกจากนี้ ยังพบด้วยว่า ผู้หญิงมีแนวโน้มจะปฏิเสธการมีเซ็กซ์มากกว่าผู้ชาย ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะในวัยเด็กเคยถูกล่วงละเมิดทางเพศจนเกิดความฝังใจ และรู้สึกทางลบกับเพศตรงข้าม
ส่วนผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ และไม่ยอมมีกิจกรรมบนเตียงกับสามีนั้น เป็นเพราะกลัวว่าจะแท้งลูก หรือเกรงว่าอาจจะเป็นอันตรายต่อลูกในครรภ์ได้ รวมถึงมีอาการเหนื่อยล้าจนทำให้ความต้องการทางเพศลดลง
ขณะที่เหตุผลหลักๆ ที่ทำให้ฝ่ายชาย ไม่อยากมีเซ็กซ์ มีทั้งหย่อนสมรรถภาพทางเพศ, ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง หรือไม่มีโอกาสได้มีเซ็กซ์ในช่วงวัยรุ่นมาก่อน
ทั้งนี้ ปัญหาด้านสุขภาพ ถือเป็นสาเหตุสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายไม่อยากมีเซ็กซ์ เช่น คนที่ป่วยเป็นโรคหัวใจ มักจะเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ เพราะกลัวว่าจะทำให้เกิดอาการหัวใจวายขึ้นได้จึงไม่อยากเสี่ยง
ส่วนคนที่เป็นโรคเบาหวานและอ้วนลงพุง ก็มักจะลดกิจกรรมทางเพศลงจากเดิม เพราะเบาหวานมีผลต่อการมีเซ็กซ์ด้วยเช่นกัน อีกทั้งปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวเกิน หรืออ้วนลงพุงก็ทำให้คู่ของตัวเองหมดอารมณ์ที่อยากจะเข้าใกล้หรืออยากมีอะไรด้วย