อาหารลดไขมันพอกตับ ยิ่งทานยิ่งดีต่อสุขภาพ

อาหารลดไขมันพอกตับ ยิ่งทานยิ่งดีต่อสุขภาพ

อาหารลดไขมันพอกตับ ยิ่งทานยิ่งดีต่อสุขภาพ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ไขมันพอกตับ เป็นภาวะที่หลายคนกำลังเผชิญ เพราะพฤติกรรมการทานอาหารที่ไม่ระวัง ตามใจปากมากเกินไป จนทำให้น้ำหนักเกินมาตรฐาน อ้วนลงพุง ความดันโลหิตสูง และเสี่ยงเป็นไขมันพอกตับตามมา ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการตับอักเสบ หรือพัฒนาเป็นมะเร็งตับได้ในอนาคต น่ากลัวใช่เล่นนะ

อ่านต่อ >> พฤติกรรมเสี่ยง “ไขมันพอกตับ” ภัยเงียบที่กว่าจะรู้ตัวก็อาจสายเกินไป

 

แพทย์มักแนะนำให้ลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย ลดการทานอาหารที่มีน้ำตาล แป้ง ไขมัน (เลว) สูง เช่น อาหารทอด อาหารปิ้งย่าง ขนมในร้านเบเกอรี่ต่างๆ แต่ถ้าไอ้นู่นก็งด ไอ้นี่ก็งด แล้วเราต้องทานอะไรเพื่อช่วยลดไขมันพอกตับล่ะ? มาดูกันเลย

 

อาหารลดไขมันพอกตับ ยิ่งทานยิ่งดีต่อสุขภาพ

หากอยากลดไขมันเลว ควรเอาไขมันดีเข้าสู้ เพราะไขมันดีจะช่วยลดการสังเคราะห์ไตรกลีเซอไรด์ในตับได้ ไขมันดีพบได้ในอาหารมากมาย เช่น

1. ปลาทะเลน้ำลึก อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่ามีอยู่ใน แซลมอน สำหรับปลาไทยๆ สามารถทานปลาสวาย ปลาทู ปลาซาบะ ได้ แต่ปลาเหล่านี้หากทานมากอาจได้รับไขมันอิ่มตัวสูงไปด้วย ดังนั้นควรทานปลาเหล่านี้คู่กับผัก เพื่อช่วยจับไขมันส่วนเกินออกไปได้บ้าง และวิธีทานปลาเหล่านี้ไม่ควรปรุงด้วยการทอด เพราะจะทำให้โอเมก้า 3 ที่จะเข้าไปช่วยลดไตรกลีเซอไรด์หายไป ควรใช้วิธีต้ม นึ่ง หรืออบแทน

2. น้ำมันพืชชนิดต่างๆ เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันเมล็ดฟักทอง น้ำมันคาโนลา น้ำมันรำข้าว แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นไขมันที่ดี ก็ไม่ควรทานเยอะเกินไปอยู่ดีนะคะ เพราะน้ำมันให้พลังงานสูง หากทานมากกว่าที่เราจะเผาผลาญหมด ก็มีสิทธิ์อ้วนได้เช่นกัน

3. ถั่วชนิดต่างๆ เช่น อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เฮเซลนัท แมคคาเดเมีย พิสตาชิโอ ข่าวดีคือการทานถั่ววันละ 30 กรัม (ประมาณ 1 กำมือ) คู่กับอาหารที่มีประโยชน์อื่นๆ จะช่วยลดน้ำหนักได้มากกว่า 2 เท่าของคนที่ไม่ทานถั่วเลย

4. ผัก ผลไม้ และธัญพืชที่มีใยอาหารสูง เช่น ข้าวกล้อง (แทนข้าวขาว) บล็อกโคลี่ คะน้า ผักกาด ตำลึง ผักบุ้ง อโวคาโด แอปเปิ้ล ฝรั่ง แตงโม ส้ม ฯลฯ หากอยากทานขนมปัง ให้เลือกเป็นแบบโฮลวีทที่มีธัญพืชผสมด้วย

อ่านต่อ >> 6 อาหารไขมัน (ดี) ที่คุณต้องทาน

 

ทั้งนี้อย่าลืมว่าอาหารทุกมื้อสำคัญ ทานให้ครบ 3 มื้อ และครบ 5 หมู่อาหาร เน้นผ้กผลไม้มากกว่าคาร์โบไฮเดรต แล้วออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อย 3-4 วันต่อสัปดาห์ ครั้งละอย่างน้อย 45 นาที - 1 ชั่วโมง เท่านี้คุณก็ห่างไกลจากความเสี่ยงในการเป็นไขมันพอกตับแล้วล่ะค่ะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook