5 เคล็ดลับป้องกันอาการ “ไอ-ระคายคอ” ตอนกลางคืน

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่อากาศเย็น เป็นหวัด หรือระคายคอทีไร ก็ต้องตื่นกลางดึกขึ้นมาไออยู่ตลอดเวลา ไม่ได้หลับได้นอนอย่างเต็มที่ แถมยังรบกวนคนที่นอนข้างๆ ให้ตื่นขึ้นมาพร้อมคุณด้วย ยิ่งไปกว่านั้นอาการไอ ระคายคอมักเป็นในตอนกลางคืน หนักกว่าตอนกลางวันเข้าไปอีก คุณคงจะรำคาญ และอยากให้อาการเหล่านี้หยุดไปเสียที

 

ทำไมเรามักไอ ระคายคอตอนกลางคืน?

มีความเป็นไปได้ว่า ในระหว่างที่นอนหลับในตอนกลางคืน เราไม่ได้ควบคุมน้ำลาย น้ำมูก หรือเสมหะระหว่างวันเหมือนกับตอนที่เราใช้ชีวิตในตอนกลางวัน ที่เราอาจมีการกลืนน้ำ กลืนอาหาร กลืนน้ำลาย สั่งน้ำมูก หรือบางคนก็ขากสเลดออกบ้าง ดังนั้นเมื่อเวลานอนผ่านไปเรื่อยๆ ในตอนกลางคืน น้ำมูกกับเสมหะที่สะสมอย่างช้าๆ อาจทำให้เราต้องตื่นขึ้นมากำจัดน้ำมูกและเสมหะเหล่านี้ออกไปจากทางเดินหายใจบ้าง

อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่ได้เป็นหวัด หรือเป็นคนที่มีน้ำมูก เสมหะในจมูก และลำคอตลอดเวลา คุณอาจมีความผิดปกติที่ระบบทางเดินหายใจ เช่น ติดเชื้อ ไซนัส หรืออื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

แต่หากอยากนอนหลับสบายๆ ในคืนนี้ ลองดูวิธีที่จะช่วยคุณได้ดังต่อไปนี้ค่ะ

 

เคล็ดลับป้องกันอาการ “ไอ-ระคายคอ” ตอนกลางคืน

1. ปรับเปลี่ยนท่านอน

ท่านอนแต่ละท่าให้ความสบายต่อร่างกายของคนเราไม่เหมือนกัน ไม่มีท่านอนไหนที่แนะนำเป็นพิเศษ คุณต้องลองเปลี่ยนท่านอนดูว่าท่านอนแบบไหนที่ทำให้คุณนอนหลับสบายไปตลอดทั้งคืนได้มากกว่ากัน บางคนชอบนอนหงาย บางคนชอบนอนตะแคง แต่ไม่อยากให้นอนคว่ำ เพราะทำให้หายใจไม่สะดวก

นอกจากนี้การเลือกหมอนที่มีความหนานุ่มกำลังพอดีกับคอ ไม่สูง และไม่ต่ำจนเกินไป ก็ช่วยลดความระคายเคืองของจมูก และคอได้เช่นเดียวกัน

 

2. ล้างจมูก

การล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ เป็นการทำความสะอาดภายในโพรงจมูก และช่วยเคลียร์ทางเดินหายใจให้โล่งขึ้น สะอาดขึ้น ช่วยลดน้ำมูก เสมหะ หรือสิ่งสกปรกต่างๆ ในโพรงจมูกได้ หากได้ล้างจมูกก่อนนอน ก็จะทำให้นอนหลับได้สบายมากขึ้นไปด้วย

คลิป วิธีล้างจมูก โดยหมอศิริราช

 

3. เพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย

ยิ่งหนาว ยิ่งอากาศเย็น อาการระคายคอก็เริ่มรุนแรงขึ้น ดังนั้นนอกจากงดน้ำเย็นระหว่างวันแล้ว หากได้น้ำอุ่นๆ ก่อนนอนสักแก้ว รวมถึงนอนห่มผ้าถึงคอ หรือพันผ้าพันคอนอน และเลือกที่จะไม่เปิดแอร์ ก็จะช่วยให้อาการไอดีขึ้นได้ แต่ถ้าอากาศร้อนมากจนไม่สามารถปิดแอร์ ปิดพัดลมนอนได้ ก็เลือกที่จะเปิดเบาๆ และอย่าเปิดจ่อใส่ตัวตรงๆ

 

4. ยาลดน้ำมูก

ยาลดน้ำมูกจะช่วยลดน้ำมูก และเสมหะขณะนอนได้ แต่หากทานยาลดน้ำมูกตามที่แพทย์สั่งไปหมดแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปซื้อยาลดน้ำมูกมาทานเอง เพราะไม่ว่าอย่างไรการไอ การจาม รวมไปถึงการที่ร่างกายผลิตน้ำมูก หรือเสมหะออกมา ก็เป็นกระบวนการของร่างกายที่พยายามต่อต้านกับไวรัส หรือเชื้อแบคทีเรียที่กำลังได้รับ และอาการทุกอย่างจะค่อยๆ ดีขึ้น เมื่อไวรัสหรือแบคทีเรียถูกกำจัดออกไปจากร่างกาย ดังนั้นสามารถทานยาลดน้ำมูกได้ แต่ตามที่แพทย์สั่งเท่านั้นพอ

 

5. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

ถึงแม้ว่าอาการไอ ระคายเคืองคอจะทำให้คุณต้องตื่นขึ้นมากลางดึกอยู่เป็นระยะๆ จนอาจทำให้ไม่ได้นอนหลับเต็มตื่นสักคืน แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องฝืนตัวเองนอนให้ร่างกายได้พักอย่างเต็มที่ให้ได้ เพราะเมื่อร่างกายแข็งแรง สร้างภูมิต้านทานโรคขึ้นมาสู้กับไวรัสและแบคทีเรียได้เมื่อไร อาการทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง ดังนั้นจงพยายามนอนหลับให้ได้มากๆ ต่อไป

 

อย่างไรก็ตาม หากอาการไอ ระคายเคืองคอเป็นอาการที่เป็นมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน และไม่ได้มาจากการเป็นหวัด มีไข้ ไม่สบาย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง และทำการรักษาอย่างตรงจุดอีกครั้ง