เตือนเด็กๆ และผู้ปกครอง “ฝันหวาน” “กดหลับ” อันตรายถึงชีวิต

เตือนเด็กๆ และผู้ปกครอง “ฝันหวาน” “กดหลับ” อันตรายถึงชีวิต

เตือนเด็กๆ และผู้ปกครอง “ฝันหวาน” “กดหลับ” อันตรายถึงชีวิต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เฟซบุ๊ก ความรู้สนุกๆ แบบหมอแมว เตือนเด็กและผู้ปกครองถึงอันตรายของการละเล่นฝันหวานหรือ กดหลับที่เป็นการกดหน้าอกของเพื่อนระหว่างหายใจเข้าออกลึกๆ จนเพื่อนหมดสติไปชั่ววูบ เมื่อปลุกให้เพื่อนตื่น เด็กๆ จะสอบถามอาการในช่วงที่เพื่อนสลบไปว่ารู้สึกอย่างไร เห็นอะไรบ้าง

ความอันตรายอยู่ที่การขาดอากาศหายใจ และการสลบโดยที่สมองได้รับการกระทบกระเทือนจากการล้มลงฟาดกับของแข็งต่างๆ เพราะเพื่อนช่วยประคองร่างหลังจากที่สลบไปแล้วเอาไว้ไม่ทัน นอกจากนี้บางรายใช้วิธีนำเชือกมารัดคอให้สลบ แต่เลยเถิดไปจนขาดอากาศหายใจไปนาน และเสียชีวิตได้เช่นกัน

รายละเอียดของการละเล่นนี้เป็นอย่างไร กลไกที่ทำให้สลบ รวมถึงข้อสังเกตสำหรับผู้ปกครอง เพื่อสังเกตร่างกายของบุตรหลานว่าเคยมีประสบการณ์เรื่องนี้หรือไม่ สามารถศึกษาต่อได้จากโพสต์ของ หมอแมว ค่ะ

 

____________________

 

ฝันหวาน กดหลับ การละเล่นอันตราย ถึงตายได้

การละเล่นหนึ่งที่กลับมาระบาดเป็นช่วงๆในช่วงเปิดเทอม ก็คือการเล่น "ฝันหวาน" 

ฝันหวาน กดหลับ เป็นชื่อเรียกการละเล่นอันตรายนี้ โดยเป็นการละเล่นที่แพร่มาจากฝั่งสหรัฐอเมริกา 

ในสหรัฐจะมีชื่อเรียกหลายแบบกัน ได้แก่  choking game, fainting game, Space Cowboy, blackout dream game ฯลฯ 

การเล่นนี้ทำโดยให้หายใจเข้าออกลึกๆ หลายๆ ครั้งเร็วๆ จนกระทั่งมือชา จากนั้นให้คนรอบๆเข้าไปกดหน้าอก  หรือเบ่งท้อง หรือเอาเชือกรัดคอ บีบคอ

คนที่ทำจะเกิดอาการวูบหมดสติลงไป มือชา มึนงง อาการหมดสติเหมือนกับคนเป็นลม 

 

กลไกในการเป็นลมและเกิดอาการ

1. การรัดคอ ทำให้อากาศไม่ไปเลี้ยงสมองจนหมดสติ 

2. การหายใจเร็วๆ ทำให้คาร์บอนไดออกไซด์ในตัวต่ำลง เกิดภาวะเลือดเป็นด่างเล็กน้อยซึ่งทำให้หลอดเลือดขยายตัว เกิดความดันต่ำง่ายกว่าปกติ 

3. การกดท้องหรือเบ่ง ทำให้แรงดันในช่องอกมากขึ้นจนเลือดที่ออกจากหัวใจไปสมองลดลง 

 

เด็กที่อยู๋ในวัยเสี่ยงคือวัยช่วง 6-19 ปี เพราะเป็นช่วงที่ไปโรงเรียนแล้วและเจอเพื่อนๆ เพื่อนบางกลุ่มจะกดดันจนทำให้อยากเล่น เพราะเมื่อเล่นแล้วเด็กๆที่เล่นชอบมาเล่าประสบการณ์ก่อนเป็นลมลงไป 

 

ในสหรัฐมีผู้ที่เสียชีวิตจากการเล่นแบบนี้อยู่พอสมควร โดยแบ่งเป็นส่วนที่เสียชีวิตจากการเล่นคนเดียวแล้วเมื่อสลบ พลาดไปอยู๋ในท่าที่หลอดลมถูกกด หรือใช้เชือกในการเล่น จนพลาดเชือกรัดคอเสียชีวิต กับอีกส่วนหนึ่งคือเล่นกับเพื่อนๆแล้วพลาด ล้มลงไปผาดถูกของแข็งของมีคนจนเสียชีวิต ซึ่งทั้งหมดนี้เชื่อว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตจริงๆน่าจะมากกว่านี้ เพราะว่าหลายกรณีเกือบถูกรายงานเป็นการฆ่าตัวตาย กับตายไม่ทราบสาเหตุ 

 

เนื่องจากส่วนมากเด็กที่เล่นจะไม่บอกผู้ปกครอง สิ่งที่พอจะสังเกตได้ก็คือ 

1. รอยช้ำที่ลำคอ เป็นรอยมือหรือรอยเชือก 

2. เลือดออกในตาขาว 

3. อาการปวดหัวบ่อยๆ 

4. รอยแผลหรือรอยช้ำที่ไม่มีสาเหตุชัดเจน 

5. การเป็นลมขณะอยู่ในช่วงพักกลางวันแบบไม่มีสาเหตุ 

 

การละเล่นนี้ถือว่าเป็นปัญหาพอสมควร เพราะว่าผู้ใหญ่มักจะไม่ทราบว่าเด็กเล่นแบบนี้อยู่ทำให้ไม่ได้เกิดการห้ามปราม 

รวมทั้งความกลัวว่าการพูดถึงการเล่นแบบนี้จะทำให้เด็กเลียนแบบ เลยกลายเป็นว่าผู้ใหญ่ก็ไม่ค่อยทราบกัน

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook