5 เมืองที่มีประชากรสุขภาพแข็งแรง และอายุยืนที่สุดในโลก

5 เมืองที่มีประชากรสุขภาพแข็งแรง และอายุยืนที่สุดในโลก

5 เมืองที่มีประชากรสุขภาพแข็งแรง และอายุยืนที่สุดในโลก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ค่าเฉลี่ยของอายุคนทั่วโลกอยู่ที่ราวๆ 71.4 ปี นั่นหมายความว่าในหลายๆ ประเทศอาจจะมีค่าเฉลี่ยของอายุน้อยกว่านี้ และในอีกหลายประเทศก็มีค่าเฉลี่ยของอายุมากกว่านี้ มีเวลาใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข และมีอายุที่ยืนยาวกว่านี้

ทั้ง 5 เมืองเหล่านี้ จัดว่าเป็นเมืองที่อยู่ใน Blue Zones หรือเมืองที่เต็มไปด้วยเหล่าผู้คนที่มาพักอาศัย และมีชีวิตที่แข็งแรง และอายุยืน Dan Buettner นักเขียนหนังสือ The Blue Zones และThe Blue Zones Solution อธิบายถึง 5 เมืองที่จัดอยู่ในเขตพื้นที่ Blue Zones และพฤติกรรมในการใช้ชีวิตของคนในเมืองนั้นๆ ที่เราควรนำมาปรับใช้เพื่อให้มีชีวิตที่แข็งแรง และอายุยืนยาว ที่พวกเราสามารถนำปรับมาใช้ได้ไม่ยาก

 

Sardinia, Italy

เมืองซาร์ดิเนีย ประเทศอิตาลี เป็นหนึ่งในเมืองที่อยู่ในเขต Blue Zones ที่มีประชากรเพศชายอายุยืนมากกว่า 100 ปีมากที่สุดในโลก ส่วนใหญ่พวกเขาประกอบอาชีพเป็นเกษตรกรเลี้ยงแกะ เดินมากกว่า 5 ไมล์ (8 กิโลเมตร) ทุกวัน และมีลูกสาวที่คอยช่วยเหลือ และดูแลสุขภาพอย่างใกล้ชิด ผู้คนในเมืองนี้นิยมทานอาหารที่มาจากพืช ออกกำลังกายโดยการทำกิจกรรมต่างๆ เล็กๆ น้อยๆ ระหว่างวัน นอกจากนี้ยังมีความสัมพันธ์ในครอบครัวกันอย่างใกล้ชิดอีกด้วย ทำให้สุขภาพที่แข็งแรง และอายุยืนยาวเป็นคุณสมบัติที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นได้ไม่ยาก

 

Okinawa, Japan

เชื่อว่าเมื่อพูดถึงผู้เฒ่าผู้แก่อายุยืน หลายคนนึกถึงประเทศญี่ปุ่น และเป็นเมืองที่มีประชากรเพศหญิงที่มีอายุมากกว่า 100 ปีมากที่สุดในโลก แม้ว่าในหลายๆ เมืองจะเน้นไปที่ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของคนในครอบครัว แต่สำหรับคนชราในเมืองโอกินาว่า ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของคนในสังคมรอบบ้าน เพื่อนฝูงในหมู่บ้าน เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้คนชราชาวญี่ปุ่นในเมืองนี้ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านช่วงชีวิตทั้งดีและร้ายมาได้อย่างเข้มแข็ง ช่วยขจัดความหมองเศร้าอันเป็นสาเหตุของโรคซึมเศร้าในวัยชรา และต่างคนต่างร่วมกันแบ่งปันวิถีชีวิตดีๆ ร่วมกันอีกด้วย

 

Nicoya, Costa Rica

ผู้คนในเมืองนิโกยา ประเทศคอสตาริกาก้าวล้ำไปกว่าคนในเมืองอื่นๆ ไปอีกขั้น จากที่ผู้คนส่วนใหญ่แค่พยายามหลีกเลี่ยงอาหารสำเร็จรูป แต่คนในเมืองนี้บริโภคถั่ว น้ำเต้า ข้าวโพด และผลไม้เมืองร้อนเพื่อเป็นพลังงานในการใช้ชีวิตแต่ละวัน จะเห็นได้ว่าชาวเมืองนิโกยาทานอาหารที่มาจากพืช และเลือกทานแต่อาหารที่เต็มไปด้วยสารอาหารดีๆ ทุกวัน บวกกับกิจกรรมกลางแจ้งที่มีให้เลือกทำมากมาย จึงทำให้ชาวเมืองนิโกยามีสุขภาพที่แข็งแรงทั้งร่างกาย และจิตใจ มีความสุขไปจนถึงช่วงอายุบั้นปลายในวัยราวๆ 90 ปี

 

Loma Linda, Calif., U.S.A.

เมืองโลมาลินดา แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เป็นชุมชนของคนนับถือคริตส์ นิกายเซเวนเดย์ แอดเวนติสต์ หรือคริสตจักรวันเสาร์ (Seventh-day Adventist) แม้ว่าจะเป็นเมืองที่อยู่ในประเทศที่นิยมอาหารฟาสต์ฟู้ดเป็นชีวิตจิตใจ แต่ด้วยแรงศรัทธาทางศาสนาของผู้คนในเมืองนี้ ทำให้พวกเขาเป็นกลุ่มชนชาวอเมริกันที่หลีกเลี่ยงการทานเนื้อสัตว์ และเลือกทานอาหารจากพืชมากกว่า เช่น โฮลเกรน และถั่ว นอกจากนี้ด้วยการพบปะนัดทำกิจกรรมทางศาสนา เช่น เข้าโบสถ์ ฟังธรรม หรือแม้กระทั่งทำกิจกรรมช่วยเหลือสาธารณะด้วยกันทุกอาทิตย์ ทำให้สุขภาพจิตของแต่ละคนดีขึ้นตามไปด้วย

 

Ikaria, Greece

เมืองอิกาเรีย ประเทศกรีซ เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ผู้คนบนเกาะมีความรัก และภูมิใจในความเป็นชาวเกาะกันมาก โดยพวกเขาเลือกที่จะเข้านอนดึกหน่อย แต่ก็ทดแทนด้วยการงีบหลักในช่วงเวลาระหว่างวัน และทานอาหารสไตล์เมดิเตอเรเนียน ที่เน้นผัก ปลา ผลไม้ ผัก โฮลเกรน และน้ำมันมะกอก 1 ใน 3 ของชาวเกาะอิกาเรียนมีอายุยืนมากกว่า 90 ปี และปราศจากโรคสมองเสื่อม และโรคหัวใจและหลอดเลือดอีกด้วย

 

เคล็ดลับในการมีสุขภาพแข็งแรง และอายุยืนยาวก็ง่ายๆ แค่ทานอาหารที่มาจากพืชให้มากขึ้น ลดการทานเนื้อแดง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และอย่าลืมดูแลสุขภาพจิตให้ดีด้วย เท่านี้คุณก็สามารถมีชิวิตยืนยาวไม่ว่าจะอยู่ตรงส่วนไหนของโลกแล้วล่ะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook