อัพเดทล่าสุด!! มาชมคลิปสรุปข้อมูล iPhone 5 ก่อนเปิดตัว

iPhone 5 (ไอโฟน 5) 2012 : อัพเดทล่าสุด 11 ก.ย. มาชมคลิปสรุปข้อมูล iPhone 5 ก่อนเปิดตัวพร้อมข้อมูล เปรียบเทียบ Spec iPhone 5 กับ iPhone 4s ก่อนเปิดตัว 12 ก.ย.นี้ !

อัพเดทข่าวล่าสุด เกี่ยวกับ ไอโฟน 5 (iPhone 5)

อัพเดทกันจนวินาทีสุดท้ายเลยก็ว่าได้ครับ สำหรับข่าวคราวของ ไอโฟน 5 (iPhone 5) ที่กำลังจะเปิดตัวแล้วในวันที่ 12 กันยายนนี้ หรือวันพรุ่งนี้นั่นเอง โดยงานจะจัดขึ้น Yerba Buena Center for the Arts รัฐซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งจะตรงกับเวลาในประเทศไทย ประมาณช่วงเที่ยงคืนครับ

โดยเว็บไซต์ techmoblog จะทำการรายงานสด งานเปิดตัว ไอโฟน 5 (iPhone 5) อย่างเป็นทางการ ซึ่งสามารถติดตามกันได้ ทั้งทางหน้าเว็บไซต์ www.techmoblog.com/iphone-5/ หรือผ่านทาง แฟนเพจ Techmoblog เริ่มตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนของวันที่ 12 กันยายน หรือช่วงรอยต่อของวันที่ 12 และ 13 กันยายน นั่นเองครับ ท่านใดเป็นสาวก Apple อยู่แล้ว ห้ามพลาดกับงานเปิดตัว ไอโฟน 5 (iPhone 5) กาปฏิทินรอไว้ได้เลยครับ

 

ส่วนสถานที่จัดงานเปิดตัว ไอโฟน 5 (iPhone 5) ที่ Yerba Buena Center for the Arts ตอนนี้เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาบ้างแล้ว นอกจากนี้ ภาพด้านหลังโลโก้ Apple นั้น ดูเหมือนจะมีนัยสำคัญเล็กน้อย ซึ่งน่าจะสื่อเหมือนกับว่า ไอโฟน 5 (iPhone 5) มีรูปร่างที่ยาวขึ้นครับ (อ่านข่าวเต็มๆ ได้ที่นี่)

สำหรับข่าวอัพเดท ไอโฟน 5 (iPhone 5) ในวันนี้เรามี คลิป วีดีโอที่สรุปทั้งในส่วนของ สเปค ไอโฟน 5 (iPhone 5) และดีไซน์ ไอโฟน 5 (iPhone 5) ที่เรียกได้ว่า เจาะลึกกันเลยทีเดียว โดยเป็นคลิปวิดีโอ ที่ระบุว่า เป็นคลิปโปรโมต ไอโฟน 5 (iPhone 5) ในวันที่ 12 กันยายนนี้ครับ แต่เท่าที่ดูน่าจะเป้นคลิปที่มีคนทำขึ้นมามากกว่าครับ  แต่อย่างไรก็ดี คลิปดังกล่าวก็รวบรวมข้อมูลได้ค่อนข้างครบถ้วนและต้องบอกว่าทำได้ค่อนข้างละเอียดสมจริงเลยทีเดียวครับ  *ยกเว้นในส่วนของ Finger print unlock ซึ่งยังไม่ค่อยมีใครพูดถึงและยังไม่น่าจะจริงครับ

 

โดยรายละเอียด ไอโฟน 5 (iPhone 5) ภายในคลิปความยาวกว่า 2.25 นาทีนี้ มีทั้งเรื่องของ การออกแบบ ไอโฟน 5 (iPhone 5) และสเปค ไอโฟน 5 (iPhone 5) มาดูตัวอย่างรายละเอียดในคลิปกันอย่างคร่าวๆ นะครับ

โดยในส่วนของการออกแบบนั้น ไอโฟน 5 (iPhone 5) ถูกดีไซน์แบบ unibody ส่วนบนและล่างของตัวเครื่อง เป็นเสาสัญญาณ ที่ถูกครอบด้วยกระจกอีกชั้นหนึ่ง (หรือส่วนที่เป็น two-tone ที่เราเห็นด้านหลังตัวเครื่องนั่นเอง) โดยตัวเครื่อง มีความสูง 9 มิลลิเมตร (iPhone 4S สูง 9.3 มิลลิเมตร) และบางลง 22% หรือหนาเพียง 7.6 มิลลิเมตรเท่านั้น

มาดูกันที่ฮาร์ดแวร์กันบ้าง ไอโฟน 5 (iPhone 5) มีหน้าจอขนาด 4 นิ้ว สัดส่วน 16:9 หน้าจอเป็นเทคโนโลยีแบบ in-cell ความละเอียดของหน้าจออยู่ที่ 640 x 1136 พิกเซล (326ppi) และรองรับเครือข่าย 4G

นอกจากนี้ ยังใช้ชิปเซ็ท Apple A6 ตามคาด ส่วน RAM เพิ่มเป็น 1GB กล้องหน้าความละเอียด 720p และหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง มีตั้งแต่ 32GB, 64GB และ 128GB ซึ่งจุดนี้ค่อนข้างแปลกใจเล็กน้อยครับ ที่คลิปวิดีโอ ไอโฟน 5 (iPhone 5) ชุดนี้ ไม่มีความจุ 16GB ปรากฏ หรืออาจจะเป็นไปได้ว่า ไอโฟน 5 (iPhone 5) เริ่มต้นที่ความจุ 32GB แต่ราคาเท่า iPhone 4S 16GB ก็ได้นะครับ :D (ใครจะไปรู้ บางที Apple อาจจะมีเซอร์ไพร์ส)

ต่อมา เป็น Dock connector แบบใหม่ขนาด 9-pin ที่เล็กกว่าพอร์ตแบบเดิม 50% และถ่ายโอนข้อมูลได้เร็วกว่าพอร์ตแบบเก่าครับ

ส่วนซิมการ์ดนั้น เปลี่ยนจาก microSIM card มาเป็น nanoSIM card ที่มีขนาดเล็กกว่าถึง 40%

อันนี้เป็นไอเดียที่ดีแต่ยังไม่มีข่าวว่าน่าจะเป็นจริงครับ (แต่ถ้าจริงก็คงจะดี) สำหรับฟีเจอร์ใหม่ในการปลดล็อค ที่ไม่ได้เป็น Slide to Unlock อีกต่อไป แต่เป็นสแกนลายนิ้วมือ เพื่อปลดล็อคครับ (เซนเซอร์การตรวจจับลายนิ้วมืออยู่บนปุ่ม Home ครับ)

นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ใหม่บน iOS 6 ด้วย ทั้งในส่วนของ Mission Control และ UI ของแอพพลิเคชั่นแบบใหม่ ซึ่งได้แก่ Calendar และ Contacts ซึ่งถ้าหากคลิปวิดีโอนี้ เป็นคลิปวิดีโอคอนเซปท์ ไอโฟน 5 (iPhone 5) แล้วล่ะก็ ต้องขอชมว่า เก็บรายละเอียดได้ค่อนข้างดีครับ โดยเฉพาะในส่วนของหน้า Homescreen ที่ไม่มีไอคอน YouTube (ตามข่าวล่าสุด) ส่วน Maps นั้น ก็กลายเป็น Apple Maps และมีแอพพลิเคชั่น Passbook ปรากฏบนหน้าจอด้วยเช่นกัน

ดูรายละเอียดในคลิปกันแล้วลองมาดูคลิปตัวเต็มกันเลยครับ

ที่มา : gsmarena.com

พรุ่งนี้แล้วนะครับที่เราจะได้รู้ว่า ไอโฟน 5 (iPhone 5) เครื่องจริงจะเป็นอย่างไร ซึ่งวันที่ 12 กันยายนนี้ อย่าลืมติดตามที่เว็บไซต์ techmoblog หรือที่ Facebook fanpage ตั้งแต่เวลาประมาณ 23.00 น.คืนวันที่ 12 กันยายน นี้นะครับ  :)

สำหรับใครที่ชอบเปรียบเทียบข้อมูลลองมาดูข้อมูลเปรียบเทียบแบบสรุปที่เราทำไว้ให้เข้าใจได้ง่ายๆ กันครับ

ขอบคุณเนื้อหา และภาพประกอบ: techmoblog