จับชีพจรค้าปลีกสินค้าไฮเทค ทางเลือกเยอะ "ร้านตู้" ดิ้นสู้ลุ้นกำลังซื้อฟื้น
จับชีพจรค้าปลีกสินค้าไฮเทค ทางเลือกเยอะ "ร้านตู้" ดิ้นสู้ลุ้นกำลังซื้อฟื้น
อย่างที่ทราบกันดีว่า ปีที่ผ่านมาตลาดไอทีค่อนข้างซบเซาจากหลายปัจจัย ทำให้ใครต่อใคร คาด หวังว่าปีนี้จะดีกว่าที่ผ่านมา ใกล้จบเดือนที่สองสภาพตลาดโดยรวมเป็นอย่างไร "ประชาชาติธุรกิจ" เดินสำรวจแหล่งช็อปปิ้งสินค้าไอที เริ่มจาก "ไอทีมอลล์" ตึกฟอร์จูน และมาบุญครอง ผู้ค้าร้านขายสินค้าไอทีกล่าวว่า ไอทีมอลล์ปรับโฉมภายนอกเสร็จแล้ว แต่ลูกค้าไม่กลับมาเดิน เพราะฝั่งตรงข้ามมีห้างสรรพ สินค้าเปิดใหม่ทำให้กลุ่มลูกค้าทั่วไปมีทางเลือกใหม่ กลุ่มที่มาเดินที่นี่จึงเป็นกลุ่มที่จะมาซื้อสินค้าไอที ส่งผลให้บรรยากาศโดยรวมเงียบลงตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา
"คนที่ตั้งใจ มาซื้อสินค้าเท่านั้นที่จะมาเดินทำให้คนน้อยลง ร้านที่มีรายได้น้อยลงชัดเจนเป็นกลุ่มที่ขายแก็ดเจตและอุปกรณ์เสริม เพราะสินค้าราคาไม่แพงมากทำให้มีกำลังซื้อจากลูกค้าที่มาเดินเล่น เมื่อกลุ่มนี้หายไปจึงได้รับผลกระทบ"
ห้างสรรพสินค้าฟอร์จูนเปิดโซน ใหม่บริเวณชั้น 2 สำหรับอุปกรณ์ถ่ายรูปและโทรศัพท์มือถือ และชั้น 3 อุปกรณ์ไอที ซึ่งเริ่มมีร้านค้าเต็มพื้นที่ แต่คนยังเดินน้อย เพราะไกล ทั้งโซนเก่าครอบคลุมความต้องการอยู่แล้ว
ขณะที่ภาพรวมของราคาสินค้า ใกล้เคียงกับราคาในตลาดทั่วไป เช่น ฮาร์ดดิสก์แบบพกพา ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 1,800 บาท (500 GB) ค่อย ๆ ปรับลงมาราว 50 บาท/เดือน จากปีที่แล้วที่ 2,000 บาท ส่วนโน้ตบุ๊กแทบไม่เปลี่ยนแปลง ร้านค้าหลายรายยืนยันตรงกันว่าลูกค้าเริ่มกลับมา หลังวินโดวส์ 8 เปิดตัว และเชื่อว่าจะดีกว่านี้ ถ้าลดราคาลงมาถึงระดับที่ลูกค้าทั่วไปรับได้
"ปลาย ปีตอนที่วินโดวส์ 8 ยังไม่เปิดตัว ความต้องการซื้อลดลงชัดเจน แต่ออกมา กระแสก็กลับมา แต่ราคาที่ยังแพง ทำให้ลูกค้าบางรายซื้อรุ่นเดิม ส่วนไฮบริดแท็บเลต ติดปัญหาราคาเช่นกัน แม้จะมีราคาถูก เช่น เอเซอร์ ที่หมื่นกลาง ๆ"
มาที่มาบุญครอง ชั้น 4 โซนยอดฮิต ด้วยว่า ปัจจุบันห้างสรรพสินค้าเกือบทุกแห่งมีโซนขายโทรศัพท์มือถือ, แก็ดเจต รวมถึงร้านค้าปลีกไอที ทำให้คนมาเดินมาบุญครองลดลงเช่นกันทำให้ร้านค้าเริ่มเปลี่ยนแปลงตนเองไปขาย สินค้ามือสองบ้าง ขายเบอร์สวยเลขมงคล หรือหิ้วเครื่องรุ่นใหม่ ๆ มาขาย เช่น ไอแพด มินิร้านค้าแห่งหนึ่งยอมรับว่า กังวลกับการที่มีคนมาเดินน้อยลง ขณะที่การแข่งขันสูงขึ้น อย่างในกรณีที่แอปเปิลเลื่อนเวลาวางขายสินค้าในเมืองไทยเร็วขึ้น จากเดิมเมื่อเปิดตัวแล้วจะใช้เวลากว่า 3 เดือนจึงเข้าทำให้มีช่องว่างในการนำเครื่องหิ้วเข้ามาขายทำกำไร
สำหรับ ไอแพด มินิ รุ่นไวไฟ ราคาในไอสตูดิโอ ความจุ 16 GB อยู่ที่ 11,200 บาท 32 GB ที่ 14,200 บาท และ 17,200 บาท กับ 64 GB รุ่นที่ใช้ 4G ได้แพงกว่า 4,000 บาท ขณะที่ในมาบุญครองแพงกว่าไอสตูดิโอ 500-1,000 บาท
ไอโฟน 5 ราคาโอเปอเรเตอร์อยู่ที่ 24,550 บาท, 28,250 บาท และ 31,950 บาท (16, 32 และ 64 GB ตามลำดับ) ถ้าซื้อพร้อมแพ็กเกจ ราคาถูกลง 1,000 บาท ซื้อในแอปเปิลสโตร์ จะอยู่ที่ 22,900 บาท, 26,500 บาท และ 29,900 บาท ตามลำดับ แต่ที่มาบุญครองถูกกว่าราคาโอเปอเรเตอร์ที่ 23,500 บาท, 27,500 บาท และ 31,500 บาท ขณะที่ไอโฟน 4G เริ่มต้น 19,500 บาท บนแอปเปิลสโตร์ ถ้าซื้อจากโอเปอเรเตอร์ อยู่ที่ 20,700 บาท ที่มาบุญครองเครื่องหิ้วจากเมืองนอก ราคาอยู่ที่ 16,900 บาท มือสองเหลือ 14,000 บาท แล้วแต่สภาพเครื่อง
ไอโฟน 4 ในแอปเปิลสโตร์ ขายที่ 14,500 บาท เช่นเดียวกับที่มาบุญครอง แต่ราคาโอเปอเรเตอร์ถูกกว่าที่ 13,900 บาท และมือสองเริ่มต้นที่ 10,000 บาท
เรียกว่านาทีนี้เป็นโอกาสของ ทางผู้บริโภคที่สามารถเลือกช็อปได้ตามสะดวก โดยเฉพาะกับสินค้ายอดนิยมอย่างไอโฟนและไอแพด เพราะบรรดาร้านค้าต่าง ๆ พยายามหามาสนองความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นค้าปลีกแบรนด์ดังเรื่อยไปจนถึงตู้ขายโทรศัพท์มือถือตามศูนย์ สรรพสินค้าและโซนไอทีต่าง ๆ
ในทางกลับกัน ร้านค้าปลีกสินค้าไฮเทคที่ผุดขึ้นทุกหย่อมหญ้า เพิ่มดีกรีการแข่งขันให้ร้อนแรงขึ้นด้วย ถึงกระนั้นหากกำลังซื้อกลับมาแข่งมากหน่อยก็ไม่เป็นไร