รีวิว The New HTC Sense
รีวิว The New HTC Sense
ก่อนอื่นต้องขอเท้าความก่อนว่า รีวิวนี้เป็นส่วนที่ผมแตกออกมาจาก รีวิว HTC One อีกที เพราะรายละเอียดของ The New HTC Sense หรือ Sense 5 (ขอเรียกชื่อหลังละกัน) มันเยอะมากจนผมคิดว่า ถ้ายัดลงไป ผู้อ่านได้อ่านกันตาลายแน่นอน ก็เลยต้องขอยกมารีวิวกันทีหลังเลยละกันนะครับ
แน่นอนว่า Sense 5 เอชทีซีไม่ได้จำกัดแค่ HTC One แค่รุ่นเดียวเหมือนปีที่แล้วที่ Sense 4 ไม่สามารถยัดใส่รุ่นปี 2011 ได้ เพราะความเกี่ยวข้องในเรื่องของฮาร์ดแวร์ และ Beats Audio แต่สำหรับ Sense 5 รุ่นเก่าๆ อย่าง One S/One X/One X+ และ Butterfly รวมถึง Droid DNA และ J Butterfly จะได้อัพเดตให้เป็น Sense 5 แน่นอนแล้ว ดังนั้นรีวิวนี้ก็ถือเป็นการรีวิวรอมของรุ่นดังกล่าวไปในตัวเลยละกันนะครับ
หมายเหตุ: รีวิวนี้อิงจาก HTC One ดังนั้นบางความสามารถจะไม่มีอยู่ใน One S/One X/One X+/Butterfly ตามที่เอชทีซีบอกไว้ล่วงหน้าแล้วนะครับ
ขั้นตอนการตั้งค่าตัวเครื่องครั้งแรก
ใน Sense 5 เอชทีซีเปลี่ยนวิธีการตั้งค่าตั้วเครื่องในครั้งแรกใหม่หมด โดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะตั้งค่าตัวเครื่องอย่างไรบ้าง เช่นตั้งค่าเองเหมือนเมื่อก่อน หรือเลือกที่จะกู้คืนการตั้งค่าเก่าจากเซิร์ฟเวอร์ โอนถ่ายการตั้งค่าจากรุ่นเก่าของเอชทีซี ซัมซุง โมโตโรล่า หรือแม้แต่ iPhone หรือจะใช้ HTC Get Started เป็นต้นครับ
Home Screen & HTC BlinkFeed
เมื่อทำการตั้งค่าตัวเครื่องเริ่มต้นเสร็จ เราก็จะมาเจอกับหน้าแรกสุดของ Home Screen ใน Sense 5 นั่นก็คือ HTC BlinkFeed ครับ ตัว BlinkFeed เราต้องกำหนดเนื้อหาให้มันเสียก่อน ว่าจะให้แสดงเนื้อหาอะไรบ้าง เช่นบทความล่าสุดของ The Verge/TechCrunch/ESPN เป็นต้น ซึ่งก่อนหน้านี้ ถ้าเราทำการล็อกอินเข้า Facebook และ Twitter แล้ว ตัว BlinkFeed ก็จะไปดึง Activity ล่าสุดของเพื่อนของเราเข้ามาแสดงที่ตัว BlinkFeed เองก่อนครับ
การตั้งค่า BlinkFeed ของเรา ทำได้โดยการดึง BlinkFeed ที่อยู่บนสุด 1 ครั้ง และกดปุ่มเมนูเพื่อเข้าสู่การตั้งค่าครับ แต่สำหรับคนที่ไม่อยากใช้ BlinkFeed จริงๆ เอชทีซีก็ไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น เพราะเอชทีซียังมีหน้า Home Screen ว่างๆ ให้อีก 2 หน้า เพิ่มได้สูงสุด 4 หน้า ซึ่งเมื่อรวมกับหน้า BlinkFeed แล้วเท่ากับว่า Sense 5 จะมี Home Screen เพียงแค่ 5 หน้าเท่านั้น ซึ่งไม่เหมือน Sense เวอร์ชันก่อนหน้าที่มีมาให้ถึง 7 หน้า แต่ยังไงก็ตามเรายังสามารถกำหนดได้ว่าจะให้หน้า Home Screen ตัวไหนเป็นหน้าหลักของเรา ในกรณีที่ไม่อยากให้ BlinkFeed มาเป็นหน้าหลักเวลากดปุ่ม Home กลับออกไป เพราะถ้าไม่กำหนด หน้าหลักก็จะเป็น BlinkFeed เสมอครับ
แต่ถ้าไม่ไหวจะเคลียร์จริงๆ ก็ไปหา Launcher มาติดตั้งเพิ่มเติมได้ตามความสะดวกครับ
App Drawer
App Drawer เป็นสิ่งที่เอชทีซีทำได้เกรียนสุดๆ แล้วล่ะครับ ใน Sense 5 ตัว App Drawer จะเปลี่ยนสไตล์ให้เหมือนกับ BlinkFeed เปี๊ยบ! คือการตั้งค่ารวมถึงทางลัดเข้า Play Store ทำได้โดยการดึง App Drawer ลงมา ส่วนการเปลี่ยนหน้า App Drawer ก็กลับไปใช้แนวทางเดิมของ Android สาย 2.x คือเลื่อนขึ้น-ลง แทนเลื่อนซ้าย-ขวาที่เป็นของสาย 4.x ครับ
สิ่งที่เปลี่ยนไปจาก Sense ตัวก่อนหน้าทั้งหมดก็คือ ขนาดของ App Drawer ใน Sense 5 จะมีแค่ 3x4 และ 4x5 เท่านั้น อันหลังผมไม่แปลกใจ แต่อันแรกนี่สิ... มาแบบแปลกมาก ปกติคนเค้าจะพยายามยัดเยียดให้มีไอคอนแอพพลิเคชันให้มากที่สุดในหนึ่งหน้า แต่กลับกัน เอชทีซีกลับใช้วิธีการในการวางไอคอนให้มีพื้นที่ว่างมากที่สุด ดูๆ ไปแล้ว ผมว่ามันก็สวยอีกแบบน่ะนะ
และนอกจากนี้ Sense 5 สามารถจัดแอพพลิเคชันตามความต้องการของเราได้แล้ว เช่นการจัดแอพพลิเคชันด้วยตนเอง เรียงตามตัวอักษร และจัดตามความบ่อยในการใช้งาน สิ่งที่พิเศษกว่า App Drawer ของ Vanilla Android ก็คือ ตัว Drawer ของ Sense 5 ถ้าเราเลือกการแสดงผลบน Drawer แบบ Custom เราจะสามารถใช้ Folder ภายใน App Drawer (ที่ปกติจะใช้ได้เฉพาะ Home Screen กับ Launch Bar) เพื่อจัดกลุ่มแอพพลิเคชันที่เราต้องการได้แล้ว เช่นการโยกแอพพลิเคชันของ Google เข้าที่เดียวกันเป็นต้นครับ
เพิ่ม – ลด Widget ในหน้า Home Screen
ตัววาง Widget ยังคงเหมือนกับ Sense 4 ครับ คือกดค้างบนพื้นที่ว่างในหน้าจอเพื่อเรียกหน้ารวม Widget ออกมา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น Widget ไม่ได้แบ่งแยกเป็นตระกูลเหมือนกับ Sense 4 แล้ว ต้องใช้เวลาในการงมหา Widget ที่ต้องการอยู่นานพอสมควร
Notification
น่าจะเป็นส่วนที่เอชทีซีไม่ได้เข้าไปยุ่งกับมันมากแล้วนะครับ Notification ของ Sense 5 จะเหมือนกับ Notification ของ Vanilla Android ทุกประการ ลากสองนิ้วขึ้น-ลง เพื่อดูเนื้อหาของ Notification เพิ่มเติมได้ แต่สิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาคือปุ่มเรียก Settings ตรงมุมขวาบน ซึ่งก็เหมือนกับ Sense 4+ ที่ใช้แนวทางแบบนี้ครับ
Recent Apps
อีกหนึ่งคำสั่งที่เอชทีซีกลืน Vanilla Android แบบไม่เหลือชิ้นดีเลยตั้งแต่ Sense 4 ซึ่งจากเดิมที่ Sense 4 จะแสดงหน้าตาของ Recent Apps แบบ Card UI (เหมือน WebOS) มาใน Sense 5 เอชทีซีปรับให้ Recent Apps แสดงผลเป็นตารางขนาด 3x3 แทน การปิดแอพพลิเคชันทำได้โดยการตวัดนิ้วขึ้นข้างบน บนแอพพลิเคชันที่ต้องการจะปิดครับ
ขอบคุณเนื้อหา และภาพประกอบ
บทความโดย: magnamonkun
Facebook :
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com