[รีวิว] Samsung Galaxy Mega 6.3 สมาร์ทโฟนระดับกลาง ที่มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ 6.3 นิ้ว

เรียกได้ว่า ยุคนี้ เป็นยุคของ สมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ เลยก็ว่าได้ครับ เพราะนับตั้งแต่ ซัมซุง ได้เปิดตัว Samsung Galaxy Note บุกเบิกตลาดมือถือหน้าจอใหญ่ออกมา ก็เริ่มมีหลายๆ แบรนด์ ต่างเปิดตัว มือถือหน้าจอใหญ่ ออกมาอย่างมากมาย สำหรับ ซัมซุง นั้น นอกจากจะมี Samsung Galaxy Note 2 (Note II) ครองตลาดสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ ที่มาพร้อมจอแสดงผลขนาด 5.5 นิ้วอยู่แล้ว ในส่วนของสมาร์ทโฟนระดับกลาง ก็ยังมี Samsung Galaxy Grand ในระดับราคาหมื่นต้นๆ มาให้เลือกด้วยเช่นกัน และล่าสุด ซัมซุง ได้เพิ่มทางเลือกให้กับ ผู้ที่ต้องการ สมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ ด้วยการเปิดตัว Samsung Galaxy Mega 5.8 และ Samsung Galaxy Mega 6.3 ซึ่งเป็น สมาร์ทโฟนระดับกลาง ในราคาไม่เกิน 15,000 บาท

สำหรับ สมาร์ทโฟน ที่ทางทีมงาน techmoblog จะนำมา รีวิว กันในวันนี้ ก็คือ Samsung Galaxy Mega 6.3 ซึ่งเป็น แฟบเล็ต (Phablet) ที่มาพร้อมกับ จอแสดงผลขนาด 6.3 นิ้ว สามารถใช้งานได้เทียบเท่า แท็บเล็ต (Tablet) และที่สำคัญก็คือ พกพาได้สะดวกกว่า แท็บเล็ต มากทีเดียว ก่อนที่จะพบกับบทความ รีวิว Samsung Galaxy Mega 6.3 มาดู สเปค Samsung Galaxy Mega 6.3 กันก่อนครับ

สเปค Samsung Galaxy Mega 6.3

- จอแสดงผลกว้าง 6.3 นิ้ว แบบ Super Clear LCD Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล (233 ppi)
- หน่วยประมวลผลแบบ Dual-core Krait processor (ชิปเซ็ท Qualcomm Snapdragon 400) ความเร็ว 1.7 GHz
- หน่วยประมวลผลภาพ Adreno 305 GPU
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 1.5 GB
- หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 16 GB รองรับ microSD card สูงสุด 64 GB
- กล้องด้านหน้า ความละเอียด 1.9 ล้านพิกเซล
- กล้องด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมระบบออโตโฟกัส และไฟแฟลชแบบ LED
- รองรับ NFC
- รองรับ 3G ได้ทุกเครือข่าย (HSDPA 850/900/1900/2100 MHz)
- แบตเตอรี่ขนาด 3200 mAh
- รันระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 Jelly Bean
- ราคา 14,900 บาท

อ่านสเปค Samsung Galaxy Mega 6.3 แบบละเอียด คลิ๊กที่นี่

Samsung Galaxy Mega 6.3 : ดีไซน์ และการออกแบบ

สำหรับการออกแบบ Samsung Galaxy Mega 6.3 คล้ายกับ Samsung Galaxy S4 (S IV) แต่มีขนาดหน้าจอใหญ่กว่า (หน้าจอของ Samsung Galaxy S4 มีขนาด 5.0 นิ้ว ส่วนของ Samsung Galaxy Mega 6.3 มีขนาด 6.3 นิ้ว) และ เมื่อเทียบกับ Samsung Galaxy Note 2 พบว่า พื้นที่การใช้งานของ Samsung Galaxy Mega 6.3 มากกว่าถึง 20% อีกทั้ง ตัวเครื่องยังมีขนาดที่บางกว่า (Samsung Galaxy Mega 6.3 บาง 8 มิลลิเมตร ส่วน Samsung Galaxy Note 2 บาง 9.4 มิลลิเมตร) และน้ำหนักเบากว่าเล็กน้อย

แต่ Samsung Galaxy Note 2 จะได้เปรียบตรงที่ มี S Pen ปากกาสไตลัส มาให้ในตัว ส่วน Samsung Galaxy Mega 6.3 ต้องหาอุปกรณ์เสริมมาใช้เองครับ

สำหรับด้านหลังตัวเครื่องนั้น ทำมาจากพลาสติกคุณภาพดี ผิวเรียบลื่น มีลวดลาย ซึ่งจะคล้ายกรอบด้านหลังของ Samsung Galaxy S4 (S IV) นั่นเอง

มาดูส่วนประกอบต่างๆ รอบตัวเครื่องกันบ้าง โดยด้านบนของหน้าจอแสดงผลนั้น ประกอบด้วย ไฟ LED บอกสถานะ, ช่องหูฟังสำหรับสนทนา, Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนา, Ambient Light Sensor ปรับความสว่างของหน้าจอแสดงผลให้เหมาะสมกับสภาพแสงขณะใช้งาน และกล้องด้านหน้า ความละเอียด 1.9 ล้านพิกเซล

ส่วนด้านล่างของจอแสดงผล ประกอบด้วย เมนูควบคุมการทำงาน 3 ปุ่มด้วยกัน โดย 2 ปุ่มซ้ายขวานั้น เป็นปุ่ม Menu และปุ่ม Back ซึ่งเป็นปุ่มแบบ Capacitive button ส่วนตรงกลาง เป็นปุ่ม Home แบบ Physical button ซึ่งปุ่ม Menu และปุ่ม Back นั้น จะเรืองแสงก็ต่อเมื่อ มีการสัมผัสเท่านั้น

ด้านขวาของตัวเครื่อง เป็นปุ่ม Power เปิด-ปิด หรือล็อคเครื่อง และช่องสำหรับแกะฝาด้านหลัง ส่วนด้านซ้าย เป็นปุ่มปรับเสียง

ด้านบนของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟนตัวที่สอง สำหรับตัดเสียงรบกวนรอบข้าง และ IR emitter สำหรับใช้งานเป็นรีโมทคอนโทรล ควบคุมผ่านโปรแกรม WatchON ส่วนด้านล่างของตัวเครื่อง ประกอบด้วยพอร์ต microUSB ที่รองรับการเชื่อมต่อแบบ MHL และไมโครโฟนหลักสำหรับสนทนา

ด้านหลังเป็นกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED และระบบออโตโฟกัส ส่วนช่องลำโพง อยู่ส่วนล่างของตัวเครื่อง

Samsung Galaxy Mega 6.3 ใช้แบตเตอรี่แบบ Li-ion ความจุ 3200 mAh รองรับการใช้งานซิมการ์ดเดียว แบบ microSIM ส่วนช่อง microSD card จะอยู่ด้านบนของช่องใส่ซิมการ์ด รองรับได้สูงสุด 64 GB

Samsung Galaxy Mega 5.8 (ซ้าย) กับ Samsung Galaxy Mega 6.3 (ขวา)

Samsung Galaxy Mega 6.3 (ซ้าย) กับ iPad mini (ขวา)

Samsung Galaxy Mega 6.3 - Samsung Galaxy Mega 5.8 - Samsung Galaxy Grand

 บทความรีวิวโดย: techmoblog.com