เว็บหา "ชู้" บริการยอดฮิต ศัตรูทิ่มแทงชีวิตคู่ ฮ่องกงตอบรับเกินคาด
เว็บหา "ชู้" บริการยอดฮิต ศัตรูทิ่มแทงชีวิตคู่ ฮ่องกงตอบรับเกินคาด
นับเป็น "ข่าวร้าย" สำหรับคนมีคู่ ที่การใช้ชีวิตคู่ในปัจจุบัน นับวันยิ่งมี "ปัจจัยเสี่ยง" ที่จะทำให้ชีวิตคู่มีโอกาส "พัง" ง่ายดายขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่เว็บไซต์หาคู่ ก็ยังมีเว็บที่ยุยงส่งเสริมให้คนมีชู้ มีกิ๊ก โดยไม่ต้องรู้สึก "ละอายใจ" กันอีกต่อไปแล้ว
เว็บที่ว่านี้ คือเว็บไซต์ชื่อ แอชลีย์ แมดิสัน (Ashley Madison) ที่ประกาศโต้งๆ ผ่านหน้า เฟซบุ๊กของเว็บเลยว่า Life is short. Have an affair ชีวิตนี้สั้นนัก มีชู้กันเหอะ
"นี่คือความจริงของชีวิต พวกเรากำลังอยู่ในสังคมที่ไร้ความซื่อสัตย์" โนเอล ไบเดอร์แมน เจ้าของเว็บแอชลีย์ แมดิสัน ซึ่งตั้งจากชื่อ แอชลีย์ และ แมดิสัน ซึ่งเป็นชื่อ เด็กผู้หญิง "ยอดฮิต" ซึ่งพ่อแม่ชอบนำไปตั้งชื่อให้ลูกสาว บอกหลังจากที่ปัจจุบัน เว็บของเขาซึ่งผู้ใช้บริการต้องเสียค่าสมาชิกมีผู้สนใจเข้ามาใช้บริการกว่า 20 ล้านคน ใน 15 ประเทศ หลังจากเปิดตัวมา 11 ปี
ทั้งนี้ แอชลีย์ แมดิสัน เริ่มเปิดให้บริการเมื่อปี พ.ศ.2545 และได้รับความสนใจอย่างรวดเร็ว โดยเมื่อปีที่แล้ว โนเอลได้ขยายบริการมาในย่านเอเชีย ที่ญี่ปุ่น อินเดีย และล่าสุด เมื่อเร็วๆ นี้ ก็เพิ่งเปิดให้บริการในฮ่องกง โดยมีเป้าหมายต่อไปคือเจาะตลาดในประเทศจีน
โนเอลเล่าถึงกระแสตอบรับในฮ่องกงว่า "ดีเกินคาด" โดยว่า เมื่อปีที่แล้ว มีคนในฮ่องกงคลิกเข้าไปในเว็บแอชลีย์ แมดิสัน ถึง 320,000 ครั้ง โดยที่เขาไม่เคยโฆษณาประชาสัมพันธ์ หรือทำการตลาดใดๆ เลย
"สำหรับเรา สิ่งที่เกิดขึ้นมันชี้ให้เห็นว่า มีความต้องการอย่างมากต่อบริการพิเศษนี้" โนเอลบอกกับสำนักข่าวเอเอฟพี โดยอ้างถึง สถิติการหย่าร้างในฮ่องกงที่กำลังพุ่งสูงขึ้น
ทั้งนี้ จากตัวเลขเมื่อปี 2554 ระบุว่า ในคู่สมรสชาวฮ่องกง 100 คู่ มีหย่ากัน 30 คู่ เพิ่มขึ้น 2 เท่า จากเมื่อปี 2534 ขณะที่เมื่อปี 2555 ที่ฮ่องกงมีคู่หย่าร้าง 21,125 คู่ ซึ่งเป็นตัวเลขสถิติที่สูงที่สุด
หลังจากเปิดให้บริการในฮ่องกง เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สมาชิกรายแรกที่ใช้ชื่อ "mamama222" ก็โพสต์ในโปรไฟล์ของเธอว่า "ฉันกำลังมองหาผู้ชายหลากหลายรูปแบบ เพื่อมาเติมเต็มในสิ่งที่สามีไม่สามารถทำให้ฉันได้"
อย่างไรก็ตาม ด้านนักสังคมวิทยา นักวิชาการ และกลุ่มศาสนา ก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์โจมตีเว็บแอชลีย์ แมดิสัน ว่าเป็นบริการที่ไม่เหมาะสม
"พวกเราจะต้องช่วยกันทำทุกอย่างที่สามารถทำได้ เพื่อช่วยกันรักษาค่านิยม และความมั่นคงของชีวิตสมรส และสถาบันครอบครัว เว็บแบบนี้มีแต่จะทำลายชีวิตสมรส และสถาบันครอบครัว มีอะไรที่ดี หรือมีประโยชน์บ้างล่ะกับการมีเว็บแบบนี้" บาทหลวงลอว์เรนซ์ ลี ให้ความเห็น
ขณะที่โฆษกของสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งฮ่องกง ก็ว่า "การมีชู้ นอกใจคู่สมรสไม่ว่ารูปแบบใดก็ตาม หรือคู่สมรสจะรู้ หรือไม่รู้ หรือจะยินยอมก็ตาม ล้วนทำลายความสัมพันธ์ในชีวิตคู่ และสุดท้ายก็คือทำลายสัมพันธภาพในครอบครัว"
ที่มา นสพ.มติชน