ข้อมูลเปรียบเทียบ สเปค และ ฟีเจอร์ ระหว่าง iPhone 5 ทั้ง 3 รุ่น
ข้อมูลเปรียบเทียบ สเปค และ ฟีเจอร์ ระหว่าง iPhone 5S (ไอโฟน 5S) iPhone 5C ( ไอโฟน 5C) และ iPhone 5 (ไอโฟน 5) จะต่างกันแค่ไหน ต้องดู
แน่นอนว่า ทุกครั้งที่มีการเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ ก็ย่อมมีคำถามตามมาว่า สเปค ของรุ่นใหม่นั้น จะต่างจากรุ่นก่อนหน้ามากน้อยแค่ไหน ในวันนี้ ทีมงานเว็บไซต์ Thaimobilecenter จึงได้มีการจัดทำข้อมูลเปรียบเทียบสเปค ระหว่าง iPhone 5S (ไอโฟน 5S), iPhone 5C (ไอโฟน 5C) และ iPhone 5 (ไอโฟน 5) ว่าในแต่ละรุ่นนั้นจะมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ซึ่งข้อมูลที่ท่านจะได้รับชมต่อไปนี้ ไม่ใช่เพียงแค่ในเรื่องของสเปคเท่านั้น ยังมีความแตกต่างในด้านอื่นๆ ที่ทีมงานได้เลือกมาให้ได้ชมกันเพิ่มเติมด้วย เราลองมาดูกันครับว่า ทั้งสามรุ่นนี้ จะมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
ความแตกต่างทางด้านดีไซน์ ระหว่าง iPhone 5S, iPhone 5C และ iPhone 5
สำหรับในเรื่องของ iPhone 5S (ไอโฟน 5เอส) นั้น เรียกได้ว่าไม่แตกต่างจาก iPhone 5 สักเท่าไหร่นัก จะมีบางส่วนที่แตกต่างกันนั่นก็คือ ในส่วนของ ปุ่มโฮม ที่ถูกเปลี่ยนใหม่ และ มีการเพิ่มระบบสแกนลายนิ้วมือลงไปด้วย รวมถึงไฟแฟลชด้านหลังตัวเครื่องที่ถูกเปลี่ยนเป็นแบบ Dual-LEDs (True Tone Flash)
แต่สำหรับดีไซน์ระหว่าง iPhone 5C (ไอโฟน 5ซี) กับ iPhone 5 นั้นถือว่า แตกต่างกันพอสมควร โดยเฉพาะตัวเครื่องด้านหลัง ที่เปลี่ยนจาก อลูมิเนียม มาเป็น พลาสติกแบบ Polycarbonate ซึ่งเป็นพลาสติกที่มีความแข็งแรง และมีให้เลือกถึง 5 สีเลยทีเดียว แต่ในส่วนของตัวเครื่องด้านหน้า ถือว่าไม่ต่างจาก iPhone 5 มากนัก
ชิปประมวลผล บน iPhone 5S (ไอโฟน 5เอส), iPhone 5C(ไอโฟน 5ซี)และ iPhone 5
สำหรับชิปประมวลผลของ iPhone 5S (ไอโฟน 5เอส) เมื่อเทียบกับ iPhone 5 ก็ถือว่าประมวลผลได้เร็วกว่ากัน ถึง เท่าตัว นอกจากนี้ iPhone 5S ยังเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรก ที่ใช้ชิปประมวลผลที่รองรับการทำงานแบบ 64 Bit อีกด้วย โดยชิปที่ใช้บน iPhone 5S นั่นก็คือชิป Apple A7
แต่สำหรับ iPhone 5C (ไอโฟน 5ซี) เมื่อเทียบกับ iPhone 5 แล้ว ชิปที่ใช้นั้น จะเป็นชิป Apple A6 แบบเดียวกัน จึงทำให้ ในเรื่องของการเปรียบเทียบชิปประมวลผลระหว่าง iPhone 5C (ไอโฟน 5ซี) และ iPhone 5 ถือว่ามีประสิทธิภาพเท่าเทียมกัน
กล้องดิจิตอลด้านหลัง บน iPhone 5S, iPhone 5C และ iPhone 5
สำหรับในส่วนของกล้องดิจิตอลด้านหลังนั้น iPhone 5S (ไอโฟน 5เอส) จะมาพร้อมกับ เซนเซอร์รับภาพ ที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ได้ภาพที่มีความคมชัดและสมบูรณ์มากขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า อีกทั้งยังมาพร้อมกับไฟแฟลแบบ Dual-LEDs (True Tone Flash) ที่ช่วยให้ยังคงสีสันที่สดใส แม้ในสภาวะแสงน้อย ส่วน iPhone 5C (ไอโฟน 5ซี) และ iPhone 5 นั้น กล้องดิจิตอลด้านหลังจะเป็นตัวเดียวกัน รวมถึง มีไฟแฟลชแบบ LED แค่ดวงเดียว
ระบบปฏิบัติการ บน iPhone 5S, iPhone 5C และ iPhone 5
ถึงแม้ว่า iPhone 5 นั้นจะไม่ได้ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS 7 ตั้งแต่แกะกล่อง แต่ก็ยังคงสามารถอัพเดทเป็นเวอร์ชั่นดังกล่าวได้ จึงทำให้ในเรื่องของระบบปฏิบัติการนั้น ทั้ง 3 รุ่นจะสามารถใช้งาน iOS 7 ได้เหมือนกัน แต่สำหรับ iPhone 5S จะพิเศษกว่าตรงที่ จะสามารถรองรับแอพพลิเคชั่น แบบ 64 Bit ได้ด้วยนั่นเอง
Touch ID ระบบสแกนลายนิ้วมือ เฉพาะ iPhone 5S เท่านั้น
สำหรับ iPhone 5S (ไอโฟน 5เอส) จะมีฟีเจอร์ใหม่เพิ่มเข้ามานั่นก็คือ ระบบสแกนลายนิ้วมือ หรือ Touch ID ซึ่งถูกติดตั้งอยู่ในบริเวณปุ่มโฮม ซึ่งระบบดังกล่าว จะสามารถใช้งานได้เฉพาะบน iPhone 5S เท่านั้น iPhone 5 และ iPhone 5C จะไม่มีฟีเจอร์ดังกล่าวครับ
ตารางเปรียบเทียบสเปค ระหว่าง iPhone 5S, iPhone 5C และ iPhone 5
เพื่อให้สามารถเห็นความแตกต่างในเรื่องของสเปค ตัวเครื่องได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น ทีมงานจึงได้ทำการจัดทำตารางเปรียบเทียบสเปค ระหว่างทั้งสามรุ่น ให้ได้ชมกันว่า จะมีความแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน ลองมาชมกันเลยครับ
โดยรวมนั้นจะเห็นได้ว่า ในส่วนของสเปคระหว่าง iPhone 5 และ iPhone 5C นั้นแทบจะเรียกได้ว่าเหมือนกันทุกประการ โดยจะแตกต่างกันในเรื่องของวัสดุ และ ดีไซน์เท่านั้น แต่เมื่อเทียบระหว่าง iPhone 5S (ไอโฟน 5เอส) กับ iPhone 5 แล้วก็จะพบว่า ชิปประมวลผลนั้นเร็วกว่ากันถึงเท่าตัว อีกทั้งยังฟีเจอร์ใหม่อย่าง Touch ID เพิ่มเข้ามาด้วย ซึ่งในโอกาสหน้า ทีมงานจะนำเอาสมาร์ทโฟนรุ่นเด่นๆ มาเปรียบเทียบให้ได้ชมกันเพิ่มเติมอย่างแน่นอน ติดตามชมกันต่อได้เร็วๆ นี้ครับ
สนับสนุนเนื้อหา: www.techmoblog.com
เปิด ราคา iPhone 5S และ iPhone 5C เครื่องศูนย์ แต่ราคาอู้หู!
ชาวเน็ตแซว พิธีกรชื่อดัง iPhone โลว์คอสต์ “เครื่องละ 4,900 บาท” อยู่ไหน?
สรุปข่าว iPhone 5S เปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมสีใหม่ และเร็วขึ้นเท่าตัว
สรุปข่าว iPhone 5C จะเป็น iPhone ที่มีสีสันสวยงามหลายสี
Facebook :
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com
Facebook :
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com