10 สิ่งเกี่ยวกับเทคโนโลยี...ที่เรามักจะทำกันเวลาไปงานเทศกาลดนตรีกลางแจ้ง
10 สิ่งเกี่ยวกับเทคโนโลยี...ที่เรามักจะทำกันเวลาไปงานเทศกาลดนตรีกลางแจ้ง
1/
ใช้โทรศัพท์เป็นไฟฉาย
แรกสุดเลยเราต้องใช้มันส่องแสงหาพื้นที่ว่างเล็กๆ ที่ยังหลงเหลืออยู่เพื่อกางเต็นท์เพราะพวกเราลางานช่วงบ่ายไม่ได้ ซึ่งกว่าจะไปถึงก็ตีหนึ่งของวันที่สองเข้าไปแล้ว จากนั้นก็ใช้เป็นแหล่งแสงสว่างเพื่อถอดเสื้อผ้าและหงายหลังผลึ่งนอนแผ่หรากลิ้งไปมาในเต็นท์แบบป๊อปอัพ (ปลดสายรัดออกแล้วจับโยนออกไป เต็นท์ก็จะกางเอง) แคบๆ ดูน่าอนาถคล้ายกับนาย Tim Robbins เมาเหล้าคลานอยู่บนพื้นใน Shawshank และเหมือนกับ Robbins ตรงที่บริเวณนั้นตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นปัสสาวะเพราะพื้นที่ว่างที่เหลืออยู่มีเพียงจุดเดียวคือข้างรั้วด้านนอกซึ่งถูกใช้เป็นที่วางสุขาเคลื่อนที่ตั้งแต่ 11 โมงเช้าของวันแรก ยินดีต้อนรับ!
2/
นอนบนเตียงแฟบๆ
เนื่องจากชายร่างใหญ่ที่มีอาการตาเขม่นและรอยสักตัวเบ้อเริ่มบนหน้าอกว่า ‘UBRAN WARRIOR’ ไม่ได้เอาที่สูบลมมาคืนหลังจากที่ยืมไปใช้ตั้งแต่วันแรก และหลังจากนั้น เขาและผองเพื่อนหน้าตาน่ากลัวหลายคนได้สร้างป้อมปราการปกป้องเต็นท์ของพวกเขาด้วยรั้วที่ทำจากกระป๋องเบียร์เปล่า Tennent’s Super ประมาณ 300 กระป๋อง ไม่เป็นไร ยังไงๆ พื้นแข็งๆ ก็ดีต่อหลังของเราอยู่แล้ว...
3/
ถ่ายภาพตัวเองดูสะอาดสะอ้าน
เราตื่นขึ้นมาพร้อมอาการปากแห้งยิ่งกว่าถาดใส่เศษขนมปังปิ้ง เราเอาทิชชู่เปียกสำหรับเช็ดก้นเด็กมาปาดหน้า กระดาษสีขาวจั๊วะเปลี่ยนเป็นสีดำ แต่เราก็ยังคงถ่ายภาพใบหน้าตัวเองและหวังว่ามันจะออกมาดีที่สุด เราดูคล้ายกับว่าถูกซุกอยู่ก้นถุงขยะนานหนึ่งเดือน พอถึงวันที่สามของงานแม้แต่ฟิลเตอร์ Instagram ก็ช่วยอะไรเราไม่ได้
4/
อัพเดตสถานะลำไส้
ไม่มีสิ่งใดจะหวีดร้อง ‘ผมกำลังจะไปอึครั้งใหญ่ ทุกคน อวยพรให้ผมโชคดีด้วย!’ ได้ดีไปกว่าการวิ่งซอยเท้าผ่านสถานที่ตั้งเต็นท์พร้อมอะไรบางอย่างทรงกระบอกขนาดใหญ่ตุงโป่งออกมาจากเสื้อคลุม (กระดาษชำระไง) แน่นอนอยู่แล้ว ขณะอยู่ในส้วมแคบๆ เราจะต้องทำกระดาษเช็ดก้นหลุดมือ และที่ซวยกว่านั้นคือตอนที่เรารีบก้มลงคว้ากระดาษอย่างรวดเร็วปานสายฟ้า โทรศัพท์มือถือเจ้ากรรมดันหล่นจากกระเป๋าเสื้อและลงไปนอนแอ้งแม้งในโถที่มีสารเคมีสีน้ำเงิน
5/
ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เบียร์หนึ่งกระป๋อง
เงินหมดและเบื่อรสชาติของแอลกอป๊อบ (alcopop: สุรารสหวาน) กลิ่นมินต์ที่พริตตี้หน้าตาเซ็งๆ ฉีดออกจากกระเป๋าเป้ลงบนถ้วยใบจิ๋วขนาดเท่ากับหนึ่งช้อนชาให้ดื่มฟรี มีเพียงทางเลือกเดียวเท่านั้น นั่นคือสมัครใช้แอพพลิเคชั่นที่ไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง และเต็มไปด้วยโฆษณารกตาเพื่อแลกเปลี่ยนกับ Tuborg อุ่นๆ หนึ่งกระป๋อง
6/
เลือกใช้เมกะซูม
เราอยู่ห่างจากเวทีมากซะจนเราจะต้องปรับซูมจนสุดเพื่อถ่ายภาพ...เอ่อ ใครก็ตามบนเวที ซึ่งดูๆ แล้วอาจเป็นวง Basement Jaxx แต่สังเกตอีกทีอาจเป็น Beyoncé ก็ได้นะ จริงๆ แล้วถ้าจะบอกว่าเป็นคุณแม่ของเรา คนก็อาจจะเชื่อเพราะภาพดูมัวๆ ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร อ้อ ในระหว่างที่เราพยายามจัดองค์ประกอบภาพอย่างลำบากลำบนเราก็ไม่ค่อยจะใส่ใจนักว่าพวกเขาเล่นอะไรกันบนเวทีสดๆ และใช้แบตเตอรี่จนเหลือแค่หนึ่งเปอร์เซ็นต์อีกต่างหาก…
7/
และแล้วแบตก็หมด
...ข้อความสุดท้ายที่เราได้รับก่อนที่เครื่องจะดับคือ ‘เราอยู่ในฝูงชน ข้างต้นไม้ คุณอยู่ตรงไหน?’ เท่านั้นแหละแล้วเครื่องก็ดับไป...เราอยู่อย่างโดดเดี่ยวลำพัง สัมผัสกับชีวิตยุคก่อนโทรศัพท์มือถือ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ซด Tuborg อุณหภูมิร่างกายเข้าไปอีกสองสามกระป๋องเราก็รู้สึกปลดปล่อย ในวินาทีนั้นเราตระหนักขึ้นมาทันทีว่าแท้จริงแล้วโทรศัพท์มือถือที่คอยรบกวนเราตลอดเวลานั้นคือต้นเหตุของความเครียดที่เพิ่มขึ้นมากกว่าที่จะบรรเทาให้น้อยลง แต่เราก็เข้าใจเช่นเดียวกันว่าเราอาจไม่เจอเพื่อนๆ อีกแล้ว
8/
ใช้ชีวิตโดยปราศจากเทคโนโลยี
ขณะที่สุดยอดนักแคมปิ้งที่กางเต็นท์ข้างๆ เราล้างเตาบาร์บีคิวแบบพับได้ และทำความสะอาดเสื้อผ้าในเครื่องซักผ้าที่ใช้พลังงานจากเท้าปั่น เรากลับชูนิ้วกลางให้เทคโนโลยีและประทังชีวิตด้วยขนมกรุบกรอบ Frazzle และไวน์บรรจุในกล่องเหมือนกับที่มนุษย์ถ้ำเขาทำกัน แต่สิ่งที่เราทานเข้าไปเหล่านี้นี่แหละที่ทำให้เรารู้สึกว่าไม่น่าทำกระดาษชำระหล่นลงพื้นเลย
9/
จ่ายตังค์เพื่อชาร์จโทรศัพท์
อย่างไรก็ดี เช้าวันรุ่งขึ้นเรารู้สึกแย่จนสติแทบแตก การขาดเสียงเพลงจากโทรศัพท์เพื่อกลบเสียงกลองบองโก้นอกเต็นท์ขณะที่เราพยายามงีบหลับตอนหกโมงเช้าคือสิ่งที่ทำให้เราหมดความอดทน และเราจะต้องทำทุกอย่างเพื่อให้มันกลับมาทำงานต่อไป เราหยิบเงินก้อนสุดท้ายที่มีติดกระเป๋ายื่นให้กับชายคนหนึ่งที่มีรอยสักบนใบหน้าเพื่อชาร์จโทรศัพท์ โดยใช้สายสัญญาณที่ดูเหมือนว่าจะพันอยู่กับสายไฟฟ้าเส้นโตที่เดินต่อไปยังเวทีหลัก ในที่สุดเราก็ดูข้อความจากเพื่อนๆ ได้ ซึ่งเขียนว่าพวกเขาอยู่ตรงต้นไม้ กำลังเดินไปจากต้นไม้ ขับรถกลับบ้านไปแล้ว ซวยเลย
10/
สละเต็นท์!
การพับเก็บเต็นท์แบบป๊อปอัพนั้นไม่ต่างอะไรกับภารกิจท้าทายความสามารถในรายการเกมโชว์อย่าง The Cube แต่เลวร้ายยิ่งกว่าเสียอีกโดยที่ผู้เข้าแข่งขันไม่ได้นอนหลับสนิทมาตลอดครึ่งสัปดาห์ และเริ่มจะมีเลือดออกตามไรฟันอีกต่างหาก เราจึงตัดสินใจทิ้งมันไว้ที่นั่น ก็เหมือนปีที่แล้วนั่นแหละที่เราบอกกับตัวเองว่าเราคงไม่ต้องใช้มันอีกแล้ว เพราะเราจะไม่มาทรมานตัวเองในงานเทศกาลดนตรีกลางแจ้งอีกต่อไป...
ที่มา: ขอขอบคุณ T3 ผู้สนับสนุนเนื้อหา