Samsung NX300 มาพร้อม Galaxy tab 3 Wifi ก็อัพรูปกันมันส์เลยสิ

โดยปรกติเป็นคนที่ชอบถ่ายภาพ และอัพขึ้นเฟสบุ๊ค เป็นประจำอยู่แล้ว เรียกได้ว่า ไม่ว่าจะทำอะไร ไปที่ไหนก็จะอัพๆๆตลอด และด้วยอาชีพหลักที่เป็นช่างภาพ เวลาไปเที่ยวที่ไหน ก็ไม่อยากจะแบกกล้องตัวใหญ่เทอะทะไปให้เป็นภาระ เจอมุมถ่ายภาพสวยๆ เจอจังหวะเด็ดๆ ก็เลยใช้ สมาร์ทโฟนรุ่นเก่าเก็บภาพ ใช้แอฟแต่งภาพอีกเล็กน้อย แล้วก็โพสต์เลย 
 

ได้มาก็โหลดโปรแกรม Line Facebook และ Samsung Smart Link ก่อนเลย
 

และด้วยอาชีพช่างภาพ บวกรู้มาก เพราะมีโอกาสได้รีวิวกล้องเป็นประจำอีกนั่นแหละ ก็เลยห่อเหี่ยวใจ เสียดาย แอบวิจารณ์ภาพถ่ายที่ได้จากสมาร์ทโฟนของตัวเอง ว่าคุณภาพมันไม่ดีเอาซะเลย ทั้งมิติ ทั้งสีสัน แต่จะให้แบกกล้องตัวเบ้อเร่อมาก็ไม่ไหว ปวดหลังแถมกลับบ้านก็ต้องเปิดคอม เสียบเมม โหลดรูป เลือกรูป ย่อรูป โพสอีกก็ไม่เอาดีกว่า กลับไปใช้ สมาร์ทโฟน รุ่นพระเจ้าเหาเก็บภาพโพสภาพเหมือนเดิม

 

เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ของ SAMSUNG NX300 ให้คุณภาพรูปเทียบเท่ากับกล้อง DSLR หรือกล้องมืออาชีพ

 

และแล้ววันนึงก็เหมือนสวรรค์มาโปรด
 

เมื่อมีคนส่ง Samsung NX300 และ Galaxy tab 3 มาให้ ใช้คู่กัน ซึ่งกล้อง Samsung NX300 เป็นกล้องที่มีเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ เท่าๆ กับกล้อง DSLR แต่มีขนาดเล็กกว่า พกพาสะดวก แถมยังสามารถส่งภาพถ่ายจากตัวกล้อง เข้าสมาร์ทโฟน อย่าง Galaxy tab 3 ได้เลย  ทำความรู้จักคุณสมบัติคร่าวๆกันแล้ว ก็เก็บ Galaxy tab 3 ลงกระเป๋า แล้วสะพายกล้อง ออกตะลุย เริ่มต้นกันในวันลอยกระทงเลยค่ะ
 

 

เมื่อเชื่อมต่อกล้องSamsung NX300 และ Galaxy tab3 ผ่าน Wifi แล้ว Galaxy tab3 ก็จะกลายเป็น

 

1. ตัว เก็บภาพถ่ายจากกล้อง SAMSUNG NX300 สามารถเซ็ทค่าให้กล้องส่งข้อมูลภาพถ่ายผ่าน  Wifi เข้าไปเก็บใน Galaxy tab 3 ได้เลย หรือจะเลือก แชร์ภาพจาก Samsung NX300 คัดลอกเข้าสู่ Galaxy tab 3 ได้อย่างง่ายดาย ดังนั้น จะเก็บภาพ แล้วดูภาพจากจอใหญ่ๆ ให้เห็นรายละเอียดชัดเป๊ะ หรือจะอัพโหลดภาพ พิมพ์ภาษาไทย ก็ง่ายดาย เพราะอัพผ่านสมาร์ทโฟน แถมได้รูปสวยแบบที่สมาร์ทโฟนทั่วไปถ่ายไม่ได้ เพราะถ่ายจากกล้องถ่ายภาพคุณภาพสูงอย่าง SAMSUNG NX300 นั่นเอง
 

2. Galaxy tab 3 จะกลายร่างเป็น รีโมทมีจอแสดงผลแบบปัจจุบัน สั่งงานให้กล้องถ่ายภาพแบบเห็นภาพอยู่ตรงหน้าได้เลย จะเอาไปถ่ายรูปคู่ ถ่ายรูปตัวเอง ก็ทำได้ ไม่ต้องง้อใคร แถมจัดองค์ประกอบเองได้ไม่จำกัดแต่ระยะมือถือแล้วค่ะ
 

 **สำหรับใครที่ไม่มี Galaxy tab 3 แต่มีกล้อง SAMSUNG NX300 ก็สามารถใช้ฟังก์ชั่นเชื่อมต่อผ่าน Wifi ได้ ผ่านสมาร์ทโฟนแบบแอนดรอยด์ที่รองรับ Wifi ค่ะ
 

ชมภาพ และวีดีโอตัวอย่าง ที่แชร์จากกล้อง SAMSUNG NX300 เข้า SAMSUNG GALAXY Tab3 แล้วอัพโหลดเข้าเฟสบุ๊ค ได้ตามลิ้งค์นี้ค่ะ
 

 

อาทิตย์ 17 พฤศจิกายน 2556 วันลอยกระทงพอดิบพอดี
 

ตื่นเต้นตื่นแต่เช้าตรู่ และเนื่องจากได้กล้องมาอย่างกะทันหัน ก็เลยยังไม่ได้วางแผนว่าจะไปไหน ตื่นนอน เข้าอินเตอร์เน็ทหาข้อมูลที่ Tab3 พบตลาดน้ำเปิดใหม่ เลยลองไปดูลาดเลาที่ ตลาดน้ำวัดตลิ่งชัน ถือโอกาสหาของกินอร่อยๆ ยามสายๆ ถึงเที่ยง ให้สบายท้องกันค่ะ
 

วีดีโอ บรรยากาศริมน้ำ ถ่ายจากกล้อง NX 300 แชร์เข้า Galaxy Tab3 แล้วอัพโหลดขึ้นเฟสบุ๊ค ตามลิ้งค์นี้ไปเลย
 

https://www.facebook.com/photo.php?v=1385627435014881&set=vb.100007029132022&type=2&theater

 

 คุณยายเอาอาหารมาให้แมววัดตลิ่งชัน เพียบเลยค่ะ

ขนมปัง อาหารปลา มีให้หยอดตู้ทำบุญ

 

ใช้เวลาขับรถไม่นานก็มาถึง ตลาดน้ำวัดตลิ่งชัน ซึ่งก็อยู่เลยตลาดน้ำตลิ่งชันอันเก่าแก่มานิดเดียวค่ะ เลี้ยวรถเข้ามาในวัดจะเจอกับลานจอดรถ ที่มีคนอำนวยความสะดวกโบกรถให้อย่างขยันขันแข็ง พูดจาดี แถมไม่รับทิปอีกต่างหาก มันน่าชื่นใจตรงนี้ ปรกติไปตลาดน้ำดังๆ ถ้าไม่ให้มีมองหน้าอีก

 

พร้อมลุยค่ะ
 

จอดรถเรียบร้อย เดินเข้าตลาดกันเลย ตลาดน้ำวัดตลิ่งชัน เป็นตลาดน้ำเล็กๆ ที่พ่อค้าแม่ค้าเป็นคนพื้นที่แท้ๆ มีทั้งของสวนเล็กๆ น้อยๆ ที่ดูออกว่าไม่ได้ไปรับมาขาย สดๆ ใหม่ๆ ส่วนอาหารการกิน ก็ไม่ได้ขายอย่างเป็นล่ำเป็นสันเหมือนตลาดน้ำดังๆ ที่คนเยอะๆ แต่รับประกันว่าถ้าได้ลองชิม ความอร่อย ไม่ได้แพ้กัน แต่ความประทับใจอยู่ตรงที่ อัธยาศัยของพ่อค้าแม่ค้า ที่มีความเป็นกันเอ๊งกันเอง บวกกับสถานที่ที่สะอาด สงบ ริมน้ำ ลมพัดเอื่อยๆ เคล้าเสียงเรือและเสียงหัวเราะของพ่อค้าแม่ค้ามันได้บรรยากาศ เหมือนอยู่ท่ามกลางร่องสวน บ้านญาติจริงๆ 
 

 

มาตลาดน้ำแห่งนี้ อย่าลืมกินบ้าบิ่น อร่อยที่สุดในโลก

 

วีดีโอ ขนมบ้าบิ่น ถ่ายจากกล้อง NX 300 แชร์เข้า Galaxy Tab3 แล้วอัพโหลดขึ้นเฟสบุ๊ค ตามลิ้งค์นี้ไปเลย
 

https://www.facebook.com/photo.php?v=1385696065008018&set=vb.100007029132022&type=2&theater

 

สำหรับเมนูที่มาถึงแล้วต้องชิม นั่นก็คือ ก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตก ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ขนมบ้าบิ่นมะพร้าวอ่อน อร่อยที่สุดในสามโลก กินเพียงเท่านี้พุงก็ปลิ้นกินไม่ไหว เอาไว้ไปคราวหน้าจะชิมให้มากกว่านี้ แล้วจะมาบอกนะคะว่ามีอะไรที่ต้องชิมอีกบ้าง พออิ่มท้องก็หาซื้อของกลับไปกินที่บ้านกันบ้าง ผัดสดๆ น่าซื้อ ของสวนแท้ๆ แล้วแวะให้อาหารปลา ก่อนจะเดินไปดูเค้าทำกระทง เตรียมงานลอยกระทงในช่วงกลางคืน

 

 

 

ดูการทำกระทงเสร็จ ก็ย้ายนั่งพักที่ม้านั่งไม้ไผ่ริมน้ำ พร้อมแชร์ภาพจากกล้องเข้า Galaxy Tab ผ่าน Wifi แล้วอัพรูปขึ้นเฟสบุ๊คเลยค่ะ มันเจ๋งตรงนี้แหละ พิมพ์ไทยได้ด้วย จริงๆ ปรกติกล้อง NX300 สามารถอัพรูปผ่านกล้องได้เลย แต่คงไม่สะดวกสบายเท่าอัพผ่าน Galaxy Tab ด้วยจอที่ใหญ่ ชัดเจน เลือกรูปได้ง่ายกว่า การพิมพ์และฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ออกแบบเพื่ออัพโหลดเข้าโซเชี่ยลเน็ทเวิร์คโดยเฉพาะ แต่ถ้าจะใช้ Galaxy Tab ถ่ายรูปแล้วอัพเลย ภาพที่ได้คงสู้ภาพที่ได้จากกล้องถ่ายภาพโดยเฉพาะไม่ได้ ดังนั้นจึงเป็นความลงตัว สำหรับผู้ที่อยากถ่ายภาพสวยๆ บวกกับการอัพโหลดที่สะดวกสบาย ด้วยแพ็คคู่ 

 

ภาพจากสมาร์ทโฟนรุ่นพระเจ้าเหา
 

สะดุดตาตรงที่พระก็มาช่วยทำกระทง กับผู้เฒ่าผู้แก่ เพื่อหาเงินเข้าวัดค่ะ มีโอกาสได้คุยกับพระ ท่านบอกว่าใครมาซื้อหยอดตู้เงินก็เข้าวัดหมด แถมใครอยากจะทำกระทงเองก็เชิญได้ รู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่ต่างจังหวัดอีกแล้ว พูดคุยกันได้ซักพักก็ขอตัวกลับค่ะ   

 

ก่อนกลับ เห็นป้าย พิพิธภัณฑ์สัตว์แปลก แต่มีธุระต้องรีบไปก่อน ขอติดไว้ก่อนไว้คราวหน้ามาอีกทีจะเข้าไปเก็บภาพมาฝาก และสำหรับการมา ตลาดน้ำวัดตลิ่งชันในวันนี้ ต้องยกนิ้วให้ความอบอุ่น ความสะอาด และเป็นกันเองของตลาดน้ำแห่งนี้ บอกได้คำเดียวว่าลองมาซักครั้งแล้วจะติดใจค่ะ

 

17 พฤศจิกายน ตัดมาช่วงเย็น ได้เวลา ลอยกระทง
 

หลังจากทำธุระเสร็จ ก็มุ่งหน้าสู่ งานลอยกระทงพระราม8 ค่ะ

 

สะพานพระราม8
 

มาถึงพระอาทิตย์เริ่มจะตกดิน แต่ยังไม่สิ้นแสง หาที่จอดรถไม่ได้เลยแน่นทั้งคนทั้งรถ เลยใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยี หยิบSamsung Galaxy Tab3 ค้นหาร้านอาหารใกล้ๆ เพื่อหาที่จอดรถสะดวกสบายนั่นเองค่ะ

และแล้วก็ได้ร้านอาหาร อันเป็นจุดมุ่งหมาย ร้านเรือนไทยคาบาน่า เข้าซอยนิดเดียว ติดกับสะพานพระราม 8 เลยค่ะ

 

ด้วยความหิวโหย หรืออะไรก็ไม่ทราบ พออาหารลงเท่านั้นก็หายวับไปกับตา ถ่ายรูปไม่ทันกันเลยค่ะ เลยได้มาแต่ภาพกุ้งเผา ที่สั่งกลับมากินบ้าน เพราะติดใจในความสด ร้านนี้ต้องมาร์คไว้อีกร้าน ว่าต้องกลับมากินอีกค่ะ

  

เข้าเรื่องกันต่อ พอท้องอิ่ม ก็พากันไปลอยกระทงที่สะพานพระราม8 ตามจุดมุ่งหมายเดิม ผู้คนเบียดเสียดยัดเยียด แต่การพกพากล้อง Samsung NX300 ก็ไม่ใช่ปัญหา ด้วยขนาดที่เล็กน้ำหนักเบา จึงทำให้สอดแทรกไปได้ทุกที่ เก็บภาพบรรยากาศ งานลอยกระทง ในสภาพแสงน้อย แบบไร้ตัวช่วยมาฝากกัน
 

   

 

วีดีโอถ่ายในที่แสงน้อย ปล่อยโคม วันลอยกระทง จากกล้อง NX 300 แชร์เข้า Galaxy Tab3 แล้วอัพโหลดขึ้นเฟสบุ๊ค ตามลิ้งค์นี้ไปเลยค่ะ

https://www.facebook.com/photo.php?v=1385917094985915&set=vb.100007029132022&type=2&theater

 

19 พฤศจิกายน 2556 งานนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ หรืองานภูเขาทอง ประจำปี 2556 1 ปีจะมีแค่ 7 วัน
 

อ่านเจอว่ามีงานประจำปีภูเขาทอง วันสุดท้ายพอดี ตัดสินใจไปแบบกะทันหัน เพราะปรกติเคยไปภูเขาทองอยู่แล้ว แต่ไม่เคยไปช่วงมีงานเสียที ปีนี้โอกาสดี จะได้ขึ้นไปนมัสการพระบรมสารีริกธาตุในเทศกาลงานวัดที่ชาวกรุงเทพฯ เฝ้ารอคอย เปรียบเหมือนเป็นต้นกำเนิดของงานวัดในเมืองไทย และเป็นโอกาสที่พุทธศาสนิกชนได้ร่วมสักการบูชาพระบรมบรรพต (ภูเขาทอง) ที่เป็นมงคลพิธีที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 5 งานประจำปีแบบนี้พลาดไม่ได้จริงๆค่ะ

 

มุมมหาชน กับ Filter Vignetting
 

ความตั้งใจแรก ตั้งแต่รู้ว่ามีงานนี้ คือการไปเก็บภาพกรุงเทพมุมสูง บนภูเขาทองในตอนกลางคืน เพราะในวันปรกติ ภูเขาทองปิดตั้งแต่ฟ้ายังไม่มืด ถือเป็นโอกาสทองของผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ แต่เพราะปีนี้ มีการปิดถนนหลายสาย เราเลยต้องรีบไปตั้งแต่ฟ้ายังไม่มืด เพื่อหลีกหนีการจราจรที่ติดขัด ประกอบกับได้ภาพตัวอย่างในที่แสงน้อยยามค่ำคืนในวันลอยกระทงแล้ว ดังนั้นที่ภูเขาทอง เราจะถือโอกาส ทดสอบ ฟิลเตอร์ และ การให้ปรับแต่งสีภาพจากกล้อง ให้น่าสนใจ และได้ภาพแปลกตากันค่ะ
  จอดรถบริเวณลานจอดรถ ซึ่งวันนี้ดูจะคับคั่ง จนอยากแนะนำว่า หากใครต้องการมาเที่ยวงานภูเขาทองในปีหน้า หรือปีถัดๆ ไป แนะนำให้ใช้บริการรถสาธารณะจะดีกว่าค่ะ หยิบ Galaxy Tab ใส่กระเป๋า สะพายกล้องเตรียมพร้อม ต้องตัดใจรีบเดินผ่านซุ้มขายอาหารบริเวณรอบๆ เพื่อมุ่งสู่ องค์บรมบรรพตภูเขาทอง เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนจะหาอะไรกินให้อิ่มท้อง

 

วิวระหว่างขึ้นบันไดสู่ภูเขาทอง Filter Color pencil
 

กว่าจะขึ้นมาถึงจุดสูงสุดของภูเขาทอง ก็ต้องขึ้นผ่านวิวสวยๆมากมาย ได้โอกาสทดสอบฟิลเตอร์ เพื่อให้ได้ภาพที่แปลกตา กว่าการมาภูเขาทองในทุกครั้ง

   

พอขึ้นมาถึง ก็มีคำถามผุดขึ้นในใจ ทำไมภูเขาทองต้องห่มผ้าแดง
 

พิธีห่มผ้าแดงพระบรมสารีริกธาตุบนภูเขาทอง ถือเป็นส่วนหนึ่งของงานเทศกาลนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ เริ่มจากการห่มผ้าแดงองค์พระเจดีย์ก่อนวันงาน 3 วัน เพื่อเป็นเครื่องหมายให้รู้ว่า งานนมัสการพระบรมสารีริกธาตุเริ่มขึ้นแล้ว เป็นพิธีที่มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งทรงได้รับพระบรมสารีริกธาตุจากรัฐบาลอินเดีย และโปรดเกล้าฯ ให้บรรจุประดิษฐานไว้บนองค์บรมบรรพต ภูเขาทอง และโปรดเกล้าฯ ให้มีการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่เป็นเวลา 7 วัน 7 คืน ในช่วงเทศกาลลอยกระทง จนกลายเป็นประเพณีนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ จนถึงปัจจุบัน เชื่อว่าเป็นพิธีทำให้เกิดสิริมงคล ทำให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข มีความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าในชีวิต 

ภูเขาทองห่มแดง Filter Vignetting
 

ซึ่งผู้ที่มากราบนมัสการ และมาเที่ยวงาน ยังนิยมเขียนชื่อไว้ที่ผ้าแดงเพื่อถวายชื่อบูชาด้วยการจารึกไว้ ทางวัดก็มาอำนวยความสะดวกให้เพื่อให้เกิดความสุขใจ สบายใจ เป็นสัญลักษณ์นำไปสู่ความสุข

และเมื่อได้สืบสาวกลับไปในสมัยพุทธกาล เล่ากันมาว่าหลังจากที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ได้ 3 พรรษา ก็ได้เกิดความเดือดร้อนวุ่นวายภัยพิบัติต่างๆ ขึ้นที่เมืองเวสาลี โจรผู้ร้ายเข่นฆ่าชาวเมือง ผู้คนล้มตายไปเป็นจำนวนมาก แต่เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จไปโปรด ความเดือดร้อนเหล่านั้นก็หมดสิ้นไป

 ชาวบ้านชาวเมืองต่างก็สรรเสริญพระองค์เป็นการใหญ่ แต่พระองค์ตรัสว่า ที่เป็นเช่นนี้มิใช่ความอัศจรรย์ แต่เป็นเพราะอานุภาพแห่งบุญบารมีที่พระองค์เคยเอาผ้าประดับบูชาเจดีย์ใน อดีตชาติ ความเชื่อนี้จึงสืบทอดมาถึงปัจจุบัน พุทธศาสนิกชนจึงนำเอาผืนผ้าสีแดงมาห่มคลุมให้องค์พระเจดีย์ โดยหวังให้ชีวิตในชาติหน้าของตัวเองมีความสงบร่มเย็นนั่นเอง

 

ภาพจาก Filter ในกล้องล้วนๆค่ะ

หลังจากกราบนมัสการเสร็จ ก็ได้เวลา เดินดูงานภูเขาทอง งานวัดแห่งแรกของประเทศไทยกันค่ะ

นอกจากมีฟิลเตอร์ให้เลือกสร้างสรรค์ภาพให้แปลกตาแล้ว ยังมี ฟังก์ชั่นให้เลือกโทนสีด้วยค่ะ   

 

 

ไก่ย่างจิรพันธ์ ไก่ย่างที่ต้องมีบัตรคิว 

 

นอกจากขอกินที่มีขายมากมาย ล้นทะลักออกไปทั่วบริเวณแล้ว ยังมีเอกลักษณ์ของงานภูเขาทอง คือชิงช้าสวรรค์รุ่นเดอะเกมส์ยิงปืน ปาเป้า ซึ่งเห็นจนคุ้นชินตามงานวัดต่างๆแล้ว แต่ที่ทำให้สะดุดต้องหยุดยืนดู นั่นคือ คำโฆษณาเหล่านี้ ส่วนข้างในจะเป็นอย่างไร แนะนำให้เข้าไปดูกันเองนะคะ ถ้าเฉลยเดี๋ยวจะไม่สนุกค่ะ

 

 

การไปกินของอร่อย นอกจากเป็นการให้รางวัลกับชีวิตตัวเองแล้ว การถ่ายรูปอัพเฟสบุ๊ค แล้วแชร์ไปให้คนทั้งโลกรู้ กลายเป็นวัฒนธรรมก่อนกิน สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการอัพแอนด์แชร์กันไปแล้ว ยิ่งหากพกทั้งกล้องคุณภาพสูง ถ่ายรูปสวยๆ คุณภาพไม่ต่างจากมืออาชีพไปเก็บภาพ แล้วมาโพสก็จะยิ่งทำให้ผู้คนที่ได้ดูเกิดความอยากกินมากขึ้น ซึ่งก็ถือเป็นความสุขอย่างหนึ่ง ซึ่งผู้เขียนเองก็เป็นคนประเภทนั้น แต่ส่วนใหญ่จะใช้โทรศัพท์ถ่ายแล้วอัพขึ้นไปเลย ภาพที่ได้เลยไม่ค่อยสวยยั่วน้ำลายได้มากนัก เพราะความขี้เกียจ พกกล้องใหญ่ๆ ถึงบ้านแล้วก็อยากจะอาบน้ำนอน ขี้เกียจเอาเมมโมรี่มาเสียบโหลดรูปลงคอมแล้วอัพขึ้นเว็บ 

 

ซึ่งเมื่อพก SAMSUNG NX300 ที่ขนาดพกพา ห่อใส่ถุงผ้าแล้วใส่กระเป๋า พร้อม SAMSUNG Galaxy Tab ที่ตอนนี้ใส่ซิมกลายเป็นโทรศัพท์ที่ขนาดไม่ได้แตกต่างกับสมาร์ทโฟนทั่วไปมาก นัก การกินของอร่อยในวันนี้ จึงได้ทั้งรูปสวย แชร์เข้า SAMSUNG Galaxy Tab ผ่าน Wifi แล้วใช้ อินเตอร์เน็ท 3G อัพรูปขึ้นเฟสบุ๊ค ขณะนั่งกินอยู่ในร้านเลย ถือเป็นการใช้งานจริง ที่ง่ายดายมาก เลือกรูปได้ง่ายกว่าการมองผ่าน จอ LCDกล้อง เพราะจอ LCD SAMSUNG Galaxy Tab ใหญ่กว่า และออกแบบโดยเฉพาะให้ใช้งานง่ายเพื่อการนี้อยู่แล้ว การกิน AKA ในวันนี้ จึงพิเศษกว่าทุกวัน ที่ได้แกล้งยั่วน้ำลาย เพื่อนๆ ได้อย่างรวดเร็ว และได้ผลเพราะรูปที่สวยกว่าปรกติเยอะนั่นเองค่ะ

 

 

  

ลงภาพตัวอย่าง และกล่าวถึงการแชร์ภาพ และอัพขึ้นโซเชี่ยลเน็ทเวิคมาพอสมควรแล้ว ต่อไปจะกล่าวถึง การเปลี่ยน SAMSUNG Galaxy Tab ให้กลายเป็นรีโมทกันบ้างค่ะ

23 พฤศจิกายน โชคร้ายมีอันต้องเข้าโรงพยาบาล

 

ซูมให้เห็นกันชัดๆ หน้าจอ SAMSUNG Galaxy Tab แสดงผลแทนจอ LCD กล้อง
 

 

นอกจาก SAMSUNG Galaxy Tab จะเป็นของเล่นแก้เบื่อ ทั้งแชทผ่าน Line เฟสบุ๊ค เข้าอินเตอร์เน็ท ดูยูทูป ขณะนอนโรงพยาบาลแล้ว ยังเปลี่ยนมาเป็นรีโมทสั่งงานกล้อง SAMSUNG NX300 ได้ด้วย เพียงเข้า โหมด Wifi เลือก Remote Viewfider ที่กล้อง SAMSUNG NX300 และเลือก SAMSUNG SmartLink ที่ Galaxy Tab หน้าจอ ของ Galaxy Tab ก็จะกลายร่างเป็นหน้าจอกล้อง แสดงผลเป็นภาพปัจจุบัน ที่กล้องกำลังเล็งอยู่ทันที
 

และจากการใช้งานจริง ยังมีจังหวะหน่วงให้เห็น แต่ความเร็วก็ยังถือว่าไม่ได้น่าหงุดหงิดใจ ยังใช้งานได้ ติดอยู่ที่เวลาสั่งการซูมผ่าน Galaxy Tab แล้วค้าง ถ้าให้แนะนำ ควรปรับมุมกล้อง ซูมให้เรียบร้อยก่อนกดถ่ายผ่าน Galaxy Tab ค่ะ

 

ภาพที่สั่งให้กล้องถ่าย

 

ข้อดีของการควบคุมกล้องผ่าน GalaxyTab คือไม่ต้องง้อให้ใครมาถ่ายภาพให้ สามารถถ่ายภาพตัวเอง ด้วยตัวเอง โดยมุมไม่ได้จำกัดแค่ความยาวแขนอีกต่อไป แถมยังแอบไปตั้งกล้องแอบถ่าย แล้วควบคุมอยู่ห่างๆ ผ่าน GalaxyTab ได้อีกด้วย น่าสนุกขนาดนี้ ต้องลองใช้โหมดนี้กันค่ะ

  

กดถ่ายไปเรื่อยๆ ได้ภาพถ่ายคุณภาพด้วยตัวเอง แบบไม่ต้องง้อใคร

  บทสรุป เมื่อได้ใช้งานคู่ซี้ SAMSUNG NX300 และ SAMSUNG Galaxy Tab 1 อาทิตย์
 

SAMSUNG NX300 เมื่ออยู่คู่กับ SAMSUNG Galaxy Tab ทำให้ได้ “ภาพสวยอย่างกล้องมืออาชีพ อัพโหลดสะดวกรวดเร็วด้วยสมาร์ทโฟน” แถมราคายังโดนใจ เหมาะมากๆ สำหรับผู้ที่ชอบถ่ายภาพ และใส่ใจในคุณภาพของภาพ ที่ยังคงต้องการความรวดเร็ว และสะดวกสบายในการส่งผ่านข้อมูลภาพ และวีดีโอผ่าน Wifi สู่ Galaxy Tab แล้วอัพโหลดต่อได้เลย แถมยังเปลี่ยนหน้าจอ LCD ของ Galaxy Tab ที่มีขนาดใหญ่กว่าหน้าจอ LCD กล้องถึง 5เท่า ให้แสดงผลแบบปัจจุบัน ในการควบคุมการถ่ายภาพ เพื่อให้ได้ภาพสวย ชัดเจน ที่ควบคุมได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องง้อใครมาถ่ายให้ และเมื่อคำนึงถึง คุณภาพรูป ความสะดวกสบายในการอัพโหลด น้ำหนัก และของกล้อง SAMSUNG NX300 รวมกับ SAMSUNG Galaxy Tab ที่เมื่อใส่กระเป๋าถือก็ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นภาระ จึงสามารถพกพาไปไหนต่อไหนได้ มั่นใจได้ว่าเมื่อมีคู่นี้ จะได้ภาพสวย คู่กับความสะดวกสบายในการอัพโหลดค่ะ

 

ย้ำโปรโมชั่นแรงๆ กันอีกที 
 

แพ็คคู่สุดคุ้ม ที่หากซื้อกล้อง SAMSUNG NX300 ตอนนี้ แลกซื้อ Galaxy tab 3ในราคาเพียง 2,000 บาทเท่านั้น เท่ากับจ่าย 26,990 ได้ทั้งกล้องคุณภาพสูง พร้อม Galaxy tab 3 ให้ได้อัพโหลดแชร์ ภาพถ่ายคุณภาพ พร้อมทั้งเป็นโทรศัพท์ได้อีกด้วย และนอกจากโปรโมชั่นนี้ ยังมีซื้อแพ็คคู่ NX2000 + Galaxy tab 3Wifiในราคา 20,990 บาท