มือถือหาย ต้องทำอย่างไร? เทคนิคง่ายๆ ในการตามหา
มือถือหาย ต้องทำอย่างไร? เทคนิคง่ายๆ ในการตามหา และป้องกัน สมาร์ทโฟนสูญหาย รีบอ่านกันก่อนที่จะสายเกินแก้!
สมาร์ทโฟนหาย (ถ้าเป็นสมัยก่อนต้องบอกว่ามือถือหาย) เป็นเหตุการณ์ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตของทุกคนต้องเคยประสบพบเจอกันมาแล้ว หรือหากใครที่ยังไม่เคย หากพลั้งพลาดเมื่อไหร่ก็คงจะต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ได้เช่นกัน
ภาพประกอบจาก: www.it24hrs.com
อาจจะหายด้วยความประมาท เช่นคุณสุภาพสตรีไปนั่งกินข้าวในร้านอาหารแล้วลืมกระเป๋าถือไว้ หรืออาจจะหายจากเหตุสุดวิสัยเช่นเอาสมาร์ทโฟนยัดใส่กระเป๋ากางเกงแล้วลุกนั่งไม่ทันระวังทำเครื่องหล่นออกจากกระเป๋า หรือเคสที่เลวร้ายที่สุดคืออาจโดนกรีดกระเป๋าขโมยไปดื้อๆ แต่ไม่ว่าจะหายจากสาเหตุอะไร ในบทความนี้เราจะแนะนำเทคนิคง่ายๆ ในการตามหาเครื่องสมาร์ทโฟนที่หายไป ให้มีโอกาสได้กลับคืนมา เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ
ติดตั้งแอพพลิเคชั่นตามหาเครื่อง วิธีการที่ง่าย และเบสิคที่สุด
นอกจากแอพพลิเคชั่นโซเชียลเน็ตเวิร์ก, แอพพลิเคชั่นเกม และแอพพลิเคชั่นพื้นฐานทั้งหลายแล้ว ยังมีแอพพลิเคชั่นอีกหนึ่งประเภทหนึ่ง ที่ควรทำความรู้จัก และควรมีไว้ประจำเครื่อง คือแอพตามหาเครื่องหาย ซึ่งแอพที่โดดเด่นที่สุดในระบบ iOS คือแอพ Find my iPhone ส่วนวิธีการใช้งานก็คือ เมื่อคุณรู้ตัวว่าเครื่อง iPhone หายไป คุณสามารถเรียกใช้บริการผ่านอุปกรณ์ iOS ชิ้นอื่นที่มีอยู่ (หรือเรียกใช้บริการจากเว็บ icloud.com ผ่านเครื่องโน้ตบุ๊คก็ยังได้) Find my iPhone ทำให้คุณสามารถเรียกดูพิกัด GPS ของอุปกรณ์ที่สูญหายบนแผนที่ได้ทันที ทำให้รู้ตำแหน่งที่อยู่อย่างคร่าวๆ ของหัวขโมย นอกจากการดูพิกัด GPS แล้ว คุณยังสามารถสั่งให้ iPhone เครื่องที่กำลังตามหาอยู่ส่งเสียงร้องออกมาดังๆ ซึ่งเป็นประโยชน์มากในกรณีที่คุณมองหาว่าวางลืม iPhone ไว้ในจุดใดของบ้าน หรือในสถานการณ์ที่หัวขโมยปะปนอยู่ในฝูงชน การสั่งให้ iPhone ส่งเสียงร้อง ช่วยให้แยกแยะตัวหัวขโมยได้อย่างง่ายดาย
นอกจากนี้ Find my iPhone ยังสามารถสั่งล็อคเพื่อป้องกันไม่ให้หัวขโมยเข้าใช้งานเครื่องได้จากระยะไกล ทั้งยังสามารถสั่งลบข้อมูลในตัวเครื่องได้ด้วย ข้อดีของ Find my iPhone ซึ่งเป็นเทคโนโลยีของ Apple เอง คือมันสามารถติดตาม และควบคุมจากระยะไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้หัวขโมยจะทำการเปลี่ยนซิมการ์ดก็ตาม และเมื่อใดที่ iPhone เครื่องที่ถูกขโมยได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เมื่อนั้นก็อยู่ในกำมือของ Find my iPhone และสิ่งที่ต้องบอกคือ แอพตัวนี้รองรับการใช้งานกับทั้ง iPad, iPod touch หรือแม้แต่เครื่อง Mac เพราะฉะนั้นไม่มีเหตุผลอะไรที่คุณจะไม่ใช้มัน
สำหรับสาวกเจ้าหุ่นยนต์สีเขียวก็ไม่ต้องน้อยใจ แม้ว่าระบบแอนดรอยด์จะไม่มีแอพทางด้านนี้ติดตัวมาเป็นมาตรฐาน แต่ก็มีแอพหลายตัวที่มีคุณสมบัติการทำงานคล้ายๆ กับ Find my iPhone โดยแอพตัวที่โดดเด่นที่สุดและเราอยากให้คุณลองใช้คือแอพฟรีที่มีชื่อว่า Where's my Droid คุณสมบัติหลักของแอพตัวนี้คือเปิดโอกาสให้คุณสื่อสารกับอุปกรณ์แอนดรอยด์ที่สูญหายไปโดยการส่งข้อความ SMS อาทิ เมื่อต้องการรู้ว่าขณะนี้หัวขโมยอยู่ที่ไหน ให้คุณยืมสมาร์ทโฟนของเพื่อนมาส่งข้อความ SMS ที่เป็นรหัสไปยังสมาร์ทโฟนของคุณ เมื่อได้รับข้อความแล้วก็จะตรวจสอบพิกัด GPS ของตัวมันเอง เมื่อทราบพิกัดแล้วก็จะส่ง SMS ที่บอกตำแหน่งละติจูด และลองติจูด พร้อมแนบลิงก์ของแผนที่ระบุตำแหน่งกลับมา เป็นประโยชน์ในการตามหาหัวขโมย
นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการสั่งให้เครื่องส่งเสียงดังๆ (แม้ตัวเครื่องปิดเสียงอยู่) ด้วยการสั่งง่านผ่าน SMS และเพื่อให้ Where's my Droid ยังสามารถทำงานได้แม้หัวขโมยจะเปลี่ยนซิมการ์ด จึงได้มีระบบที่เรียกว่า Commander ซึ่งเป็นการสั่งงานจากระยะไกลโดยการควบคุมผ่านหน้าเว็บ ซึ่งสามารถแสดงตำแหน่งอุปกรณ์บนแผนที่ได้อย่างรวดเร็ว และคุณสามารถจ่ายเงิน 129 บาท (3.99$) เพื่อแลกกับฟีเจอร์เพิ่มเติมที่มีอยู่ในเวอร์ชัน Pro ของ Where's my Droid ที่เปิดโอกาสให้คุณสั่งล็อคเครื่อง, ลบข้อมูล หรือสั่งให้กล้องหน้า-หลังทำการถ่ายภาพคนร้ายได้จากระยะไกล ซึ่งจำนวนเงินแค่นี้ถือว่าเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับราคาสมาร์ทโฟนของคุณ
นอกจากนี้ยังมีแอพพลิเคชั่นอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมากใน Play Store ที่มีความสามารถใกล้เคียงกับแอพพลิเคชั่น Where's my Droid
เลข IMEI มีประโยชน์ที่สุดในการตามหาสมาร์ทโฟน
อยากให้ทุกท่านได้ลองอ่าน กรณีศึกษาของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ใช้ความพยายามเป็นอย่างสูงในการติดตามหา iPhone ของเธอที่วางลืมไว้ในสถานท่องเที่ยวยามราตรีแห่งหนึ่ง และโดนขโมยไปในที่สุด (ถึงแม้เรื่องราวจะยาวไปสักนิด แต่แนะนำว่าควรอ่านให้จบเพราะมีประโยชน์มาก) โดยเธอได้ใช้ความพยายามในการค้นหาทั้งการใช้งานแอพ Find my iPhone รวมถึงการขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือทั้ง 3 ราย ทำให้เธอได้ iPhone เครื่องที่หายไปกลับคืนมาในที่สุด ซึ่งดูเหมือนเป็นการงมเข็มในมหาสมุทร แต่เธอคนนี้ทำสำเร็จ!
วิธีการของเธอคือ ไปแจ้งความเพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกเอกสาร ที่สามารถนำไปใช้ในการขอความร่วมมือจากผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือทั้ง 3 ราย เพื่อให้ทำการตรวจสอบว่ามีใครนำสมาร์ทโฟนของเธอมาเปิดใช้บริการหรือไม่ (โดยผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือสามารถตรวจสอบได้ว่า สมาร์ทโฟนที่เข้ามาใช้งานในระบบเครือข่ายแต่ละเครื่องนั้น มีเลข IMEI ใดบ้าง) ซึ่งการที่เธอจดหมายเลข IMEI ของสมาร์ทโฟนไว้ ทำให้สามารถสาวไปถึงตัวผู้ต้องสงสัยได้ในที่สุด
และสำหรับการตรวจดูหมายเลข IMEI บนสมาร์ทโฟนของเรานั้นก็ทำได้ง่ายมาก ไม่ว่าจะเป็นการดูจากสติ๊กเกอร์ที่แปะอยู่ข้างกล่องสมาร์ทโฟน หรือจะตรวจสอบโดยการกดหมายเลข *#06# ในหน้าจอโทรออกก็ได้เช่นกัน
แม้จะมีแอพพลิเคชั่นสำหรับการตามหาสมาร์ทโฟนที่สูญหายอยู่มากมายหลายตัวในท้องตลาด แต่การแกะรอยตามหาจากเลข IMEI โดยการขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ ดูเหมือนจะเป็นวิธีการที่หวังผลได้มากที่สุด เนื่องจากถ้าหัวขโมยมีความชำชองในเทคโนโลยีหรือทำเป็นอาชีพ มันก็ไม่ยากเลยที่เขาหาทางถอนการติดตั้งแอพพลิเคชั่น หรือแม้แต่การล้างระบบ ทำให้เราไม่สามารถตามหาสมาร์ทโฟนผ่านแอพพลิเคชั่นได้อีกต่อไป ดังนั้นคงต้องตามตัวคุณเองแล้วว่า วันนี้คุณจดเลข IMEI บนสมาร์ทโฟนของคุณเก็บเอาไว้แล้วหรือยัง?