ธุรกิจเงินกู้นอกระบบหัวใส! ผุดเปิดเว็บ-เฟซบุ๊กล่อลูกค้าปล่อยกู้ร้อยละ10

ธุรกิจเงินกู้นอกระบบหัวใส! ผุดเปิดเว็บ-เฟซบุ๊กล่อลูกค้าปล่อยกู้ร้อยละ10

เศรษฐกิจตกสะเก็ด เงินกู้นอกระบบเฮ ปิ๊งไอเดียเปิดเว็บไซต์-เฟซบุ๊ก เพิ่มช่องทางบริการ พ่อค้าแม่ค้า ข้าราชการ นักศึกษา แห่ใช้บริการ เผยวงเงินปล่อยกู้ตั้งแต่หลักหมื่นถึงเรือนแสน คิดดอกเบี้ยเบาะ ๆ ร้อยละ 10 ต่อเดือน แบงก์ชาติชี้สกัดยาก เร่งให้ความรู้ประชาชน

จากผลพวง ของภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและธนาคารระมัดระวังคุณภาพสินเชื่อมากขึ้น ส่งผลประชาชนที่มีปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงินไม่มีทางเลือก ต้องหันไปพึ่งพาการกู้เงินนอกระบบ และทำให้ธุรกิจนี้มีความคึกคักและเติบโตอีกครั้ง ขณะเดียวกันเจ้าหนี้เงินกู้ยังได้พัฒนารูปแบบการให้บริการให้สอดรับกับ พฤติกรรมผู้บริโภคและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ขณะนี้บรรดานายทุนเงินกู้นอกระบบได้พัฒนารูปแบบการให้บริการด้วยการหันมาให้ ความสำคัญกับการลงโฆษณาตามเว็บไซต์และเฟซบุ๊กเพิ่มอีกช่องทางหนึ่ง จากเดิมที่เน้นการใช้แผ่นปลิวติดตามตู้โทรศัพท์ เสาไฟฟ้า บนสะพานลอย ซึ่งเป็นการเพิ่มช่องทางในการให้ลูกค้าหรือผู้สนใจสามารถใช้บริการได้ง่าย ขึ้น และเป็นที่น่าสังเกตว่า การตั้งชื่อเว็บไซต์หรือเฟซบุ๊กจะเน้นการสื่อถึงการปล่อยเงินกู้โดยตรง เช่น ใช้คำว่า "เงินกู้นอกระบบ" "สินเชื่อนอกระบบ" "เงินกู้ง่ายดี" "เงินกู้ง่ายจัง" เป็นต้น

โดยการปล่อยเงินกู้สำหรับช่องทางใหม่นี้ หลัก ๆ จะเป็นการให้เบอร์โทรศัพท์มือถือและชื่อผู้ให้บริการ เพื่อผู้ที่ต้องการจะใช้บริการโทร.เข้าไปปรึกษา ขณะเดียวกันก็จะมีการโฆษณาจูงใจและเชิญชวนด้วยคำหรือวลีที่น่าสนใจ เช่น "เงินกู้เพื่อปวงชน ไม่เช็คแบล็กลิสต์ ยื่นวันนี้ อนุมัติวันนี้ ต้องการเงินกู้คลิ๊ก!" "เงินกู้วันเดียวได้เงิน ติดแบล็กลิสต์ อนุมัติทุกกรณี ต้องการเงินกู้คลิ๊ก!"

เมื่อคลิกเข้าไปตามคำเชิญชวน แล้ว หน้าถัดไปจะเป็นการให้รายละเอียดเบื้องต้นและให้โทร.เข้าไปปรึกษาตามเบอร์ และรายชื่อที่ให้ไว้ เช่น "บริการเงินด่วน เงินกู้นอกระบบ ให้กู้เงินวงเงินสูง 10,000-100,000 บาท รับเงินสดรวดเร็วทันใจ ภายใน 1 ชั่วโมง รับเงินสดกับมือ 100% รับประกันไม่มีการหักค่าใช้จ่ายใด ๆ ในการอนุมัติเงินกู้ โทร.มาปรึกษาได้ตลอด24 ชั่วโมง ทุกปัญหาย่อมมีทางออก โทร.มาเลย 09-381 XXXX น้ำหวาน"

หรือ "มีปัญหาทางการเงินชักหน้าไม่ถึงหลัง เรามีเงินกู้นอกระบบไว้บริการแก่ทุกท่านที่กำลังหาแหล่งปล่อยเงินกู้ชนิด เร่งด่วนจริง ๆ แถมมีโปรโมชั่นเด็ดดวง ไร้กังวลกับปัญหาการติดแบล็คลิสต์ ติดต่อกู้เงินวันนี้ได้ทันทีที่ 09-2221 XXXX ฝน" เป็นต้น

จากการ ตรวจสอบเฟซบุ๊กที่ปล่อยกู้เงินนอกระบบรายหนึ่งระบุว่า บริการเงินกู้นอกระบบ โทร.มารับทุกสายโทร.ติดทุกเวลา เรื่องผ่านรับเงินสดทันทีใน 2 ชม. และให้โทรศัพท์เข้าไปสอบถามตามหมายเลขที่ให้ไว้ นอกจากยังให้รายละเอียดทั้งวงเงินที่จะปล่อยกู้และอัตราดอกเบี้ยไว้อย่าง ชัดเจน คือ ปล่อยกู้ตั้งแต่ 20,000-300,000 บาท ส่วนการคิดดอกเบี้ยตั้งแต่ 20,000-99,999 บาท ร้อยละ 10 ต่อเดือน หรือกู้ 100,000-300,000 บาท ร้อยละ 5 ต่อเดือน 10 เดือนแรก เป็นการผ่อนดอกอย่างเดียว หลังจาก 10 เดือนเป็นการผ่อนเงินต้นโดยไม่มีดอก เงินต้นผ่อนเดือนละเท่าไหร่ก็ได้ แต่ต้องให้หมดภายใน 1 ปี รวมระยะเวลาชำระต้นและดอก 22 เดือน

พร้อม ทั้งกำหนดเอกสารที่ใช้ประกอบในการพิจารณาว่าต้องใช้อะไรบ้าง เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาสเตตเมนต์ธนาคารย้อนหลัง 3 เดือน สลิปเงินเดือน หรือใบรับรองเงินเดือน ส่วนกรณีนิติบุคคลใช้สำเนาหนังสือรับรองบริษัท อายุไม่เกิน 1 ปี และให้ลูกค้าแนบเอกสารผ่านทางอีเมล์ พร้อมแนบเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกลับ และจะทราบผลภายในไม่เกิน 15 นาที หลังจากได้รับเอกสาร

จากการติดตาม เข้าไปตรวจสอบในช่องแสดงความเห็นก็จะพบว่า มีกลุ่มผู้สนใจและลูกค้าที่ต้องการกู้เงินเป็นจำนวนมาก ทั้งพ่อค้า แม่ค้า ธุรกิจส่วนตัว ข้าราชการ ชาวไร่ ชาวนา นิสิต-นักศึกษา และผู้ที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาและอยู่ระหว่างการหางาน

จากการสอบถาม ถึงปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย นางชนาธิป จริยาวิโรจน์ ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในเรื่องนี้ว่า ที่ผ่านมา ศคง.ยังไม่ได้รับข้อร้องเรียนจากการกู้ยืมเงินนอกระบบมากนัก ทำให้ยังไม่มีสถิติในประเด็นดังกล่าว อีกทั้งการกู้ยืมช่องทางนี้ถือเป็นความยินยอมจากผู้กู้ ดังนั้นจะกล่าวโทษหรือเอาผิดตามกฎหมายจึงทำได้ยาก และการเอาผิดตามกฎหมายสำหรับผู้ที่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากการกู้ยืมแบบนี้ถือ เป็นอำนาจของกระทรวงการคลัง ไม่ใช่อำนาจของ ธปท. แต่ ศคง.ก็มีแนวทางให้ความรู้กับประชาชนให้มากขึ้น เกี่ยวกับการสร้าง หนี้โดยไม่จำเป็น ไม่ว่าจะผ่านการกู้นอกระบบ หรือกู้ในระบบที่เกินความสามารถของตัวเอง โดยในเดือนหน้า ศคง.จะเผยแพร่โฆษณาชุดใหม่เกี่ยวกับการสร้างจิตสำนึกและการให้ความรู้กับ ประชาชนเกี่ยวกับการบริหารเงิน การใช้เงิน เพื่อไม่ให้สร้างหนี้สินและเป็นปัญหาในอนาคต