ทำไมโทรศัพท์มือถือทุกวันนี้ มีแต่ใหญ่ขึ้น?

ทำไมโทรศัพท์มือถือทุกวันนี้ มีแต่ใหญ่ขึ้น?

หลายคนคงจำได้ว่าโทรศัพท์มือถือในยุคแรกๆใหญ่โตเทอะทะขนาดไหน และดูเหมือนว่าอดีตที่ว่านี้กำลังย้อนกลับมาหาเราอีกครั้ง เมื่อสมาร์ทโฟนทุกวันนี้ มีแต่ใหญ่ขึ้นและใหญ่ขึ้น เราจะไปหาคำตอบกันว่าทำไมวัฒนธรรมการใช้โทรศัพท์มือถือใหญ่เทอะทะจึงย้อนกลับมาหาเราอีกครั้ง ใน culture corner

อดีตเป็นเครื่องบ่งชี้อนาคต และประวัติศาสตร์มักซ้ำรอยเดิมเสมอ ประโยคนี้สะท้อนปรากฏการณ์หลายๆอย่างในสังคม แต่ไม่น่าเชื่อว่าแม้แต่ในแวดวงเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วไม่หยุดยั้ง ประวัติศาสตร์ก็ยังจะซ้ำรอยเดิม นั่นก็คือวิวัฒนาการของโทรศัพท์มือถือ

เมื่อ 41 ปีที่แล้ว โมโตโรลาผลิตโทรศัพท์มือถือเครื่องแรกของโลกขึ้นมา โดยมือถือเครื่องนี้หนักถึง 1.1 กิโลกรัม ยาว 23 เซนติเมตร และกว้าง 4.45 เซนติเมตร ศักยภาพการใช้งานของโมโตโรลารุ่นนี้ใช้พูดโทรศัพท์ได้นานเพียง 30 นาที และต้องใช้เวลาชาร์จแบตเตอรีนานถึง 10 ชั่วโมง

หลายสิบปีผ่านไป โทรศัพท์มือถือได้มีวิวัฒนาการก้าวไกลจนพลิกโฉมแบบหน้ามือเป็นหลังมือ จากอุปกรณ์หนักและใหญ่เทอะทะที่ทำได้เพียงการโทรศัพท์ กลับกลายเป็นอุปกรณ์สารพัดนึกที่ทำทุกอย่างตั้งแต่วัดชีพจรไปจนถึงตัดต่อวีดีโอแบบ HD ไปจนถึงสั่งการด้วยเสียงหรือท่าทางแทนการกดปุ่ม แถมยังมีรูปร่างหน้าตาเพรียวบางล้ำสมัย

แต่สิ่งที่ดูเหมือนว่าโทรศัพท์มือถือกำลังพัฒนาแบบก้าวถอยหลัง ก็คือเรื่องของขนาด นับจากโทรศัพท์มือถือยุคแรกๆที่ใหญ่โตเหมือนกระติกน้ำจนพกพาไม่สะดวกสมชื่อ "โทรศัพท์เคลื่อนที่" บรรดาผู้ผลิตแต่ละค่ายก็ได้พัฒนารูปร่างของมือถือให้เล็กบางลงจนเหลือขนาดเล็กกว่าฝ่ามือ เพื่อให้โทรศัพท์มีน้ำหนักเบา ใส่ในกระเป๋าเสื้อหรือกางเกงได้

แต่เมื่อถึงยุคของสมาร์ทโฟน โทรศัพท์มือถือกลับใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ แถมยังมีน้ำหนักมากขึ้นจนบางครั้งแทบจะใหญ่เกินมือคนถือ และเกินที่จะพกพาในกระเป๋ากางเกงแม้แต่ค่ายผู้นำด้านไอทีที่ไม่เคยตามแบบใครอย่างแอปเปิล ก็ต้องยอมตามกระแสด้วยการออกไอโฟน 6 และ 6 plus ที่มีขนาดถึง 5.5 นิ้ว เป็นรุ่นใหญ่ที่สุดเท่าที่แอปเปิลเคยมีมา

เหตุผลที่ทำให้โทรศัพท์มือถือยุคใหม่ เริ่มกลับไปใหญ่โตเทอะทะเหมือนโทรศัพท์รุ่นคุณปู่ ถูกมองว่าเป็นเพราะโทรศัพท์เดี๋ยวนี้ไม่ได้เป็นแค่โทรศัพท์ แต่เป็นศูนย์รวมการติดต่อสื่อสารและความบันเทิง รวมถึงเป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลทุกชนิด การใช้งานที่หลากหลาย ทำให้โทรศํพท์ต้องใช้แบตเตอรี่มากขึ้น ซึ่งหมายถึงขนาดแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่าคนเราใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อถ่ายรูป เล่นเกม เล่นอินเทอร์เน็ต หรือดูวีดีโอมากกว่าการโทรศัพท์จริงๆหลายเท่า และการทำกิจกรรมเหล่านี้ ต้องการหน้าจอขนาดใหญ่ เพื่อให้เห็นรูปภาพและข้อความต่างๆได้ชัดเจน ใครๆก็เลยต้องการโทรศัพท์มือถือขนาดใหญ่ เพื่อความสะดวกในการทำกิจกรรมต่างๆได้อย่างถนัดตาและถนัดมือ

แต่สิ่งที่น่าคิดต่อก็คือ เมื่อโทรศัพท์มือถือเริ่มพกพาไม่สะดวกจากความใหญ่โตเทอะทะ มนุษย์ที่ติดเทคโนโลยี แต่ก็ต้องการความสะดวกคล่องตัวด้วย จะทำอย่างไร? คำตอบง่ายๆก็คือ Wearable Devices หรืออุปกรณ์ IT แบบพกพาได้ ที่กำลังเริ่มเป็นเทรนด์ฮิตในปัจจุบัน เมื่อสมาร์ทโฟนเริ่มใหญ่เกินจะหยิบออกมาจากกระเป๋า นาฬิกาอัจฉริยะ หรือแว่นอัจฉริยะ ก็เข้ามาทำหน้าที่แทน ให้คุณพกเทคโนโลยีติดตัวไปทุกที่ โดยไม่ต้องถือโทรศัพท์ให้เมื่อยมืออีกต่อไป

Culture Corner ประจำวันที่ 11 กันยายน 2557

สนับสนุนเนื้อหา: www.voicetv.co.th