9 วิธีการขาย iPhone, iPad อย่างไรให้ได้ราคาดีที่สุด
9 วิธีการขาย iPhone, iPad อย่างไรให้ได้ราคาดีที่สุด
ซื้อมาขายไปนั้นเป็นเรื่องธรรมชาติสำหรับอุปกรณ์ไอที ยิ่งในส่วนของ iPhone, iPad แล้ว ต้องยอมรับว่าในการขายรุ่นเก่าไปซื้อรุ่นใหม่นั้นค่อยข้างจะเป็นที่นิยมพอสมควร เพราะของมือสองสินค้า Apple นั้น ในส่วนของราคาจะไม่ค่อยตกเท่าไหร่ถ้านำไปเทียบกับฝั่งของ Android หรือแบรนด์อื่นๆ ซึ่งส่วนสำคัญที่เราจะมาแนะนำกันก็คือ ขาย iPhone, iPad อย่างไรให้ได้ราคาดีที่สุด เพราะการได้ราคาดีที่สุดนั้น หมายความว่าเราก็จะเติมจำนวนเงินใหม่ที่จะไปซื้อ iPhone, iPad รุ่นล่าสุดน้อยลงไปด้วย ในบทความนี้เรามาดูกันว่ามีวิธีใดบ้างที่จะช่วยเพิ่มราคาค่าตัวให้กับ iPhone ของท่าน ก่อนจะขายเป็นเครื่องมือสอง
1. ตรวจสอบราคากลางก่อนขาย iPhone, iPad
ทำการตรวจสอบราคากลางของ iPhone, iPad มือสองรุ่นที่เราต้องการขาย ด้วยการหาข้อมูลและตรวจสอบราคากลางผ่านทางเว็บไซต์ หรือ Google (ตัวอย่างการค้นหา : ขาย iPhone 5S - เลือกภายใน 1 เดือน หรือ 1 สัปดาห์) โดยเมื่อเราทราบราคากลางจะช่วยให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะตั้งราคาขาย iPhone, iPad เท่าไหร่ รวมทั้งช่วยให้เราได้ราคาที่มีความยุติธรรม และป้องกันการกดราคาที่ต่ำจนเกินจริง
2. รู้จักแหล่งซื้อขาย iPhone, iPad ที่ดี
ไม่แนะนำให้ขายกับร้านตู้ต่างๆ เพราะโดนกดราคากระจายอย่างแน่นอน เป็นไปได้ยังไงก็ให้ขายผ่านเว็บไซต์เว็บบอร์ดชื่อซื้อ-ขายสินค้ามือสองดัง ส่วนการเลือกเว็บที่จะขายก็เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งปัจจุบันมีหลายเว็บไซต์ให้เลือกลงประกาศโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และมีคนให้ความสนใจมาเลือกซื้อมากมาย นอกจากนั้นเรายังสามารถประกาศซื้อ-ขายผ่านแอพพลิเคชั่นบนมือถือได้อีกด้วย เรียกได้ว่าสะดวกสบาย รวดเร็ว ใช้งานง่าย และตอบรับกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการท่องโลกออนไลน์อย่างยิ่ง
3. ทำความสะอาดเครื่อง iPhone, iPad ให้เรียบร้อยที่สุด
เริ่มด้วยการใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์สะอาดๆ เช็ดไปรอบตัวเครื่อง ซึ่งถ้าใครมีน้ำยาที่ไว้ทำความสะอาดอุปกรณ์ไอทีโดยเฉพาะก็สามารถนำไปใช้งานได้เลย รวมไปถึงในส่วนของฟิล์มกันรอยที่ติดเครื่องอยู่ หากดูแล้วว่าเก่าจนเกินไป ก็แนะนำว่าให้ลอกทิ้งไปได้เลย หรือถ้าเป็นได้ก็แนะนำว่าให้ติดฟิล์มใหม่ให้คนที่ซื้อต่อเราไปด้วยก็จะดีมากๆ
แต่อย่างไรก็ตามทางที่ดีที่สุดก็คือการป้องกันตั้งแต่ตอนที่เราใช้งานเครื่อง อาทิเช่น ติดฟิล์มกันรอยตั้งแต่ซื้อมา และใส่เคสป้องกันที่มีคุณภาพดีหน่อย ที่มีการป้องกันตัวเครื่องได้ดี โดยเฉพาะเคส ถ้าจะเลือกแบบหุ้มทั้งเครื่องแล้ว เป็นต้น รวมไปถึงการดูแลรักษาเครื่อง iPhone, iPad ของเราไม่ให้ตกหล่นด้วย
4. Restore คืนค่าเครื่อง iPhone, iPad
นอกจากที่เราจะทำความสะอาดภายนอกอย่างตัวเครื่องแล้ว การทำความสะอาดภายในอย่างการ Restore คืนค่าเครื่อง iPhone ก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยการ Restore นั้นจะเป็นการล้างข้อมูลทั้งหมดของเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น แอพพลิเคชั่น เพลง หรือไฟล์อื่นๆ ให้ iPhone กลับเป็นสถานะที่ออกมาจากโรงงานครั้งแรก
อย่างไรก็ตามอย่าได้ไปหวังดีติดตั้งแอพพลิเคชั่นอะไรให้คนซื้อเด็ดขาด เพราะนั่นหมายความว่าเราต้องใช้ Apple ID ของเราติดตั้ง จะสร้างความลำบากให้กับผู้ใช้คนใหม่เปล่าๆ ทางที่ดีคือ Restore เสร็จแล้วก็ให้ไปเป็นเครื่องเปล่าๆ นี่ล่ะดีที่สุด และที่สำคัญคือ ปิดฟีเจอร์ Find my iPhone ด้วย เพราะเดี๋ยวจะยุ่งยากตอนที่คนซื้อไป Set up อีก
5. เตรียมอุปกรณ์ที่มากับ iPhone, iPad ให้ครบครัน
ใครว่ากล่องและอุปกรณ์ต่างๆ ที่มากับ iPhone, iPad นั้นไม่สำคัญในการขายเป็นมือสอง เพราะถ้าใครที่ยังเก็บกล่องและอุปกรณ์ติดกล่องอยู่ครบก็จะได้เปรียบครับ ทั้งพลาสติกรอง dock, สาย connector, adapter, หูฟัง หรือจะเป็นพวกคู่มือต่างๆ สติ๊กเกอร์ ถ้ามีอยู่ครบก็จะดีมาก เพราะอย่างน้อยเวลาโฆษณาขายก็จะบอกได้ว่าอุปกรณ์ครบกล่อง เพิ่มภาษีให้กับ iPhone ของเราให้มีราคาดีขึ้นมาอีกหน่อยได้เลย จากการที่เราแสดงให้เห็นถึงการดูแลรักษาของเราเป็นอย่างดี
6. บอกรายละเอียดและสภาพเครื่อง iPhone, iPad ตามจริง
การพูดตรงไปตรงมานับว่าเป็นเรื่องที่ดีอย่างหนึ่งในการซื้อขายของกัน ยิ่งในส่วนของการขาย iPhone, iPad มือสองแล้ว ในเรื่องของการโพสโฆษณาประกาศขายก็ควรจะบอกข้อมูลตามจริงของเครื่องที่เราจะขาย ถ้าสภาพเครื่องดีก็บอกว่าดี มีรอยตรงไหนหรือมีความผิดปกติส่วนใดก็ควรที่จะบอกตรงๆ ซึ่งจะส่งผลให้เราสามารถตั้งราคาได้อย่างเหมาะสม
แน่นอนว่าเวลาคนซื้อนัดดูของ แล้วถ้าเกิดคนซื้อ iPhone, iPad ของเราตาดีไปเจอจุดมีตำหนิเข้า รับรองว่าโดนกดราคาแน่นอน เผลอๆ ลูกค้าจะไม่ซื้อเอาซะอีก และเสียเครดิตเราด้วย (แถมเสียเงินเสียเวลา) ดังนั้นทางที่ดีๆ ประกาศกันตรงๆ ไปเลย เชื่อว่าน่าจะมีลูกค้าที่รับได้กับเรื่องของตำหนิอยู่แล้วจากการที่เป็นของมือสอง
7 . มีของแถม อาทิ เคสและฟิล์มกันรอยให้ไปด้วย
เป็นไปได้ถ้ามีของแถมนิดๆ หน่อยๆ เช่นฟิล์มกันรอยที่เหลืออยู่ เคส ผ้าเช็คเครื่อง ของเล็กๆ หน่อยๆ พวกนี้จะแถมไปซักหน่อยก็ได้ครับ อย่างน้อยก็ได้แบบว่า เออนะมีของแถมให้นิดนึง ถ้าบังเอิญของแถมตรงใจผู้ซื้อ รับรองว่าคงไม่โดนกดราคาแน่ครับ
8. สถานที่นัดขาย iPhone, iPad ควรมีอินเตอร์เน็ต
การเลือกสถานที่นัดพบเพื่อซื้อขาย iPhone, iPad กัน ถ้าเป็นไปได้ ก็เลือกสถานที่ที่สะดวกต่อการเดินทางของผู้ซื้อก็จะดีมาก อย่างน้อยก็จะไม่โดนต่อราคาเรื่องการเดินทางไกลหรือโดนอ้างว่าเดินทางลำบาก อย่างเช่น ใน กทม. ด้วยกัน ก็ควรจะเป็นตามเส้นรถไฟฟ้า หรือห้างใหญ่ๆ ถ้าจะให้ดีก็ควรมีโต๊ะ เก้าอี้ให้นั่งลอง รวมไปถึงถ้ามี Wi-Fi ก็จะดีมาก เพราะจะช่วยให้ลูกค้าได้ลองเครื่องอย่างเต็มที่แทบจะทุกฟังก์ชัน เพราะทุกวันนี้มีหลายๆ ฟังก์ชันที่ต้องอาศัยอินเตอร์เน็ตด้วย แน่นอนว่าลูกค้าก็ต้องอยากทดสอบก่อนซื้อ ดังนั้นถ้าหาสถานที่ที่มีบริการดังกล่าวด้วยก็จะดีมากทีเดียว
9. ตกลงราคาสุดท้ายให้เรียบร้อยก่อนที่จะนัดเจอ
ถ้ามั่นใจว่าเครื่อง iPhone, iPad ของเราไม่มีร่องรอยเสียหายอะไร เราก็สามารถที่จะคุยราคากับคนซื้อได้เลย ในส่วนของราคาสุดท้าย เพื่อป้องกันไม่ให้โดนต่อราคาหน้างานอีกซ้ำสอง เพราะถ้าไม่ได้ตกลงราคาสุดท้ายเอาไว้ ก็อาจจะเจอกรณีที่คนซื้อมาต่อราคาเราลงไปอีก ซึ่ง ณ ตอนนั้นเราก็อาจจะใจอ่อนลดราคาให้คนซื้อก็เป็นไปได้ แน่นอนผลดีตกอยู่กับคนซื้อต่อ ส่วนเราก็ต้องบวกเงินเพิ่มในการที่จะไปซื้อ iPhone, iPad เครื่องใหม่ด้วย
เชื่อได้นะครับว่าวิธีการทั้ง 9 ข้อนี้น่าจะเป็นตัวช่วยให้เราขาย iPhone, iPad เครื่องเดิมให้ได้ราคาดีอย่างแน่นอน ยังไงอย่าลืมเอาไปใช้กันนะครับ เพื่อที่เราจะได้บวกเงินไปซื้อเครื่องใหม่น้อยๆ หน่อย
ขอบคุณเนื้อหา และภาพประกอบ