สู้กันตัวต่อตัว! ศึกไอโฟน 6 ปะทะ กาแล็คซี่ โน้ต 4
สู้กันตัวต่อตัว! ศึกไอโฟน 6 ปะทะ กาแล็คซี่ โน้ต 4
กลับมาสู่ช่วงพีกของปีอีกครั้ง สำหรับตลาดโทรศัพท์มือถือ เมื่อ "แอปเปิล" และ "ซัมซุง" เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง
เริ่มจาก "ไอโฟน" ที่เพิ่งเปิดตัวไป 2 รุ่น ได้แก่ "ไอโฟน 6" หน้าจอ 4.7 นิ้ว แบบเรติน่าดิสเพลย์ กล้อง 8 ล้านพิกเซล ทำงานบน A8 ซีพียูดูอัลคอร์ตัวใหม่ ความเร็ว 1.4 GHz ใช้ไอโอเอส 8 มี 3 สี คือ เงิน, ทอง และสเปซเกรย์ แต่เปลี่ยนความจุให้เก็บข้อมูลได้จุใจกับขนาด 16, 64 และ 128 GB โดยราคาเครื่องเปล่าในแอปเปิลสโตร์ของสหรัฐอเมริกา อยู่ที่ 649, 749 และ 849 เหรียญสหรัฐตามลำดับ
สู้กันตัวต่อตัว! ศึกไอโฟน 6 ปะทะ กาแล็คซี่ โน้ต 4
อีกรุ่นคือ "ไอโฟน 6 พลัส" เอาใจคนชอบจอใหญ่ ด้วยหน้าจอ 5.5 นิ้ว แบบเรติน่าดิสเพลย์ (ฟูลเอชดี) กล้อง 8 ล้านพิกเซล พร้อมระบบกันสั่น ทำงานบนซีพียู A8 และไอโอเอส 8 มีสีและความจุ เหมือนไอโฟน 6 ขณะที่ราคาจะอยู่ที่ 749, 849 และ 949 เหรียญสหรัฐ ไล่ตามความจุ โดยทั้ง 2 รุ่นจะเปิดให้จองตั้งแต่ 12 ก.ย. วางขายวันแรก 19 ก.ย. ใน 9 ประเทศคือ สหรัฐอเมริกา, ฝรั่งเศส, แคนาดา, สหราชอาณาจักร, เยอรมนี, ออสเตรเลีย, ฮ่องกง, สิงคโปร์ และญี่ปุ่น แต่ผู้ใช้ในไทยอาจต้องรอถึงเดือน ต.ค. เพราะไม่อยู่ใน 29 ประเทศแรกที่ได้วางจำหน่าย
แต่ก็ยังมีข่าวดีจากการลดราคา ไอโฟน 5S และ 5C โดยไอโฟน 5S ความจุ 16 GB เหลือ 19,900 บาท และ 32 GB ราคา 21,900 บาท ส่วนไอโฟน 5C เหลือแค่ 8 GB กับราคา 14,900 บาท ถูกกว่าตอนเปิดตัวเมื่อปลายปีที่แล้ว 5,000-8,000 บาท
ฟาก "ซัมซุง" เปิดตัว "กาแล็คซี่ โน้ต 4" เมื่อ 3 ก.ย. คงจุดเด่น "จอใหญ่-ปากกาอัจฉริยะ" โดยจะวางขาย ต.ค.นี้ แต่ยังไม่ประกาศราคาโน้ต 4 หน้าจอยังใหญ่ 5.7 นิ้วแต่คมชัดแบบควอดเอชดี กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 3.7 ล้านพิกเซล ซีพียู ควอดคอร์ความเร็ว 2.7GHz แอนดรอยด์ 4.4.4 ส่วนปากกา "เอส เพ็น" สามารถรับรู้น้ำหนักในการกดได้แล้ว
พร้อมเปิดตัว "กาแล็คซี่ โน้ต เอดจ์" สมาร์ทโฟนจอโค้งรุ่นแรกของโลก โดยใช้ จอโค้งที่เป็นกระจกแผ่นเดียวกันมาแทนที่ขอบตัวเครื่องที่จะคอยเป็นจอแจ้งเตือนข้อความ เช่น อีเมล์ใหม่ และเป็นจุดรวมแอปพลิเคชั่น ส่วนสเป็กอื่นเหมือน "โน้ต 4" เป๊ะ
"โอภาส เฉิดพันธุ์" ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด ผู้จัดงานไทยแลนด์ โมบาย เอ็กซ์โป (TME) เปิดเผยว่า ทั้ง 2 รุ่นน่าจะทันวางขายในงาน TME ที่จะจัดขึ้นวันที่ 2-5 ต.ค.นี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ คาดว่าจะมีส่วนช่วยกระตุ้นตลาดได้มาก และทำให้ยอดเงินสะพัดภายในงานอยู่ที่ 1.4-1.5 พันล้านบาท จากครั้งก่อนหน้านี้ที่ทำได้ 1.1 พันล้านบาท
ภาพจาก Expertreviews.co.uk