ปัญหา iPhone ไม่มีเสียง เสียงหาย เสียงไม่ออก เสียงเพี้ยน
ปัญหา iPhone ไม่มีเสียง เสียงหาย เสียงไม่ออก เสียงเพี้ยน
ปัญหาเรื่องของโทรศัพท์เสียงหาย เป็นเรื่องสามัญที่หลายคนอาจเคยเจอ เพราะโอกาสที่ใช้งานอยู่ดีๆ เสียงหายไปก็มีหรือบางทีเกิดจากอุบัติเหตุ ตกหล่น เปียกน้ำหรือไฟฟ้าลัดวงจรและอื่นๆ อีกหลายกรณีที่เป็นไปได้ ปัญหานั้นอาจเกิดจากระบบภายในเอง อย่างเช่น วงจรหรือชุดลำโพง รวมไปถึงเกิดจากสิ่งอุดตัน ช่องทางเสียงที่ออกมา ล้วนแต่ทำให้เกิดอาการไม่มีเสียงหรือเสียงหายได้เหมือนกัน
เช่นเดียวกับ iPhone ก็เป็นมือถือที่เราสามารถเจอกับอาการที่เรียกว่าเสียงหาย ไม่มีเสียงได้เช่นเดียวกัน บางครั้งก็จะมีอาการเสียงหาย เสียงไม่ดังหรือเสียงอู้อี้ ฟังไม่รู้เรื่อง ไม่ว่าจะเกิดจากเครื่องหล่น ตกน้ำ เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาแล้ว ก็ต้องหาทางออก เพื่อให้ใช้งานได้ตามปกติ แต่จะทำอย่างไรได้บ้าง ก็ต้องตรวจเช็คไปในทีละจุด เพราะบางครั้งแม้ไม่ได้เกิดเหตุขึ้นกับไอโฟน แต่ก็มีโอกาสที่เกิดปัญหาเสียงหายหรือไม่มีเสียงได้เช่นกัน
ตรวจเรื่องการตั้งค่าเสียงบน iPhone
เป็นสิ่งที่ควรทำตั้งแต่เริ่มต้นในการเช็คความผิดปกติ iPhone ไม่มีเสียง เสียงหาย โดยกรณีที่ไม่มีเสียงเลย ให้ลองเข้าไปดูสไลด์บาร์ใน Control Center ว่ามีแถบเลื่อนอยู่หรือไม่ ลองเลื่อนให้ไปที่แถบสไลด์ ว่าปรับได้ตามปกติหรือไม่ รวมถึงกดปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงจากด้านข้างของไอโฟน เพื่อดูว่าระดับเสียงถูกลดลงไปจนไม่มีเสียงหรือเสียงเบาหรือไม่ และตรวจเช็คการทำงานของปุ่มว่าทำงานได้ตามปกติ แต่ถ้ากดปุ่มแล้ว ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น นั่นก็หมายถึงเกิดความเสียหายที่ปุ่มควบคุมและหาทางแก้ไขต่อไป
ลองตรวจดูว่ามีการเชื่อมต่ออุปกรณ์อยู่หรือไม่
ในบางครั้งเราเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่นอยู่อย่างเช่น การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์บลูทูธ ไม่ว่าจะเป็น ลำโพงหรือหูฟังบลูทูธก็ตาม เพราะบางครั้งเมื่อเชื่อมต่อไปแล้ว ไม่ได้มีการ Disconnect ก็จะไม่มีเสียงเกิดขึ้นที่ไอโฟน แต่จะไปดังที่ปลายทางแทน ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายๆ คนมักจะลืมไป เพราะเป็นอุปกรณ์ที่เรามีใช้กันบ่อยยิ่งขึ้น บางคนใช้หูฟังอยู่บนรถ แต่ทิ้งเอาไว้ในรถหรือบางทีเปิดลำโพงบลูทูธอยู่ในห้องนอน แล้วออกมารับสายนอกบ้าน การที่ยังเชื่อมต่อ ก็ทำให้เสียงออกที่ลำโพงในห้องเช่นกัน วิธีการแก้ไขก็เพียงเข้าไปที่การเชื่อมต่อ Bluetooth ที่อยู่ใน Setting หรือแตะไปที่ไอคอนที่หน้า Control Center เพื่อปิดการทำงานเท่านั้น
ตรวจเช็คเรื่องความสะอาดลำโพง
ตรวจว่ามีความผิดปกติที่ลำโพงหรือไม่ เช่น วัสดุ เศษฝุ่นหรือสิ่งตกค้างต่างๆ เพราะบางครั้งการใส่เคสเอาไว้นานๆ ก็มีเศษผงติดเข้ามาบ้าง บางทีเจอความชื้นหรือละอองน้ำเข้าไป โอกาสที่จะทำให้เกิดการอุดตันตามช่องลำโพงก็เกิดขึ้นได้เช่นกัน ในจุดนี้ส่วนใหญ่ จะเกิดอาการเสียงไม่ชัดเบาลงหรืออาการหนักคือ เสียงแปลกแตก หากตรวจพบก็ให้ทำความสะอาดแต่เนิ่นๆ
ด้วยการใช้แปลงทำความสะอาดขนนุ่ม ขนาดเล็กมาปัดฝุ่นออก จากนั้นลองตรวจเช็คเสียงอีกครั้งและหมั่นตรวจดูให้บ่อยขึ้น เพราะหากเกิดสิ่งเหล่านี้มากขึ้น
ช่องเสียบสายหูฟัง
นอกจากนี้ยังมีในกรณีที่ไอโฟน ยังจำว่ามีหูฟังต่อทำงานอยู่ อาจเกิดขึ้นได้ในบางกรณีที่ใช้งาน ทำให้เสียงไม่ออกลำโพง แต่ระบบจะไปที่สัญญาณของหูฟังแทนหรือบางทีเสียงก็ไม่ออกจากหูฟังด้วย แบบนี้ให้ลองแก้ไขด้วยการเสียบสายหูฟังเข้าไปในช่องต่ออีกครั้ง ด้วยการต่อเข้าไปช้าๆ และลองหมุนดู จากนั้นถอดออก หากยังใช้งานไม่ได้หรือเสียงยังไม่ออกตามปกติ อาจจะต้องลองทำความสะอาดดูก่อน เนื่องจากการเกิดความสกปรกขึ้นในช่องต่อหูฟัง ให้ใช้วิธีนำไม้พันสำลีเช็ดเบาๆ ข้างใน หากหมดประกันไปแล้ว อาจชุบน้ำยาทำความสะอาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยบีบให้แห้งที่สุด แล้วเช็คเข้าไปในช่อง สังเกตดูว่าหาก iPhone ใช้ได้แล้ว แสดงสัญลักษณ์ของระบบเสียงที่้เป็นรูปกระดิ่งจะเป็นปกติ ไม่ได้เป็นแบบที่ทำงานกับ Headphone นั่นเอง สุดท้ายหากยังแก้ไขไม่ได้ก็ให้ใช้วิธี Rest iPhone เพื่อเป็นการล้างระบบ และเริ่มการทำงานใหม่อีกครั้ง
เกิดจากความเสียหายภายในระบบ
อาการมักจะเกิดหลังจากมีการกระทบกระแทกหรือเกิดจากหล่นน้ำและความชื้นที่ สะสมมากเกินไปภายใน iPhone จนทำให้เกิดการลัดวงจร เช่น หล่นน้ำหรือกระแทกอย่างรุนแรง แล้วมีการเปิดใช้งานในทันทีหรือมีอุปกรณ์และเศษอื่นใด เข้าไปทำอันตรายภายใน iPhone ก็ทำให้เกิดความเสียหาย เสียงไม่ออกหรือเสียงเพี้ยนได้ ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ ก็คงต้องส่งซ่อมเท่านั้น เพราะผู้ให้บริการที่จำหน่ายบางรายก็ยกเว้นความเสียหายที่นอกเหนือจากการใช้ งานปกติหรือใช้งานผิดประเภท เปียกน้ำ นั่นก็ทำให้หมดประกันได้
ในกรณีเหล่านี้มีทางแก้อยู่หลายส่วนด้วยกัน ขึ้นอยู่กับอาการที่เกิดขึ้น อย่างเช่น บางราย iPhone เสียงหาย โทรเข้าไม่มีเสียง ปลอดล็อคก็ไม่มีเสียง รวมถึงไม่มีรูปกระดิ่งที่บอกสถานะของระบบเสียง การเปลี่ยนสายแพรที่เชื่อมต่อเข้ากับพอร์ตต่อพ่วงที่ช่องชาร์จไฟ ก็มีโอกาสหายจากอาการได้เช่นกัน แต่นั่นก็ต้องแลดมากับการหมดประกัน ส่วนถ้าอยู่ในการเคลมก็ต้องตรวจสอบว่าอยู่ในเงื่อนไขใด เช่น เปลี่ยนเครื่องด้วยค่าใช้จ่ายตามเงื่อนไขเป็นต้น
ขอบคุณเนื้อหา และภาพประกอบ