ประสบการณ์สัปดาห์แรกของผมกับ "iPhone6"

ประสบการณ์สัปดาห์แรกของผมกับ "iPhone6"

ประสบการณ์สัปดาห์แรกของผมกับ "iPhone6"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากวางขายในไทยเป็นวันแรก เมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา เชื่อว่าเหล่าสาวก "แอปเปิ้ล" คงไม่พลาด ไปเข้าแถวรอถอยเจ้า "iPhone6 หรือ iPhone6 plus" มาครอบครองในมือกันเรียบร้อยแล้วใช่มั้ยครับ?


เรื่องรีวิวรายละเอียดยิบย่อยต่างๆ หลายท่านอาจจะได้อ่าน หรือเสพผ่านตาจากหลากหลายแหล่งข้อมูลมาแล้วไม่มากก็น้อย แต่เชื่อว่าตอนนี้ น่าจะยังมีเหล่า "แอปเปิ้ลนิยม" อีก "หลายท่าน" ที่กำลังคิดอยู่ว่า

"เอ๊ะ! ฉันจะซื้อดีมั้ยหนอ?" พร้อมๆกับมองไปยังไอโฟน 4, 4s, 5 หรือ 5s ที่อยู่ในมือตอนนี้



ส่วนของดีไซน์ด้านหน้าตัวเครื่อง

ในฐานะที่ผมก็เป็นหนึ่งใน "ผู้จงรักภักดี" กับแบรนด์นี้มาพอสมควร ล่าสุดก็เพิ่งปล่อยเจ้า 5s ไปจากอ้อมอก เพื่อฉกเจ้า 6 มาแทนที่

ขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้ บอกเล่าเก้าสิบประสบการณ์ที่ใช้ชีวิตอยู่กับ เจ้า "iPhone6 สีทอง 64GB" มาเป็นระยะเวลานานเกือบสัปดาห์เต็มๆ (เหมือนนานมากเนอะ ฮ่าๆ) โดยจะขอใช้ "iPhone5s" คนรักเก่าของผม เป็นบรรทัดฐานในการเปรียบเทียบ เผื่อจะช่วยใครที่ยังลังเลอยู่ ตัดสินใจได้ว่าสรุปแล้ว "ซื้อดีมั้ยว้า?!"

- น้ำหนักมากไปป่ะ?

ตามข้อมูลที่แอปเปิ้ลระบุมาว่า 6 จะ "หนักกว่า" 5s อยู่ 17 กรัม (129 กับ 112 ตามลำดับ) สร้างความคลางแคลงใจแก่สาวกอยู่ไม่น้อย จนหลายๆคน รวมถึงผมเองก็กังวลว่า "เห้ย! รุ่นใหม่กว่า ทำไมไม่พัฒนาให้เบาลง น้ำหนักมากกว่าเดิมได้ไงฟระ?"


ตัวเครื่องด้านขวา

ตัวเครื่องด้านซ้าย

เมื่อได้ลองถือดูแล้วมัน "ไม่ต่าง" คือต้องบอกว่าเจ้า 6 นี่มันไม่ได้หนักอะไรเลย เมื่อลองเทียบกับ 5s แล้ว คนทั่วไปนี่แยกไม่ออกแน่ๆว่า 17 กรัมที่ว่า มันแตกต่างกันยังไง?

สรุปง่ายๆตามความเข้าใจของผมเองนะครับ คือเจ้า 6 เนี่ยมันไม่หนักหรอก เจ้า 5s ต่างหากที่ออกมาครองโลกก่อน แต่ดันเบาเกิ๊น!

- ดีไซน์ตัวเครื่องใหญ่ไปมั้ย?

ข้อนี้ต้องเรียนตามตรงว่า สัมผัสแรก ณ ที่ร้าน ตอนหยิบขึ้นมานี่รู้สึกเลยว่า "ใหญ่จังฟระ!" แต่พอได้จับๆ ลูบๆคลำๆ จนเริ่มชิน กลับรู้สึกว่า ยังอยู่ในเกณฑ์ที่มือตัวเองรับไหว(ผมสูง 180 ซม. แต่ขนาดมือ ไม่ถือว่าใหญ่มาก ถ้าเทียบกับผู้ชายที่รูปร่างใกล้เคียงกัน)

ส่วน 6plus ที่วางอยู่ใกล้ๆกัน สัมผัสแรกที่หยิบขึ้นมา "ผมนี่.. ถึงกับวางคืนที่เดิมเลยครับ!!" ไอ้นี่แหละใหญ่เกินไปของแท้!


นำเครื่อง iPhone4s iPhone5s และ iPhone6 มาเปรียบเทียบหน้า


นำเครื่อง iPhone4s iPhone5s และ iPhone6 มาเปรียบเทียบด้านข้าง


นำเครื่อง iPhone4s iPhone5s และ iPhone6 มาเปรียบเทียบด้านบน

ปุ่ม Home ที่เคยอยู่มุมขวาบน ถูกเปลี่ยนมาอยู่ด้านข้างขวาแทน ซึ่งตรงจุดนี้ผมมองว่าเจ๋งมาก เพราะถ้าผมใช้มือซ้ายจับเครื่อง ตำแหน่งมันจะอยู่ตรงนิ้วชี้(หรือนิ้วกลางก็ได้)พอดิบพอดี

แต่ถ้าเปลี่ยนมาใช้มือขวา นิ้วโป้งก็พร้อมจะกดได้พอดีเป๊ะเช่นกัน และอีกเหตุผลที่บอกว่า ใหญ่ในระดับพอรับได้ก็คือ มันยังยัดใส่กระเป๋ากางเกงยีนส์ด้านหน้าได้ ชนิดที่ไม่โผล่หัวแหลมเกินออกมา ให้เสี่ยงหล่นหรือหายนั่นเองครับ

- หน้าจอเป็นไง?

ดีทีเดียวครับ! ขนาด 4.7 นิ้ว ของ 6 ให้ความรู้สึกการมองที่แตกต่างมากๆจากหน้าจอ 4 นิ้วของ 5s ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ เวลาที่เราดูไฟล์วิดีโอหรือเล่นเกมต่างๆ มันเก็บภาพได้มากขึ้น

ทำให้เราไม่ต้องเพ่งเยอะ จะสร้างแลนด์มาร์ค หรือจะแชทไลน์ รู้สึกได้เลยว่า "ฟิน" มากขึ้นจริงๆครับ คอนเฟิร์ม!


ด้านหน้าตัวเครื่อง

ด้านความละเอียดหน้าจอที่มากขึ้นจาก 1136x640 พิกเซล เป็น 1334x750 พิกเซล และจอรุ่นเก่าจาก Retina display เป็น Retina HD display ประสิทธิภาพดีขึ้นชัดเจนครับ

ส่วนฟังก์ชั่น Reachability ที่เพิ่มเข้ามา ด้วยการแตะที่ปุ่มสแกนนิ้วสองครั้ง เพื่อเลื่อนหน้าจอลงมาให้กดง่ายขึ้น กรณีที่นิ้วแตะไม่ถึงไอคอนแถวบน ก็ช่วยได้เยอะ ใช้งานได้มีประสิทธิภาพดีเลยทีเดียว

- กล้องชัดมั้ย?

แม้ว่าจำนวนพิกเซลจะยังคงยืนหยัดอยู่ที่กล้องหลัง 8MP และกล้องหน้า 1.2 MP เท่ากัน แต่สิ่งที่พัฒนาขึ้นคือ New Sensor ระบบ Autofocus แบบ "Focus Pixel" ซึ่งช่วยในการเกลี่ยแสงของภาพให้ดีขึ้น แถมยังเพิ่มขนาดของรูรับแสง

ทำให้ภาพมีความสว่างมากขึ้น และมี Noise น้อยลงในกล้องหน้าครับ เซลฟี่กันสนุกกว่าเดิมล่ะงานนี้!


ด้านหลังตัวเครื่อง

ส่วนวิดีโอ ก็มีโหมด Slo-mo แบบ 240 fps เพิ่มขึ้นมา เรียกบ้านๆก็คือ "มันถ่ายสโลว์ได้ช้ากว่าเดิมอีก" ส่วนโหมด Time-lapse ที่เหมาะสำหรับถ่ายวิดีโอในเวลานานๆ ก็น่าสนใจครับ ถือเป็นลูกเล่นใหม่ของ iOS8 ได้เลย

ลองมาดูตัวอย่างภาพถ่ายกันครับ


- การทำงานของเครื่องเป็นไง?

ด้วยชิป A8 ที่พัฒนาขึ้น ตรงจุดนี้ก็มีข้อแตกต่างที่ดีกว่า A7 อยู่ไม่น้อยครับ จากการทดลองเปิดแอพพลิเคชั่นต่างๆ แม้เครื่องจะทำงานหนัก แต่ก็ดูไหลลื่น ไม่กระตุกติดขัด และภาวะ "แอพเด้ง" ก็ไม่มีให้เห็นเลย


ยังรวมไปถึงการเรียกข้อมูลในเครื่อง, การประมวลผลรูปภาพในบราวเซอร์ขณะท่องเว็บไซต์ก็ให้ความรู้สึกลื่นไหล เรียกง่ายๆแบบบ้านๆก็คือ ดูมัน "ฉลาดขึ้นกว่าเดิม" นั่นเองครับ เป็นประเภทถามปุ๊บตอบปั๊บ ตอบสนองได้ทันที ไม่มีอิดออด แต่ถ้ากรณีสัญญาณอินเตอร์เน็ทหรือไวไฟช้าเอง นั่นก็อีกเรื่องนึงนะจ๊ะ!

- แบตเตอรี่อึดขึ้นป่าว?

ถ้าตามข้อมูลที่แอปเปิ้ลแจ้งมา เขาบอกว่าจะอยู่ได้นานขึ้นกว่า 5s ราว 20% ซึ่งว่าตามตรงก็ถือว่าไม่มากนัก แต่ถ้าเทียบกับไลฟ์สไตล์ของผมกับเจ้ารุ่นเดิม ออกจากบ้านมาทำงานตั้งแต่ 8 โมงเช้า แบตเตอรี่เต็ม 100% เล่นแอพหรือโทรเข้าออกตามปกติ ก็อยู่ได้ยันเลิกงาน 5 โมงเย็นครับ เหลือ 20-30%

แต่สำหรับเจ้า 6 นี่ จากการทดลอง ด้วยลักษณะการใช้งานระยะเวลาพอๆกัน ตั้งแต่เช้าอยู่ได้จนถึงก่อนนอน 4-5 ทุ่มก็ยังไหวครับ 20-30% มีเหลือแน่ๆ และถ้าไม่แตะเลย ปล่อยทิ้งไว้ทั้งคืน ยันเช้าของวันรุ่งขึ้น แบตก็แทบไม่ลดเลย มากสุดก็แค่ 2-3% เท่านั้นที่หายไป

อย่างไรก็ดี ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคนด้วยนะครับ ถ้าเล่นเกมที่ความละเอียดสูงมากๆ หรือใช้งานติดต่อกันเป็นชั่วโมงๆ ไม่ทันถึงเลิกงาน แบตคุณก็หมดอยู่ดีแหละ!

สรุปว่าประสบการณ์ใหม่ของผมกับเจ้า iPhone6 ในระยะเวลาสัปดาห์แรก ถ้าจะถามว่า "ใช้ 5s อยู่ สมควรเปลี่ยนใหม่มั้ย?"

ในฐานะคนที่เคยใช้ 5s มาก่อนเหมือนกัน ผมบอกได้เลยครับว่า..

"ไม่ว่าจะใช้ 5s หรือรุ่นไหนก็ตาม ถ้าจะซื้อ 6 มาใช้ รับรองไม่ผิดหวัง เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ดีกว่าเดิมทุกอย่าง ถ้าจะมีจุดด้อยกว่าก็คงเป็นเรื่องเดียวคือ ความถนัดในการจับถือ นอกนั้นจุดเด่นของ 6 กลบ 5s มิดเลยครับ"

ส่วน 6plus ขออนุญาตไม่พูดถึงนะครับ เพราะยังไม่มีประสบการณ์กินนอนอยู่ด้วยกัน แต่ถ้าจะจำกัดความสั้นๆก็น่าจะได้ว่า "iPhone6plus ไม่น่าจะใช่ไอโฟนที่เหมาะสำหรับทุกคน"

ก็อย่างที่บอกตอนต้นล่ะครับ "มันใหญ่เกินไปจริงๆ"

 

"น้องเพชร"

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook