เปรียบเทียบรอยนิ้วมือระหว่าง iPhone 6 ที่ติดฟิล์มกับไม่ติดฟิล์มหน้าจอ
ฟิล์มกันรอยหน้าจอ iPhone น่าจะเป็นอุปกรณ์เสริมแรกสุด ที่ผู้ใช้งาน iPhone เกินกว่า 95% ในบ้านเราต้องซื้อมาใช้ตอนได้เครื่องมาใหม่ๆ นั่นหมายความว่า มีเพียงไม่กี่คนหรือมีเพียงแค่คนกลุ่มน้อยๆ เท่านั้น ที่ใช้งาน iPhone แบบไม่ติดฟิล์มหน้าจอ และสัมผัสกับตัวกระจกหน้าจอโดยตรง
บทความนี้ เลยจะมาเล่าถึงความพิเศษของหน้าจอกระจก iPhone 6 แบบไม่ติดฟิล์มกันรอยหน้าจอกัน ว่ามันจะน่าใช้ขนาดไหน และทำไมคุณถึงควรลองใช้ iPhone แบบไม่ติดฟิล์มกันรอยหน้าจอดูซักครั้ง
เริ่มต้นด้วยความสามารถพื้นฐานของกระจก iPhone กันก่อน นั่นคือความสามารถในการป้องกันรอยนิ้วมือ โดยที่ผ่านๆ มา Apple ก็ได้โฆษณาถึงสรรพคุณเกี่ยวกับการกันรอยนิ้วมือมานานหลายรุ่นแล้ว แต่หลายๆ คนกลับไม่เคยรู้ถึงคุณสมบัตินี้เลยเพราะมัวแต่แปะฟิล์มหน้าจอ วันนี้เราจึงจะมาพิสูจน์กันครับ
เริ่มต้นด้วยการที่นำ iPhone 6 Plus หน้าจอสีดำ (เพราะเห็นคราบได้ง่ายที่สุด) แล้วมาติดฟิล์มคุณภาพมาตรฐานลงไป เราก็จะเห็นขอบฟิล์มกันรอยที่เว้นส่วนของลำโพงด้านบนไว้อย่างในภาพ
จากนั้นผมได้นำเอานิ้วโป้งไปลูลไล้ตามใบหน้า ที่กำลังมันแผล่บ (อี๋) เพื่อเป็นการดูดเอาไขมันมาไว้ที่นิ้วให้มากที่สุด จากนั้นก็กดลงไปตรงแถวๆ ลำโพงด้านบน โดยตำแหน่งที่กดนั้นจะโดนทั้งตัวฟิล์ม และโดนทั้งกระจกหน้าจอจริงๆ ที่ฟิล์มเว้นช่องเอาไว้
และเมื่อเอานิ้วออก ก็ได้ผลดังภาพครับ นั่นคือส่วนที่เป็นฟิล์มกันรอย คราบไขมันจะเกาะแบบชัดเจนมาก ครบกริบระดับ Retina กันเลยทีเดียว
ส่วนสังเกตดูดีๆ ในโซนที่เป็นกระจกจริงๆ ของหน้าจอ รอบนิ้วมือจะบางเอามากๆ คือไม่ค่อยเห็นในมุมแสงทั่วๆ ไป ต้องส่องแบบดีมากๆ เท่านั้นจึงจะเห็นได้ชัด ส่วนคราบบนฟิล์มนั้นเรียกได้ว่าสะท้อนแสงเห็นชัดเกือบทุกมุมมมองเลยทีเดียว
หมุนให้ดูหลายๆ มุม เพื่อที่จะเห็นความแตกต่างได้ชัดๆ
จากนั้นมาลองกดลงไปบนกลางจอแบบติดฟิล์มกันดูบ้าง
ผลที่ได้คือ ลายนิ้วมือออกมาเป็นวงๆ แบบชัดมากอย่างที่เห็น ซึ่งพอมีคราบติดเยอะๆ แล้วเราเอาผ้าที่ไม่ใช่ Micro Fiber มาเช็ด จะเห็นว่าคราบจะกระจายมากๆ เคลือบทั้งฟิล์มไปด้วยไขมันหนาๆ เลยทีเดียว ดูไม่น่าใช้เท่าไร
เอาล่ะ มาถึงเวลาโชว์ของกันแล้ว ผมได้ทำการลอกฟิล์มกันรอยของ iPhone 6 Plus ออก จนเหลือแต่หน้าจอเพียวๆ เป็นที่เรียบร้อย
จากนั้นก็ทดลองเหมือนเดิม คือเอานิ้วที่กำลังมันๆ กดลงไปเต็มแรงที่หน้าจอแบบไม่มีฟิล์ม ผลที่ได้คือ….
ตัวคราบที่ติดบนจอ จะบางมากๆ อย่างที่เห็นครับ (ในรูปคือหาที่ชัดที่สุดแล้ว) ซึ่งตัวรอยจะไม่ค่อยสะท้อนแสงออกมาเหมือนเวลาเกาะอยู่บนฟิล์ม
เปลี่ยนมากดที่กลางจอกันบ้าง โดยเหมือนเดิมครับ คือเอานิ้วมันๆ มาจิ้มลงไปเต็มๆ ไม่มีกั๊ก
และผลที่ออกมาก็อย่างที่เห็น จากการพยายามหามุมที่เห็นได้ชัดที่สุดแล้ว คราบก็จะออกมาบางๆ อย่างในรูป
ดังนั้นการทดสอบนี้ได้ข้อสรุปว่า หน้าจอ iPhone แบบไม่ติดฟิล์มกันรอยนั้น มีความสามารถในการกันรอยนิ้วมือที่ดีกว่าฟิล์มกันรอยมากๆ โดยตัวคราบจะไม่เกาะแน่น และเด่นชัดออกมา แต่จะออกแน้วฟุ้งๆ นิ่มๆ มากกว่า ส่วนเวลาเอาผ้าทั่วไปเช็ด เช่นชายเสื้อเชิ๊ต คราบก็จะออกมามากกว่าการเช็ดบนฟิล์มกันรอย ที่ดูเหมือนจะเป็นการวนคราบให้ทั่วฟิล์มซะมากกว่า
และในการใช้งานจริง หน้าจอ iPhone ก็ให้สัมผัสที่ดีกว่ามากๆ ถึงมากที่สุด โดยเราแทบจะไม่ต้องกังวลกับเรื่องคราบไขมันซักเท่าไร และการลูบไปยังหน้าจอแบบไม่สะดุดขอบฟิล์มก็ให้สัมผัสต่อเนื่องในการใช้งาน ที่ดีกว่าสุดๆ
ดังนั้นสำหรับใครที่อยากจะลองใช้งานจอ iPhone ให้ได้เต็มคุณภาพที่ Apple อุตส่าห์ทำออกมา ก็ลองใช้แบบไม่ติดฟิ์ลมกันรอยหน้าจอดูนะครับ แล้วคุณจะรู้ว่าสัมผัสแบบเทพๆ นั้นมันเป็นยังไง (อย่างงั้นเลยแหละ) แต่สำหรับคนที่รู้สึกไม่ไหว ยังใจไม่กล้าพอ อยากจะติดฟิล์ม ก็แนะนำว่าให้เป็นฟิล์มดีๆ แพงๆ แบรนด์ดังไปเลย ซึ่งก็พอจะมีคุณภาพและความสามารถในการกันรอยนิ้วมือมากกว่าฟิล์มทั่วไปตาม ท้องตลาดนั่นเอง (แต่ลูบขอบจอแล้วไม่ฟินนะ อิๆ)
Articles
สนับสนุนเนื้อหา: www.thaimacupdate.com