จับกระแส Wearable Device รอ Apple Watch ปลุกตลาด

ได้รับความสนใจจากคอไฮเทค โดยเฉพาะกลุ่มคนรักสุขภาพ ด้วยจุดเด่นของเจ้าอุปกรณ์ไอทีประเภทสวมใส่ หรือ Wearable Device ไม่ว่าจะเป็นการเก็บข้อมูลการออกกำลังกาย การบันทึกกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน เริ่มจากสมาร์ทวอตช์หลากหลายยี่ห้อที่ใช้งานคู่กับสมาร์ทโฟนจนมาถึงสายรัดข้อมืออัจฉริยะ ฟิตบิท (FitBit), รันทาสติก (Runtastic) อุปกรณ์เสริมที่เกี่ยวกับการออกกำลังกาย เป็นต้น

"สุระ คณิตทวีกุล" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า ตลาด Wearable Device เติบโตที่ดีขึ้นต่อเนื่อง แม้ในแง่ยอดขายจะไม่มากนัก แต่โตขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีกลุ่มที่ติดตามเทคโนโลยีเป็นลูกค้า และมักซื้อควบคู่ไปกับสมาร์ทโฟน เช่น ในแบรนด์ซัมซุง ซึ่งหลังจากค่ายแอปเปิล เปิดตัว "แอปเปิลวอทช์" (Apple watch) ทำให้ตลาดคึกคักขึ้น มีผู้บริโภคสอบถามข้อมูล และแสดงความสนใจตัวสินค้า เชื่อว่าจะกระตุ้นตลาดให้มีสีสันขึ้นอีกเมื่อแอปเปิลวอทช์ออกสู่ตลาดโลก ซึ่งในไทยคาดว่าจะเข้ามาในช่วงเดือน ม.ค.ปีหน้า

"เมื่อเจ้าใหญ่อย่างแอปเปิลลงมาเล่นในตลาด ยิ่งทำให้การแข่งขันของสินค้าประเภทนี้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น จากปัจจุบันแบรนด์ใหญ่ยังไม่ได้ลงมาจริงจัง เชื่อว่าในอนาคตยิ่งได้รับความนิยมเพราะแสดงให้เห็นถึงความทันสมัยของผู้สวมใส่ และตอบโจทย์เรื่องการดูแลสุขภาพ ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์"

ปัจจุบัน สัดส่วนของอุปกรณ์ประเภทสวมใส่มีรายได้คิดเป็นประมาณ 10% ของตลาดสมาร์ทโฟน แม้มูลค่าไม่มาก แต่เติบโตสูงขึ้นทุกเดือน ยิ่งปลายไตรมาส 4 จะได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น

ด้าน นายดุสิต สุขุมวิทยา ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายผลิตภัณฑ์ บมจ.เจมาร์ท กล่าวว่า ตลาดยังไม่ตอบรับดีไวซ์ประเภทสวมใส่มากนัก เนื่องจากยังมีราคาแพงและรูปลักษณ์ยังไม่โดดเด่นโดนใจผู้บริโภคเท่าไร แม้ "แอปเปิลวอทช์" จะออกมาแล้ว เหมือนกรณีไอโฟน รุ่น 5c ที่คนผิดหวังเพราะราคาไม่ถูกอย่างคิด ผลตอบรับจึงไม่ดีนัก และสุดท้ายก็ขายไม่ได้ตามเป้าหมายเท่าไร ส่วนอุปกรณ์ประเภทสวมใส่ขายได้เฉพาะกลุ่มที่สนใจและมีความรู้ด้านเทคโนโลยี รวมถึงกลุ่มที่ใส่ใจสุขภาพ เช่น นักปั่นจักรยาน, นักกีฬา

"แม้ราคา Wearable Device จะมีราคาอยู่ที่ 5,000-6,000 บาท ถือว่าไม่แพงแต่ยังไม่ตอบสนองผู้บริโภคส่วนใหญ่ เพราะคนส่วนใหญ่คิดว่าสินค้าเหล่านี้ยังไม่มีความจำเป็นนัก การวางราคาจึงสำคัญมาก หากต้องการขายได้มาก ๆ แวริเอเบิลของซัมซุง ไม่ว่าจะเป็นซัมซุงกาแลคซี่ เกียร์ฟิต, กาแลคซี่เกียร์ 2 ที่วางขายอยู่ก็ไม่ได้ขายดีมากนักเมื่อเทียบกับอุปกรณ์เสริมอื่น อย่างพาวเวอร์แบงก์ที่ขายได้เรื่อย ๆ หรือหูฟังบลูทูธที่ขายดี"

แต่ถ้าเจ้าใหญ่มีการโปรโมต และรุกตลาดอย่างจริงจัง จึงเชื่อว่าตลาดจะเติบโตได้มากขึ้น ด้วยความหลากหลายทั้งในแง่สินค้า และการแข่งขันจากปัจจุบันที่มีแค่อุปกรณ์เฉพาะกลุ่ม

"สินค้าตระกูลวอตช์ทั้งหลายยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก เราจึงนำเข้ามาขายแค่แบรนด์ซัมซุงเท่านั้น และมีลูกค้ามาซื้อเฉพาะกลุ่ม แต่ในอนาคต เมื่อมีแอปเปิลวอทช์เข้ามาก็มีโอกาสที่อุปกรณ์กลุ่มนี้จะได้รับความนิยมมากขึ้น รวมทั้งราคาอาจถูกลงกว่าในปัจจุบัน"

ด้าน นายเสถียร บุญมานันท์ ประธานกรรมการ บริษัท นีโอลูชั่น เทคโนโลยี คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำเข้าอุปกรณ์สวมใส่ภายใต้แบรนด์ "รันทาสติก" (Runtastic) กล่าวว่า กระแสดีไวซ์ประเภทสวมใส่ดีขึ้นต่อเนื่อง 4-5 เดือนที่ผ่านมา ยอดขายเติบโตขึ้น 100% จากการพัฒนาแอปพลิเคชั่น

รองรับการใช้งานได้มากขึ้น และผู้ใช้เริ่มรู้จักสินค้าประเภทนี้มากขึ้น ตามเทรนด์เทคโนโลยี รวมทั้งการใส่ใจเรื่องสุขภาพ คาดว่าการเปิดตัวของแอปเปิลวอทช์จะทำให้อุปกรณ์ประเภทนี้ได้รับความนิยมมากขึ้นไปอีก

จากการสำรวจของบริษัทเองตั้งแต่ต้นปี ตลาดอุปกรณ์สวมใส่เติบโตขึ้นกว่า 300% โดยเฉพาะในกลุ่มคนรักสุขภาพ คาดว่าในไตรมาส 4 จะยิ่งแรงมากขึ้น และคาดว่าแอปเปิลวอทช์จะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยต้นปีหน้าทำให้ทิศทางของ อุปกรณ์ประเภทนี้ชัดเจนขึ้น และเริ่มกลายเป็นอุปกรณ์ไอทีที่เข้าถึงได้ทั่วไปคล้ายโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์

แน่นอนว่าทำให้การแข่งขันเพิ่มมากขึ้น แต่เป็นผลดีต่อการสร้างการรับรู้ของแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นจากเดิม เป็นที่รู้จักในวงการเฉพาะกลุ่มเท่านั้น เช่น กลุ่มคนรักสุขภาพ และกลุ่มที่ชื่นชอบแก็ดเจตต่าง ๆ

สำหรับ "รันทาสติก" ยังถือว่าไม่ประสบความสำเร็จทั้งในแง่ยอดขาย และการรับรู้ของแบรนด์ โดยมีกลุ่มลูกค้าหลักเป็นกลุ่มคนรักสุขภาพที่มีกำลังซื้อ แต่ในภาพรวมมีแนวโน้มที่ดีจากการเข้าสู่ตลาดของแอปเปิลวอทช์ในปีหน้าจะทำให้ ตลาดคึกคักขึ้นแน่นอน

"การเข้ามาทำตลาดของแอปเปิลจะทำให้ตลาดคึกคัก ขึ้นทำให้ Wearable เป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ของเราเองก็เป็นที่นิยมเฉพาะกลุ่มคนรักสุขภาพ ซึ่งเป็นกลุ่มที่กำลังมาแรง แต่ปีหน้าจะคึกคักแน่นอนและจะเป็นอุปกรณ์ที่เข้าถึงได้ทุกกลุ่ม ตอนนี้ตามร้านไอสตูดิโอเริ่มมีการสอบถามมากขึ้น เชื่อว่าทิศทางตลาดนั้นสามารถไปได้ดี"