สัมผัสแรกกับ Samsung Galaxy A7 สมาร์ทโฟน 4G ดีไซน์ All-Metal Unibody รุ่นใหญ่
พรีวิว (Preview) Samsung Galaxy A7 สัมผัสแรกกับ Samsung Galaxy A7 สมาร์ทโฟน 4G ดีไซน์ All-Metal Unibody รุ่นใหญ่ ที่บางเฉียบที่สุดของ ซัมซุง พร้อมจอ Full HD Super AMOLED 5.5 นิ้ว และซีพียู
สวัสดีครับ วันนี้เป็นฤกษ์งามยามดีที่ทาง ซัมซุง (Samsung) ประเทศไทยได้ส่งเครื่อง Samsung Galaxy A7 มาให้ทางทีมงานไทยโมบายเซ็นเตอร์ได้ทดสอบกัน ซึ่ง Samsung Galaxy A7 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหญ่ในตระกูล Galaxy A ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา (มกราคม 2015)
โดย Samsung Galaxy A7 นั้นมาพร้อมกับเทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ All-Metal Unibody เช่นเดียวกับรุ่นรองที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้คือ Samsung Galaxy A5 ที่กรอบตัวเครื่องถูกขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน ด้วยวัสดุแบบโลหะทั้งชิ้น และมีความบางเฉียบเพียง 6.3 มิลลิเมตร
ซึ่งนั่นก็หมายความว่า Samsung Galaxy A7 เข้ามายึดตำแหน่งสมาร์ทโฟนรุ่นที่บางเฉียบที่สุดของ ซัมซุง แทนที่ Samsung Galaxy A5 ซึ่งบาง 6.7 มิลลิเมตร ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และหากจะเรียกว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มีดีไซน์สวยหรู และมีวัสดุพรีเมียมที่สุดของ ซัมซุง ณ เวลานี้ก็คงจะไม่ผิดนัก
นอกจากนี้ ด้านคุณสมบัติตัวเครื่องของ Samsung Galaxy A7 ก็นับว่าไม่ธรรมดา และถูกอัพเกรดจาก Samsung Galaxy A5 ขึ้นมาอีกหลายจุด ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอ Super AMOLED ขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว ที่มีความละเอียดระดับ Full HD, หน่วยประมวลผลแบบ Octa-Core 64-bit Qualcomm MSM8939 Snapdragon 615 Processor, หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 405, หน่วยความจำแรม (RAM) 2 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 16 GB, รองรับการใช้งานพร้อมกันสองซิมการ์ด
รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G ทั้งสองซิมการ์ด และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 4.4.4 (KitKat) ซึ่งเมื่อมองดูจากคุณสมบัติตัวเครื่องทั้งหมดที่กล่าวมา ต้องบอกเลยว่า Samsung Galaxy A7 เป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นในวันนี้เราจะมาดูกันว่า กับราคาเปิดตัวที่ 14,900 บาท จะคุ้มค่าน่าใช้มากน้อยขนาดไหนสำหรับ Samsung Galaxy A7 รุ่นนี้
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์
Samsung Galaxy A7 จะมาพร้อมกับจอแสดงผลแบบ Super AMOLED Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ขนาด 5.5 นิ้ว พร้อมด้วยตัวเครื่องขนาด 151x76.2x6.3 มิลลิเมตร กับน้ำหนัก 141 กรัม ซึ่ง Samsung Galaxy A7 จะมีเทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ All-Metal Unibody คือกรอบตัวเครื่องถูกขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน ด้วยวัสดุแบบโลหะทั้งชิ้น ซึ่งได้ประโยชน์ทั้งความแข็งแรง และความสวยงามไปในตัว
ด้านหน้าส่วนบน : จะประกอบไปด้วย ลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา, เซ็นเซอร์ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน, เซ็นเซอร์ Ambient Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม และกล้องดิจิตอลที่มีความละเอียดมากถึง 5 ล้านพิกเซล
ด้านหน้าส่วนล่าง : จะประกอบไปด้วย ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ
ด้านบนของตัวเครื่อง : จะมีไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวน
ด้านล่างของตัวเครื่อง : จะประกอบไปด้วย ไมโครโฟน, ช่องเชื่อมต่อแบบ microUSB สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ หรือการโอนถ่ายข้อมูลกับเครื่องคอมพิวเตอร์ และช่องสำหรับเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร
ด้านข้างทางขวาของตัวเครื่อง : จะมีปุ่ม เปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อคหน้าจอ, ช่องซิมการ์ดที่ 2 หรือเพิ่มหน่วยความจำภายนอก (ต้องเลือกใช้งานอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่สามารถใช้งานพร้อมกันได้) และช่องซิมการ์ดที่ 1 สำหรับซิมการ์ดที่ใช้จะเป็นแบบ nanoSIM ทั้งช่องซิมการ์ดที่ 1 และช่องซิมการ์ดที่ 2
ด้านข้างทางซ้ายของตัวเครื่อง : จะมีปุ่ม เพิ่ม-ลด ระดับของเสียง
ด้านหลังของตัวเครื่อง : จะประกอบไปด้วย ลำโพงเสียงภายนอก, กล้องดิจิตอลความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และไฟแฟลช LED ส่วนฝาหลังจะไม่สามารถเปิดออกได้ ซึ่งภายในจะมีแบตเตอรี่ขนาด 2600 mAh
เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ ในเบื้องต้น
สำหรับ Samsung Galaxy A7 จะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชัน 4.4.4 (KitKat)
ส่วนแอปพลิเคชันพื้นฐานก็มีให้ใช้งานครบ ซึ่งจะอยู่ในหน้า App Drawer
รวมถึงบริการต่างๆ จากทาง Google ก็มีให้ใช้งานครบเช่นเดียวกัน
Samsung Galaxy A7 มีฟังก์ชันการสั่งงานด้วยท่าทางให้ใช้งาน 3 แบบ ด้วยกัน ได้แก่ การเตือนอัจฉริยะ คือ โทรศัพท์จะสั่นเมื่อถูกหยิบขึ้นมา ในกรณีที่มีสายที่ไม่รับ หรือข้อความใหม่, ปิดเสียง / พัก คือ การนำฝ่ามือวางขนานกับหน้าจอ เพื่อปิดเสียงสายเรียกเข้า หรือเสียงการแจ้งเตือนต่างๆ และการใช้มือปัดที่หน้าจอ เพื่อจับภาพหน้าจอ
Samsung Galaxy A7 รองรับการส่งผ่านข้อมูลแบบ NFC
มีโหมด Ultra Power Saving สำหรับการประหยัดพลังงาน (ล็อคการใช้งานบางฟีเจอร์ที่ไม่จำเป็น และเปลี่ยนสีของหน้าจอเป็น ขาว-ดำ : แบตเตอรี่ 10% สามารถใช้งานต่อได้นานประมาณ 24 ชั่วโมง)
สำหรับการเล่นเกมกราฟิกแบบ 3D บน Samsung Galaxy A7 ก็นับว่าไหลลื่นเป็นอย่างดี ไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกแต่อย่างใด
นอกจากนี้ Samsung Galaxy A7 ยังมีโหมดการถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น ถ่ายภาพเซลฟี่จากกล้องด้านหลัง, พาโนราม่า, กลางคืน, GIF และอื่นๆ
โดยสามารถเลือกความละเอียดของกล้องถ่ายภาพได้สูงสุดที่ 13 ล้านพิกเซล ในอัตราส่วนภาพแบบ 4:3
และยังสามารถถ่ายวีดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080p (1920x1080 พิกเซล)
ส่วนกล้องดิจิตอลด้านหน้าก็มีฟังก์ชันถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ฟังก์ชัน Smart Selfie ซึ่งสามารถปรับหน้าเนียน, ปรับหน้าเรียว และปรับขนาดดวงตา ได้ทั้งหมด 8 ระดับ, โหมดถ่ายภาพตนเองแบบกลุ่ม (Wide Selfie) หรือโหมดถ่ายภาพกลาคืน เป็นต้น
โดยสรุปแล้ว ฟีเจอร์เด่นสำหรับการถ่ายภายภาพเซลฟี่ด้วยกล้องด้านหน้า และกล้องด้านหลังของ Samsung Galaxy A7 ก็จะคล้ายกันกับ Samsung Galaxy A5 ซึ่งมีทั้งหมด 5 อย่างด้วยกัน ได้แก่ Palm Selfie, Smart Selfie, Rear Cam Selfie, Voice Selfie และ Wide Selfie ซึ่งจะมีรายละเอียดดังนี้
1. Palm Selfie คือการยกฝ่ามือขึ้นมาเพื่อสั่งถ่าย Selfie ด้วยกล้องหน้า (นับถอยหลัง 2 วินาที)
2. Smart Selfie คือเอฟเฟกต์ทำตาโต, หน้าเรียว และหน้าเนียน (สามารถตั้งค่า Default ไว้ได้ด้วย)
3. Rear Cam Selfie คือการใช้กล้องหลังในการถ่าย Selfie เพื่อให้ได้ภาพที่ละเอียดคมชัดมากขึ้น โดยสามารถกำหนดกรอบของใบหน้าก่อนได้ว่าจะให้อยู่ ณ ตำแหน่งใดของภาพ ซึ่งทำงานร่วมกับระบบตรวจจับใบหน้าอัตโนมัติ
4. Voice Selfie คือการสั่งถ่าย Selfie ด้วยเสียง พร้อมการนับถอยหลัง 2 วินาที
5. Wide Selfie คือการถ่าย Selfie ในมุมกว้าง
และเมื่อนำ Samsung Galaxy A7 มาทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Banchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 30238 คะแนน โดย Samsung Galaxy A7 จะมีหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 2 GB และหน่วยความจำภายในขนาด 16 GB
และรองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 3 จุด
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล ของ Samsung Galaxy A7
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพจากฟังก์ชัน Smart Selfie ของ Samsung Galaxy A7
ภาพถ่ายด้วยฟังก์ชัน Smart Selfie ซึ่งปรับค่าระดับ 50%
ภาพถ่ายด้วยโหมด Smart Selfie ซึ่งปรับค่าระดับ 100%
สรุปผลการทดสอบในเบื้องต้นของ Samsung Galaxy A7
คงจะไม่ผิดนัก หากจะกล่าวว่าสำหรับ Samsung Galaxy A7 รุ่นนี้ ก็เป็นเหมือนกับการนำเอารุ่นที่เปิดตัวมาก่อนหน้าอย่าง Samsung Galaxy A5 ที่มีความโดดเด่นในระดับหนึ่งอยู่แล้ว มาต่อยอดให้มีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น ตั้งแต่ความบางเฉียบที่มากกว่า, มีจอใหญ่เต็มตามากขึ้น พร้อมทั้งแสดงผลได้ละเอียดคมชัดมากกว่าเดิม, ใช้ชิปเซ็ตที่ประมวลผลได้ดีขึ้น, ใส่แบตเตอรี่มาให้มากขึ้น และสามารถรองรับกับการใช้งานสองซิมการ์ดได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องแลกมาด้วยราคาค่าตัวที่บวกเพิ่มไปอีก 2,000 บาท
ซึ่งหลังจากที่ได้ลองสัมผัสแรกกับ Samsung Galaxy A7 ก็ต้องยอมรับว่า Samsung Galaxy A7 มีการออกแบบดีไซน์ที่โดดเด่น รู้สึกได้ทันทีถึงความสวยหรูเพรียวบาง
และการที่กรอบตัวเครื่องถูกขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน ด้วยวัสดุแบบโลหะทั้งชิ้น (All-Metal Unibody) ทำให้ Samsung Galaxy A7 ดูแข็งแรงทนทาน ดูเป็นผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม ที่สำคัญ คือ ตัวเครื่องมีความบางเฉียบเพียง 6.3 มิลลิเมตร ส่งผลให้เป็นสมาร์ทโฟน ซัมซุง ที่บางเฉียบที่สุดในเวลานี้ รวมถึงมีขนาดที่กำลังดี สามารถพกพาได้อย่างสะดวกคล่องตัว
นอกจากนี้ คุณสมบัติของตัวเครื่องทาง Samsung ก็จัดมาให้แบบเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD (1080p), หน่วยประมวลผลแบบ Octa-Core 64-bit Qualcomm MSM8939 Snapdragon 615, หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 405, หน่วยความจำแรม (RAM) 2 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 16 GB, รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมแบบ microSD ได้สูงสุดขนาด 64 GB, ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 4.4.4 (KitKat)
และรองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE ทั้งสองซิมการ์ด นอกจากนี้ กล้องดิจิตอลด้านหน้า 5 ล้านพิกเซล และกล้องด้านหลัง 13 ล้านพิกเซล บน Samsung Galaxy A7 ก็ตอบสนองในเรื่องของการถ่ายภาพทุกรูปแบบได้ดีไม่แพ้สมาร์ทโฟนรุ่นใดในระดับราคาเดียวกัน
ส่วนในเรื่องของการวางจำหน่าย Samsung Galaxy A7 ซึ่งมีราคาอยู่ที่ 14,900 บาท คาดว่าจะพร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการครั้งแรกในงาน Thailand Mobile Expo 2015 ระหว่างวันที่ 12-15 กุมภาพันธ์ 2558 ที่กำลังจะถึงนี้ และอย่างไรก็ดี นี่เป็นเพียงการทดสอบ Samsung Galaxy A7 ในเบื้องต้นเท่านั้น ยังมีฟีเจอร์เด่นๆ ที่ยังไม่ได้พูดถึงอีกมากมายใน Samsung Galaxy A7 ซึ่งทีมงานขอยกเอาไปกล่าวถึงอีกครั้งในรีวิวฉบับเต็มนะครับ สำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อน พบกันได้ใหม่โอกาสหน้า สวัสดีครับ
จุดเด่นของ Samsung Galaxy A7
- เป็นสมาร์ทโฟน ซัมซุง ที่มีความบางเฉียบมากที่สุด ณ ปัจจุบัน (6.3 มิลลิเมตร) และมีการออกแบบดีไซน์ที่โดดเด่น ดูพรีเมียมสวยหรู
- เทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ All-Metal Unibody (กรอบตัวเครื่องถูกขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน ด้วยวัสดุแบบโลหะทั้งชิ้น)
- การออกแบบดีไซน์ตัวเครื่องแบบ Edge-Cut Design และ Diamond Cut
- วัสดุแบบ Die-Casting Aluminium ซึ่งมีความบางเบา แต่มีความแข็งแกร่งในตัว
- จอแสดงผลแบบ Super AMOLED Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 Pixels (Full HD 1080p : กว้าง 5.5 นิ้ว) พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิคโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Adreno 405
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core 64-bit Qualcomm MSM8939 Snapdragon 615 Processor (ซีพียู Quad-Core ARM Cortex-A53 ความเร็ว 1.5 GHz และ Quad-Core ARM Cortex-A53 ความเร็ว 1.0 GHz)
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 4.4.4 (KitKat)
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB
- รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 64 GB
- กล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้าน Pixels พร้อมไฟแฟลชแบบ LED และระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ
- รองรับการถ่ายภาพวีดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080p (1920x1080 Pixels : 30 fps)
- กล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels
- ฟีเจอร์สำหรับการถ่ายภาพเซลฟี่ที่หลากหลาย (Palm Selfie, Smart Selfie, Rear Cam Selfie, Voice Selfie และ Wide Selfie)
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G HSPA+, EDGE และ GPRS
- รองรับการใช้งาน 4G LTE ทั้งสองซิมการ์ด
- รองรับการใช้งาน 3G ทุกคลื่นความถี่ในประเทศไทย
- รองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อข้อมูลไร้สายแบบ NFC (Near Field Communication)
- ระบบ GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง) พร้อมฟังก์ชัน A-GPS และรองรับระบบดาวเทียม GLONASS ของรัสเซีย
- โหมด Ultra Power Saving สำหรับการประหยัดพลังงาน (ล็อคการใช้งานบางฟีเจอร์ที่ไม่จำเป็น และเปลี่ยนสีของหน้าจอเป็น ขาว-ดำ : แบตเตอรี่ 10% สามารถใช้งานต่อได้นานประมาณ 24 ชั่วโมง)
- วิทยุ FM Stereo ในตัว
- ราคา 14,900 บาท ถือว่าเป็นราคาที่ไม่สูงจนเกินไป เมื่อเทียบกับดีไซน์ภายนอก และคุณสมบัติระดับนี้
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Samsung Galaxy A7
- ไม่สามารถถอดฝาหลัง และเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้
- แบตเตอรี่ขนาด 2,600 mAh ยังไม่ถือว่าเยอะมากนัก หากเทียบกับขนาดของหน้าจอที่ใหญ่ถึง 5.5 นิ้ว
- ใช้ซิมการ์ดแบบ nanoSIM ซึ่งหากใครที่ใช้ microSIM หรือ miniSIM อยู่ ก็ต้องไปติดต่อขอเปลี่ยนกับศูนย์บริการอีกครั้ง
- ช่องซิมการ์ดที่ 2 ไม่สามารถใส่ nanoSIM และ microSD Card พร้อมกันได้ ต้องเลือกใส่อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น
โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.thaimobilecenter.com/review/samsung-galaxy-a7-preview.asp