พรีวิว Samsung Galaxy Note Edge มือถือขอบจอโค้ง

พรีวิว Samsung Galaxy Note Edge มือถือขอบจอโค้ง

พรีวิว Samsung Galaxy Note Edge มือถือขอบจอโค้ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สิ้นสุดการรอคอยแล้ว สำหรับ Samsung Galaxy Note Edge ที่ได้ฤกษ์วางจำหน่ายภายในงาน Thailand Mobile Expo 2015 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-15 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ผ่านมา

โดย Samsung Galaxy Note Edge รุ่นนี้ มีคุณสมบัติระดับสูงที่ครบเครื่องไม่แพ้ Samsung Galaxy Note 4 แถมโดยเด่นกว่าขึ้นไปอีกขึ้นด้วยหน้าจอแสดงผลแบบโค้งงอนั่นเอง และผู้ที่มาร่วมงาน Thailand Mobile Expo 2015 ก็ให้ความสนใจในตัว Samsung Galaxy Note Edge กัน อย่างเนืองแน่น

เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของงานเลยก็ว่าได้ ซึ่งทีมงานไทยโมบายเซ็นเตอร์ก็ไม่รอช้า รีบไปเก็บภาพ และรวบรวมข้อมูลมาพรีวิวให้มิตรรักแฟนเว็บไซต์ได้รับชมกันครับ

 

Samsung Galaxy Note Edge จะมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED Curved Edge Screen ความละเอียด 2560x1600 พิกเซล ขนาด 5.6 นิ้ว

โดยกระจกหน้าจอแบบ Curved Edge Screen มีความโค้งที่บริเวณขอบของหน้าจอ พร้อมการแสดงผลในแถบโค้ง และกระจกหน้าจอแบบ Corning Gorilla Glass 3 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแรงกระแทก หรือรอยขีดข่วน พร้อมด้วยขนาดตัวเครื่อง 151.3x82.4x8.3 มิลลิเมตร กับน้ำหนัก 174 กรัม

 

ด้านหน้าส่วนบน : จะประกอบไปด้วย ลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา, Accelerometer Sensor ที่ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้, Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน และกล้องดิจิตอลความละเอียด 3.7 ล้านพิกเซล

 

ด้านหน้าส่วนล่าง : จะประกอบไปด้วย ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ

 

ด้านหน้าส่วนบน : จะประกอบไปด้วย ปุ่ม เปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อคหน้าจอ, ไมโครโฟน, อินฟราเรด และช่องสำหรับเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร

ด้านล่างของตัวเครื่อง : ไมโครโฟน 2 ตัว, ช่องสำหรับเชื่อมต่อเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ หรือส่งผ่านข้อมูลแบบ microUSB และช่องสำหรับเก็บปากกา S Pen Stylus

 

ด้านข้างทางซ้าย : จะมีปุ่ม เพิ่ม-ลด ระดับของเสียง

 

ส่วนด้านข้างทางขวาจะไม่มีปุ่มงานสั่งงานใดๆ เนื่องจากมีจอแสดงผลแบบโค้ง (Curved Edge Screen) เข้ามาแทนที่ ซึ่งมีฟังก์ชันให้เลือกใช้งานหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การเข้าฟังก์ชันโทรศัพท์, การเข้าแอปพลิเคชันกล้องถ่ายภาพ หรือเปิดดูข้อความ ก็สามารถเข้าใช้งานจากส่วนนี้ได้ทันที

 

ด้านหลังของตัวเครื่อง : จะประกอบไปด้วย กล้องดิจิตอลความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมระบบป้องกันการสั่นแบบ Smart OIS (Optical Image Stabilization), ไฟแฟลช LED, เซ็นเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate Sensor) และลำโพงเสียงภายนอก

Samsung Galaxy Note Edge จะขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชัน 4.4.4 (Kitkat)

และรองรับการใช้งาน S Pen Stylus กับฟังก์ชัน Air Command

สำหรับแอปพลิเคชันพื้นฐานก็มีมาให้ใช้งานครบครัน

 

Samsung Galaxy Note Edge มีให้เลือก 2 สีด้วยกัน คือ ขาว และดำ

 

และที่พิเศษก็คือ การควบคุมกล้องทั้งหมดจะอยู่ในส่วนที่โค้งงอของหน้าจอ เช่น ปุ่มกดถ่ายภาพ หรือการตั้งค่าฟังก์ชันอื่นๆ เป็นต้น

สำหรับราคาอย่างเป็นทางการของ Samsung Galaxy Note Edge อยู่ที่ 28,900 บาท โดยวางจำหน่ายทั้งหมด สี ด้วยกัน ได้แก่ สีขาว และสีดำ สามารถไปทดสอบใช้งานเครื่องจริงกันได้ ที่ Samsung Mobile Shop และตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านครับ

สรุปข้อมูลสเปค และ ฟีเจอร์ อย่างเป็นทางการ กับสมาร์ทโฟน จอขอบโค้ง สุดหรู

นอกเหนือจาก Samsung Galaxy Note 4 ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วนั้น ยังมีสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่น ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ซึ่งรุ่นที่ว่านั้นก็คือ Samsung Galaxy Note Edge นั่นเอง โดยสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ถือว่ามีจุดเด่นที่เป็นเอกลัษณ์เฉพาะตัวตรงที่ มีหน้าจอโค้งลงไปทางด้านข้างของตัวเครื่อง ซึ่งช่วยให้หน้าจอมีขนาดที่กว้างขึ้น มีพื้นที่สำหรับควบคุมแอปพลิเคชัน และ ดูข้อความแจ้งเตือนได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น เราลองมาดูกันครับว่า Samsung Galaxy Note Edge นั้นจะมาพร้อมกับสเปคที่แรงแค่ไหน และ จะมีฟีเจอร์อะไรที่น่าสนใจบ้าง ลองมาชมกันเลยครับ สเปคในเบื้องต้นของ Samsung Galaxy Note Edge

- ขนาดตัวเครื่อง 151.3 x 82.4 x 8.3 มิลลิเมตร
- น้ำหนักตัวเครื่องเพียง 174 กรัม
- หน้าจอขนาด 5.6 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1440 (+160) (QHD) แบบ Super AMOLED
- ชิป Snapdragon 805 แบบ Quad-Core ความเร็ว 2.7 GHz
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB
- กล้องดิจิตอลด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ Smart OIS และ Auto focus
- กล้องดิจิตอลด้านหน้า ความละเอียด 3.7 ล้านพิกเซล (f1.9)
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32/64 GB
- รองรับหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD สูงสุด 64 GB
- รองรับการเชื่อมต่อ 3G, 4G LTE, WiFi, Bluetooth, NFC, IR LED
- ระบบ GPS และ A-GPS ในตัว
- รองรับการใช้งาน สแกนลายนิ้วมือ
- แบตเตอรี่ขนาด 3,000 mAh พร้อมเทคโนโลยี Fast Charge
- ระบบปฏิบัติการ Android 4.4 (KitKat)

Samsung Galaxy Note Edge กับดีไซน์ที่เป็นเอกลัษณ์เฉพาะตัว

ในเรื่องของสเปคนั้นถือว่า Samsung Galaxy Note Edge นั้น มีสเปคแบบเดียวกันกับ Samsung Galaxy Note 4 แต่สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ จะมีจุดเด่นในเรื่องของหน้าจอด้านข้าง ที่โค้งลงไปรับกับตัวเครื่อง ซึ่งในส่วนของโค้งนั้น จะมีฟีเจอร์แยกออกมาจากหน้าจอหลัก ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการควบคุมการใช้งาน รวมถึง มีพื้นที่เพิ่มเติมสำหรับการแสดง Notification อีกด้วย ส่วนในเรื่องของวัสดุนั้น ขอบตัวเครื่องทำจากอลูมิเนียม เช่นเดียวกันกับ Samsung Galaxy Note 4 รวมถึงฝาหลังยังเป็นแบบ Faux Leather ด้วยเช่นเดียวกัน

หน้าจอด้านข้าง ของ Samsung Galaxy Note Edge ทำอะไรได้บ้าง

คุณสามารถเพิ่มไอค่อนลัด (Shortcut) ของแอปพลิเคชันต่างๆ ลงไปในหน้าจอด้านข้างได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันต่างๆ ได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น
 

นอกจากนี้ ขณะที่เครื่องไม่ได้ถูกใช้งาน ในส่วนของขอบตัวเครื่องก็จะสามารถแสดงผล วันที่ เวลา รวมไปถึง สถานะการแจ้งเตือนต่างๆ เช่นข้อความ หรือ อีเมล เป็นต้น
 

หรือหากเป็นแอปพลิเคชันกล้องถ่ายรูป ปุ่มชัตเตอร์ รวมถึงการตั้งค่าต่างๆ ก็จะถูกย้ายไปอยู่ในส่วนของหน้าจอด้านข้างเช่นเดียวกัน ช่วยให้คุณเห็นบรรยากาศรอบๆ ขณะถ่ายได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
 

นอกจากนี้ หากคุณเล่นไฟล์วีดีโอ ปุ่มควบคุมต่างๆ เช่น Play, Pause หรือการเลื่อนฉาก ก็จะถูกย้ายไปอยู่ด้านข้าง ไม่เกะกะอีกต่อไป

กล้องดิจิตอลที่มีประสิทธิภาพ บน Samsung Galaxy Note Edge

เช่นเดียวกันกับ Samsung Galaxy Note 4 สำหรับ Samsung Galaxy Note Edge นั้นมาพร้อมกับกล้องดิจิตอลด้านหลังความละเอียดสูง 16 ล้านพิกเซล พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวขณะถ่ายหรือ OIS ที่ถูกปรับปรุงให้ดีขึ้น รวมถึงให้ภาพที่มีสีสันสดใส และ สว่างขึ้นกว่าเดิมเช่นเดียวกัน
 

กล้องดิจิตอลด้านหน้านั้น ก็จะมาพร้อมกับความละเอียดระดับ 3.7 ล้านพิกเซล (f1.9) เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการถ่าย selfie นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ การถ่ายภาพแบบ 120 องศาด้วยกล้องหน้า เพื่อให้คุณถ่ายภาพ wefie ได้สนุกกว่าที่เคย

ปากกา S-Pen บน Samsung Galaxy Note Edge

สำหรับฟีเจอร์ของปากกา S Pen ของ Samsung Galaxy Note Edge นั้นจะเหมือนกันกับ Samsung Galaxy Note 4 ทุกประการ ซึ่งมีความแม่นยำมากกว่ารุ่นก่อนหน้า (Samsung Galaxy Note 3) ถึง เท่าตัวเลยทีเดียว ช่วยให้คุณรู้สึกเหมือนเขียนด้วยปากกาจริงๆ มากยิ่งขึ้น

ฟีเจอร์ Fast Charging บน Samsung Galaxy Note Edge

ฟีเจอร์ Fast Charging นั้นยังคงมีให้ได้ใช้งานกันบน Samsung Galaxy Note Edge เช่นเดียวกัน ซึ่งการชาร์จได้อย่างรวดเร็วนั้น ถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์มากสำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนที่มีเวลาจำกัด หรือต้องการชาร์จในช่วงเวลารีบเร่ง

ราคา และ วันวางจำหน่าย ของ Samsung Galaxy Note Edge

สำหรับข่าวคราวของวันที่วางจำหน่าย รวมไปถึงราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Samsung Galaxy Note Edge ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2558 ที่ผ่านมา ทาง ซัมซุง (ประเทศไทย) ก็ได้ประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Samsung Galaxy Note Edge ออกมาแล้ว

โดยจะวางจำหน่ายในราคา 28,900 บาท และเริ่มวางจำหน่ายเป็นครั้งแรกในงาน Thailand Mobile Expo 2015 ระหว่างวันที่ 12-15 กุมภาพันธ์ 2558 ที่กำลังจะถึงนี้ โดยจะเป็นรุ่นที่ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 805 ซึ่งหากใครสนใจ ก็เตรียมเก็บเงินรอไว้ล่วงหน้าได้
 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook