[รีวิว] Samsung Galaxy Note Edge นวัตกรรมของดีไซน์มือถือแบบใหม่
[รีวิว] Samsung Galaxy Note Edge นวัตกรรมของดีไซน์มือถือแบบใหม่ ด้วยหน้าจอแบบ Curved Edge วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ที่ราคา 28,900 บาท
วางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ Samsung Galaxy Note Edge สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงที่มีคุณสมบัติครบเครื่อง เช่นเดียวกับ Samsung Galaxy Note 4 แต่โดดเด่นมากขึ้นอีกขั้น
ด้วยหน้าจอแสดงผลแบบโค้งงอนั่นเอง ที่ถือว่า เป็นดีไซน์ที่แปลกใหม่ และไม่เหมือนใคร ซึ่งความพิเศษของ หน้าจอโค้งงอ บน Samsung Galaxy Note Edge นั้นก็คือเป็นหน้าจอสำหรับข้อความแจ้งเตือนต่างๆ
และมีฟังก์ชันการใช้งานแบบทางลัด (Shortcut) ให้เลือกใช้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น หน้าการใช้งานโทรศัพท์, ข้อความ, เบราว์เซอร์, เข้าสู่โหมดกล้องถ่ายรูป และอื่นๆ ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนได้ในภายหลัง นอกจากนี้ ตรงหน้าจอแสดงผลแบบโค้งงอ ยังประกอบไปด้วยเครื่องมือต่างๆ เช่น ไม้บรรทัด, นาฬิกาจับเวลา และเครื่องบันทึกเสียง ซึ่งผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องค้นหาในหน้าแอปพลิเคชันรวมให้เสียเวลาอีกต่อไป
สำหรับสเปคของ Samsung Galaxy Note Edge เรียกได้ว่า น่าสนใจไม่แพ้ มือถือเรือธง รุ่นอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผลกว้าง 5.6 นิ้ว แบบ Super AMOLED Curved Edge Screen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล (524 ppi)
หน่วยประมวลผลแบบ Quad-Core Processor (Qualcomm Snapdragon 805 chipset) ความเร็ว 2.7 GHz, หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB
กล้องด้านหน้า ความละเอียด 3.7 ล้านพิกเซล, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED และระบบป้องกันภาพสั่นแบบ Smart OIS นอกจากนี้ ยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Home, เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจที่ด้านหลังตัวเครื่อง
เทคโนโลยี Fast Charging ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการชาร์จแบตเตอรี่ ด้วยการชาร์จแบตเตอรี่จาก 0% ถึง 50% ได้ภายใน 30 นาที, โหมด Ultra Power Saving สำหรับการประหยัดพลังงาน, มีปากกา S Pen Stylus ในตัว และรัน Android 4.4.4 (KitKat) ซึ่งรองรับการอัพเดทเป็น Android 5.0 (Lollipop) ในอนาคตอีกด้วย
มาดูกันว่า Samsung Galaxy Note Edge รุ่นนี้ จะมีความน่าสนใจอย่างไรอีกบ้าง และขอบหน้าจอโค้งด้านข้าง มีประโยชน์อย่างไร กับบทความ รีวิว Samsung Galaxy Note Edge โดยทีมงาน techmoblog ครับ
สเปค Samsung Galaxy Note Edge
- จอแสดงผลกว้าง 5.6 นิ้ว แบบ Super AMOLED Curved Edge Screen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล (524 ppi) ส่วนขอบด้านข้าง ความละเอียดอยู่ที่ 160 พิกเซล ทำให้มีความละเอียดรวมอยู่ที่ 2560 x 1600 พิกเซล
- หน่วยประมวลผลแบบ Quad-Core Processor (Qualcomm Snapdragon 805 chipset) ความเร็ว 2.7 GHz
- หน่วยประมวลผลภาพกราฟิค Adreno 420 GPU
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB
- หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 32 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 128 GB
- กล้องด้านหน้า ความละเอียด ความละเอียด 3.7 ล้านพิกเซล
- กล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash และระบบป้องกันการสั่นแบบ Smart OIS
- แบตเตอรี่แบบ Li-ion 3000 mAh
- รัน Android 4.4.4 (KitKat)
- รองรับการใช้งานเครือข่าย 4G LTE
- มีปากกา S Pen Stylus ในตัว
รีวิว Samsung Galaxy Note Edge : ดีไซน์ และการออกแบบ
Samsung Galaxy Note Edge มาพร้อมกับหน้าจอกว้าง 5.6 นิ้ว แบบ Super AMOLED Curved Edge Screen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล (524 ppi) ส่วนขอบด้านข้าง ความละเอียดอยู่ที่ 160 พิกเซล ทำให้มีความละเอียดรวมอยู่ที่ 2560 x 1600 พิกเซล
ด้านบนของหน้าจอแสดงผล ประกอบด้วย ลำโพงสำหรับสนทนา, Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน, Ambient Light Sensor สำหรับตรวจวัดความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม และกล้องด้านหน้า ความละเอียด 3.7 ล้านพิกเซล
ด้านล่างของหน้าจอแสดงผล ประกอบด้วย ปุ่ม Recent Apps, ปุ่ม Home และปุ่มย้อนกลับ (Back)
สำหรับขอบขวาด้านข้างตัวเครื่อง นอกจากจะเป็นแหล่งรวมแอปพลิเคชันที่ใช้งานบ่อยแล้ว การปัดจากด้านบนลงล่าง จะเป็นเครื่องมือการใช้งานต่างๆ เช่น ไม้บรรทัด, นาฬิกาจับเวลา, นับถอยหลัง, ไฟฉาย และเครื่องบันทึกเสียง
ส่วนการปัดจากล่างขึ้นบน จะเป็นการเข้าสู่เมนูการตั้งค่า (Settings)
ด้านซ้ายของตัวเครื่อง เป็นปุ่มปรับระดับเสียง
ด้านบนของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร, อินฟราเรด, ไมโครโฟน และปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดตัวเครื่อง หรือล็อคหน้าจอแสดงผล ส่วนด้านล่างของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ไมโครโฟน 2 ตัว, พอร์ต microUSB และช่องสำหรับเก็บปากกา S Pen Stylus
Samsung Galaxy Note Edge มาพร้อมกับกล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นแบบ Smart OIS, ไฟแฟลชแบบ LED และเซ็นเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate Sensor) ส่วนด้านล่าง เป็นลำโพงเสียง
ฝาหลังของ Samsung Galaxy Note Edge สามารถถอดแกะได้ ด้านในประกอบด้วย แบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh, รองรับการใช้งานซิมการ์ดเดียวแบบ microSIM และรองรับ microSD Card สูงสุด 128 GB
รีวิว Samsung Galaxy Note Edge : อินเทอร์เฟส และการใช้งานเบื้องต้น
Samsung Galaxy Note Edge มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 4.4.4 (KitKat) ตั้งแต่แกะกล่อง โดยมีอินเทอร์เฟสที่คุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว
แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาก็คือ หน้าจอด้านข้าง ที่รวมแอปพลิเคชันที่ใช้งานบ่อย ไม่ว่าจะเป็น หน้าโทรศัพท์, รายชื่อผู้ติดต่อ, ข้อความ, เบราว์เซอร์, กล้องถ่ายรูป, Play Store และอื่นๆ โดยสามารถปรับเปลี่ยน แอปพลิเคชัน ได้ตามใจ ด้วยการแตะที่ไอคอนรูปดาว (ด้านบน)
โดยหน้าจอด้านข้าง นอกจากจะรวมแอปพลิเคชันที่ใช้งานบ่อยแล้ว ยังมีเครื่องมืออื่นๆ ให้ใช้งานกันอีก (ลากหน้าจอจากด้านบนลงล่าง) เช่น ไม้บรรทัด, นาฬิกาจับเวลา, นับถอยหลัง, ไฟฉาย และเครื่องบันทึกเสียง นอกจากนี้ ยังแจ้งเตือน สายที่ไม่ได้รับ, แสดงสภาพอากาศ และข้อความอื่นๆ ได้อีกด้วย
ตัวอย่างแถบเครื่องมือด้านข้าง : ไม้บรรทัด และนับถอยหลัง
ตัวอย่างแถบเครื่องมือด้านข้าง : นาฬิกาจับเวลา และเครื่องบันทึกเสียง
Notification Center แถบรวมการแจ้งเตือนต่างๆ ทั้งข้อความจาก SMS, อีเมล รวมไปถึงเมนูลัดในการตั้งค่าการใช้งาน เช่น เปิด-ปิด Wi-Fi, GPS, เสียง, การหมุนหน้าจอ, เปิด-ปิด Bluetooth รวมไปถึงการปรับความสว่างของหน้าจออีกด้วย
การแตะปุ่มย้อนกลับค้างไว้ จะเป็นการเปิดใช้งาน Multi-Window ซึ่งสามารถเปิดแอปพลิเคชันซ้อนกันได้ อย่างเช่น เปิดแอปฯ วีดีโอ พร้อมกับการเปิดอ่านเว็บไซต์ผ่านเบราว์เซอร์ เป็นต้น
การกดปุ่ม Recent Apps ค้างไว้ ผู้ใช้สามารถปรับแต่งรูปแบบการใช้งานได้ตามใจ เช่น เปลี่ยนวอลเปเปอร์, เพิ่ม Widget และอื่นๆ แต่การแตะปุ่ม Recent Apps 1 ครั้ง จะเข้าสู่เมนู Multitasking นั่นเอง สามารถสลับการใช้งานไปยัง แอปพลิเคชันอื่น ที่เปิดก่อนหน้านั้นได้ หรือลบแอปพลิเคชันที่ไม่ใช้งาน
การปัดหน้าจอจากด้านซ้ายไปด้านขวา จะเข้าสู่เมนูลัดของแอปพลิเคชัน Flipboard สำหรับอ่านบทความ หรือข่าวสารที่น่าสนใจในแต่ละวัน
สำหรับหน้ารวมแอปพลิเคชันทั้งหมดบน Samsung Galaxy Note Edge เครื่องนี้ จะเห็นได้ว่า ประกอบด้วย แอปพลิเคชันพื้นฐานให้ใช้งานกันครบถ้วนเลยทีเดียว แต่ถ้าหากยังไม่เพียงพอต่อการใช้งาน สามารถดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้ที่ Play Store
Samsung Galaxy Note Edge รองรับการใช้งานซิมการ์ดเดียวแบบ microSIM โดยมีอินเทอร์เฟสหน้าการใช้งานโทรศัพท์ที่ใช้งานได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก
Samsung Galaxy Note Edge มีเบราว์เซอร์ให้เลือกใช้งาน 2 แบบด้วยกัน นั่นก็คือ Android Browser และ Chrome แต่ถ้าหากยังไม่ถูกใจ สามารถดาวน์โหลดเบราว์เซอร์เพิ่มเติมได้ ที่ Play Store
Samsung Galaxy Note Edge นั้นมาพร้อมกับระบบ GPS และ A-GPS ในตัว สามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันประเภทการนำทางได้ทันที รวมถึงแอปพลิเคชัน ในเครื่องอย่าง Google Maps ด้วยเช่นเดียวกัน
สำหรับการดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน นอกจากจะมี Play Store แล้ว ยังมี GALAXY Apps ซึ่งเป็นแหล่งรวมแอปพลิเคชันที่ทาง ซัมซุง ได้คัดสรรมาให้ผู้ใช้ได้เลือกดาวน์โหลดกันนั่นเอง
ทดสอบการเล่นเกมบน Samsung Galaxy Note Edge กันบ้าง โดยรุ่นนี้ มาพร้อมกับ หน่วยประมวลผลแบบ Quad-Core Processor (Qualcomm Snapdragon 805 chipset) ความเร็ว 2.7 GHz, หน่วยประมวลผลภาพกราฟิค Adreno 420 GPU และ หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB แน่นอนว่า สามารถประมวลผลได้อย่างรวดเร็วมากเลยทีเดียว
ปิดท้ายด้วยผลการทดสอบ Benchmark บน Samsung Galaxy Note Edge กันบ้าง โดยผลการทดสอบด้วยโปรแกรม Quadrant วัดความเร็วในการทำงานของ CPU และกราฟฟิค อยู่ที่ 23799 คะแนน และ AnTuTu ทดสอบ CPU, 2D & 3D graphics, SD card และ Database อยู่ที่ 45549 คะแนน
ส่วนมัลติทัช รองรับที่ 10 จุด
รีวิว Samsung Galaxy Note Edge : ฟีเจอร์ที่น่าสนใจบนปากกา S Pen
สำหรับปากกา S Pen Stylus บน Samsung Galaxy Note Edge ไม่แตกต่างจากไปจากบน Samsung Galaxy Note 4 ครับ
เริ่มต้นกันด้วย Action Memo (บันทึกการดำเนินการ) เป็นฟีเจอร์ที่ผู้ใช้สามารถเขียนคำสั่งต่างๆ ด้วยลายมือของตัวเอง เช่น ถ้าหากเขียนเบอร์โทรศัพท์ลงไป ตัวเครื่องจะทราบว่า นั่นคือหมายเลขโทรศัพท์ ก็สามารถสั่งงานเพื่อโทรออกในเบอร์ดังกล่าว หรือบันทึกได้ในทันที
ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเขียนเบอร์โทรศัพท์ลงไป จะมีเมนูเล็กๆ ปรากฏขึ้นมา จะเลือกโทรออกก็ได้ บันทึกเบอร์โทรศัพท์ก็ได้ สะดวกมากเลยทีเดียว
Smart Select (การเลือกอัจฉริยะ) เป็นการ crop หน้าจอแล้วเก็บภาพไว้ โดยสามารถเลือกเก็บกี่ภาพก็ได้ ซึ่งฟีเจอร์นี้ มีประโยชน์ตรงที่เวลาเจอข้อมูลสำคัญๆ บนหน้าเว็บไซต์ ก็สามารถ crop เพื่อเก็บไว้ จะได้ไม่ต้องสลับหน้าไปมานั่นเอง
คลิปรูปภาพ คือการวาดรูปลงบนคอนเทนต์ที่น่าสนใจ แล้วบันทึกเก็บไว้ ซึ่งผู้ใช้สามารถร่างเป็นรูปอะไรก็ได้ หรือใช้เทมเพลตที่มีในตัวเครื่อง
และสุดท้าย Screen Write (เขียนบนหน้าจอ) จะเป็นเหมือนกับการ capture หน้าจอครับ แล้วสามารถเขียนข้อความ วาดรูป หรืออะไรก็ได้ ลงไปบนภาพๆ นั้น
รีวิว Samsung Galaxy Note Edge : ทดสอบกล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
Samsung Galaxy Note Edge มาพร้อมกับกล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมระบบกันภาพสั่นแบบ Smart OIS และไฟแฟลชแบบ LED โดยรุ่นนี้ จะมีความพิเศษกว่ารุ่นอื่นๆ ตรงที่ การควบคุมการใช้งานของกล้อง ไม่ว่าจะเป็น ปุ่มชัตเตอร์ หรือตั้งค่าการใช้งานต่างๆ จะอยู่ที่ส่วนโค้งของหน้าจอนั่นเอง
สำหรับโหมดการถ่ายภาพบน Samsung Galaxy Note Edge ประกอบไปด้วย โหมดอัตโนมัติ, เซลฟี่กล้องหลัง. โฟกัสที่เลือก, พาโนรามา นอกจากนี้ ยังสามารถดาวน์โหลดโหมดการถ่ายภาพอื่นๆ เพิ่มเติมได้
ส่วนการตั้งค่าการถ่ายภาพ ได้แก่ ตั้งค่าการรับแสง, ISO, สมดุลสีขาว, โหมดเครื่องวัด, สัมผัสเพื่อถ่ายภาพ, ขนาดของคลิปวีดีโอ, โหมดการบันทึก, ความเสถียรของวีดีโอ, แท็กสถานที่, เส้นตาราง, ควบคุมด้วยเสียง, ปุ่มระดับเสียง, ตรวจสอบรูปภาพ/วีดีโอ, แก้ไขการตั้งค่าด่วน และรีเซ็ตการตั้งค่า
ชมตัวอย่างภาพจากกล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล บน Samsung Galaxy Note Edge กันครับ
รีวิว Samsung Galaxy Note Edge : สรุปการใช้งาน
ด้วยราคาเปิดตัว Samsung Galaxy Note Edge ที่ค่อนข้างสูง อยู่ที่ 28,900 บาท ทำให้ต้องมาพิจารณากันอีกทีว่า Samsung Galaxy Note Edge นั้น แตกต่างจาก Samsung Galaxy Note 4 ในจุดใด
โดยถ้าหากเปรียบเทียบกันที่ สเปค จะเห็นได้ว่า ทั้ง 2 รุ่นนี้ ประมวลผลการทำงานได้ใกล้เคียงกัน แต่ถ้าหากพูดถึงเรื่อง ความสะดวกด้านการใช้งาน ดูเหมือนว่า Samsung Galaxy Note Edge น่าจะได้เปรียบอยู่สักหน่อย ตรงส่วนของ หน้าจอแสดงผลแบบโค้งงอ นั่นเอง
โดยเฉพาะ แอปพลิเคชันแบบ Shortcut ที่ช่วยทำให้ใช้งานได้สะดวกและรวดเร็วมากกว่าเดิม รวมไปถึงการแจ้งเตือนต่างๆ ที่ไปแสดงที่หน้าจอแสดงผลด้านข้างแล้ว ทำให้ไม่รบกวนการใช้งาน แอปพลิเคชัน ปกติ ยกตัวอย่างเช่น กำลังเล่นเกม ก็มีการแจ้งเตือนจาก Facebook เด้งเข้ามา แทนที่จะแจ้งเตือนบนหน้าจอหลัก ก็ไปแจ้งเตือนบนหน้าจอด้านข้างแทน เป็นต้น
Samsung Galaxy Note Edge มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาว และ สีดำ สามารถทดสอบใช้งานกันได้ ที่ Samsung Mobile Shop และตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านครับ
จุดเด่นของ Samsung Galaxy Note Edge
- จอแสดงผลกว้าง 5.6 นิ้ว แบบ Super AMOLED Curved Edge Screen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล (524 ppi) ส่วนขอบด้านข้าง ความละเอียดอยู่ที่ 160 พิกเซล ทำให้มีความละเอียดรวมอยู่ที่ 2560 x 1600 พิกเซล
- หน่วยประมวลผลแบบ Quad-Core Processor (Qualcomm Snapdragon 805 chipset) ความเร็ว 2.7 GHz
- หน่วยประมวลผลภาพกราฟิค Adreno 420 GPU
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB
- หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 32 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 128 GB
- กล้องด้านหน้า ความละเอียด ความละเอียด 3.7 ล้านพิกเซล
- กล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash และระบบป้องกันการสั่นแบบ Smart OIS
- แบตเตอรี่แบบ Li-ion 3000 mAh
- รัน Android 4.4.4 (KitKat) พร้อมรองรับการอัพเดทเป็น Android 5.0 (Lollipop) ในอนาคต
- รองรับการใช้งานเครือข่าย 4G LTE
- มีปากกา S Pen Stylus ในตัว
- มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner) ที่ปุ่ม Home
- มีเซ็นเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate Sensor) ที่ด้านหลังตัวเครื่อง
- เทคโนโลยี Fast Charging ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการชาร์จแบตเตอรี่ (Adaptive Fast Charging และ QC2.0) (ชาร์จแบตเตอรี่จาก 0% ถึง 50% ได้ภายใน 30 นาที)
- โหมด Ultra Power Saving สำหรับการประหยัดพลังงาน (ล็อคการใช้งานบางฟีเจอร์ที่ไม่จำเป็น และเปลี่ยนสีของหน้าจอเป็น ขาว-ดำ : แบตเตอรี่ 10% สามารถใช้งานต่อได้นานประมาณ 24 ชั่วโมง)
- ไมโครโฟน 3 ตัวในเครื่องเดียว ทำให้บันทึกเสียงได้คมชัดมากกว่าเดิม
- รองรับเทคโนโลยี NFC
จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม
- ราคาค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนที่มีสเปคใกล้เคียงกัน
-ไม่มีวิทยุ FM ในตัว
ข้อควรทราบ: "เครื่อง Samsung Galaxy Note Edge ที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้ เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทาง ซัมซุง เท่านั้น ยังไม่ใช่เครื่องที่วางจำหน่ายจริงแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นตัวเครื่อง หรือฟังก์ชันการทำงานบางอย่างอาจจะยังไม่สมบูรณ์ 100% เหมือนกับเครื่องที่วางจำหน่ายจริง"
Samsung Galaxy Note Edge เปิดตัวแล้ว! ฉีกกฎการออกแบบสมาร์ทโฟนรูปแบบใหม่ ด้วยหน้าจอโค้ง พร้อมคุณสมบัติในการแสดงผลได้
นอกจากในงาน Samsung UNPACKED 2014 Episode 2 จะเปิดตัว Samsung Galaxy Note 4 แล้ว ยังได้มีการเปิดตัว สมาร์ทโฟน อีกรุ่น ซึ่งอยู่ในตระกูล Galaxy Note เช่นกัน
ที่มีชื่อว่า Samsung Galaxy Note Edge ที่เรียกได้ว่า สร้างความฮือฮาให้กับวงการสมาร์ทโฟนเป็นอย่างมาก จริงอยู่ที่ ซัมซุง เอง เคยเผยโฉม สมาร์ทโฟนดีไซน์แบบนี้ไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่ก็เงียบหายไป และล่าสุด ก็ได้เปิดตัวออกมา เป็น Samsung Galaxy Note Edge รุ่นนี้นั่นเอง
สำหรับจุดเด่นของ Samsung Galaxy Note Edge รุ่นนี้ ก็คือ ขอบจอด้านข้างที่มีลักษณะโค้งงอ ซึ่งเป็นส่วนไว้สำหรับแสดงผลนั่นเอง
โดยหน้าจอส่วนนี้ มีชื่อว่า Bent Display ครับ ซึ่งหน้าจอตรงนี้ สามารถแสดงผลได้ตลอดเวลา แม้ว่าหน้าจอหลักจะดับอยู่ ทำให้ไม่พลาดการแจ้งเตือนสำคัญๆ สำหรับสเปคโดยรวมของ Samsung Galaxy Note Edge เป็นดังนี้
สเปค Samsung Galaxy Note Edge
- หน้าจอขนาด 5.6 นิ้ว แบบ Super AMOLED Display ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล (QHD) ส่วนหน้าจอด้านข้าง ความละเอียด 160 พิกเซล ทำให้ Samsung Galaxy Note Edge มีหน้าจอความละเอียดรวมอยู่ที่ 2560 x 1600 พิกเซล
- หน่วยประมวลผลแบบ Quad-Core Processor ความเร็ว 2.7 GHz
- RAM 3 GB
- หน่วยความจำภายในตัวเครื่องขนาด 32 GB หรือ 64 GB รองรับ microSD card สูงสุด 64 GB
- กล้องด้านหน้า ความละเอียด 3.7 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.9
- กล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมระบบกันภาพสั่นไหว (Smart OIS)
- แบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh
- รัน Android 4.4 (KitKat)
สำหรับลูกเล่นของหน้าจอด้านข้างตัวเครื่อง หรือ Bent Display นั้น จะมีส่วนแสดงผลที่เรียกว่า Quick Glance Info เมื่อใดก็ตามที่หน้าจอหลักถูกเปิดใช้งาน หน้าจอด้านข้างนี้ จะมีฟีเจอร์ต่างๆ ปรากฏขึ้นมากมาย เช่น เวลา, ไฟฉาย, เบราว์เซอร์, กล้อง, ปฏิทิน และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ ยังสามารถใช้งานแบบ Multitasking ด้วยการสลับหน้าจอไปมาได้ ไม่เพียงเท่านั้น Samsung Galaxy Note Edge ยังมีปากกา S Pen ในตัว แบบเดียวกับ Samsung Galaxy Note 4 อีกด้วย
Samsung Galaxy Note Edge มีให้เลือกแค่ 2 สี ได้แก่ สีดำ (Charcoal Black) และ สีขาว (Frost White) วางจำหน่ายในบางประเทศเท่านั้น ซึ่งซัมซุงยังไม่ระบุว่า จะวางจำหน่ายที่ประเทศใด และราคาเท่าไหร่ครับ
ข้อมูลโดย : techmoblog.com