รีวิว (Review) vivo X5 Max สมาร์ทโฟน 4G บนดีไซน์ตัวเครื่องระดับพรีเมียม
สมาร์ทโฟน 4G บนดีไซน์ตัวเครื่องระดับพรีเมียม ที่บางเฉียบกว่าใครเพียง 5.08 มิลลิเมตร พร้อมจอ Full HD Super AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว, ชิปเซ็ต Octa-Core 64-bit Snapdragon 615, กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล และชิปประมวลผลเสียง DAC ES9018 กับระบบเสียง Hi-Fi 2.0 สุดล้ำ
ในปีที่ผ่านมา จนถึงเวลานี้ สมาร์ทโฟนแบรนด์น้องใหม่มาแรงอย่าง vivo ก็ เริ่มเป็นที่รู้จัก และได้รับการยอมรับในวงกว้างมากขึ้น เนื่องจากสมาร์ทโฟนแต่ละรุ่นที่เปิดตัว และนำออกมาวางจำหน่ายนั้นถือว่ามีจุดขายที่น่าสนใจ และมีราคาที่เหมาะสม โดยในวันนี้ทางทีมงานไทยโมบายเซ็นเตอร์ จะมาแนะนำสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ ล่าสุดจากวีโว นั่นก็คือ vivo X5 Max ซึ่งได้เปิดตัว และวางจำหน่ายเป็นครั้งแรกภายในงาน Thailand Mobile Expo 2015 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในราคา 15,990 บาท โดยวัสดุตัวเครื่องของ vivo X5 Max นั้นผลิตจากโลหะแมกนีเซียมอัลลอย และสแตนเลส ซึ่งใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Nano-Injection Molding และ Laser Welding โดยมีความบางเฉียบเป็นเพิเศษเพียงแค่ 5.08 มิลลิเมตร เท่านั้น
ส่วนคุณสมบัติอื่นๆ ที่น่าสนใจของ vivo X5 Max ก็เริ่มตั้งแต่จอแสดงผลแบบ Super AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD (1920x1080 Pixels), หน่วยประมวลผล Octa-Core 64-bit Qualcomm MSM8939 (Snapdragon 615), ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS เวอร์ชัน 2.0 ซึ่งมีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 4.4.4 (KitKat), หน่วยความจำภายในขนาด 16 GB, หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB, กล้องดิจิตอลด้านหลังความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล, กล้องดิจิตอลด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รวมไปถึงยังสามารถรองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบเครือข่ายแบบ 4G LTE ได้อีกด้วย ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป้นการเสียเวลาเราลองไปชมรูปลักษณ์สวยๆ งามๆ และฟีเจอร์ต่างๆ ที่น่าสนใจของ vivo X5 Max กันเลยดีกว่าครับ
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์
ตัวเครื่อง vivo X5 Max มี การออกแบบดีไซน์ที่สวยหรูบางเฉียบ และใช้วัสดุคุณภาพสูง โดยมีน้ำหนักอยู่ที่ 156 กรัม ส่วนความกว้างจะอยู่ที่ 78 มิลลิเมตร, ความสูงจะอยู่ที่ 153.9 มิลลิเมตร และความบางอยู่ที่ 5.08 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนอีกรุ่นที่บางเฉียบในระดับต้นๆ ณ ปัจจุบัน รวมไปถึงจอแสดงผลจะเป็นแบบ Super AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว ซึ่งมีความละเอียดระดับ Full HD (1920x1080 พิกเซล)
ด้านหน้าส่วนบนนั้น จะประกอบไปด้วย เลนส์กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ซึ่งพร้อมรองรับการถ่ายภาพเซลฟี่ หรือใช้งาน Video Call ได้เป็นอย่างดี ถัดมาคือลำโพงหูฟังสำหรับการสนทนา และเซ็นเซอร์ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา และระบบ Accelerometer Sensor ที่ช่วยหมุน หรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้
ด้านหน้าส่วนล่างประกอบไปด้วย ปุ่มควบคุมการทำงานแบบสัมผัส ซึ่งจะมีปุ่มฟังก์ชัน, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ
ส่วนบอดี้ขอบด้าน ข้างรอบๆ ของตัวเครื่องนั้นทำมาจากวัสดุแบบโลหะ โดยด้านข้างส่วนบนนั้นจะประกอบด้วย ช่องสำหรับเชื่อมต่อชุดหูฟังมาตรฐาน ขนาด 3.5 มิลลิเมตร
ด้านข้างส่วนล่าง นั้นจะประกอบด้วยช่องแบบ microUSB สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ หรือเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ และไมโครโฟนสำหรับการสนทนา หรือบันทึกเสียง
ด้านข้างฝั่งขวาส่วนบนนั้น จะประกอบไปด้วย ปุ่ม เพิ่ม-ลด ระดับเสียง ถัดมาก็จะเป็นปุ่มสำหรับ เปิด-ปิด เครื่อง หรือ ล็อคหน้าจอ
ด้านข้างฝั่งขวา ส่วนล่างนั้น จะมีถาดสำหรับใส่ซิมการ์ดที่ 1 แบบ microSIM และซิมการ์ดที่ 2 แบบ nanoSIM พร้อมทั้งยังสามารถใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD Card ได้อีกด้วย โดยรองรับได้สูงสุดขนาด 128 GB ซึ่งผู้ใช้งานต้องเลือกใช้งานซิมการ์ดที่ 2 แบบ nanoSIM หรือ การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD Card อย่างใด อย่างหนึ่ง และฝาที่ปิดถาดซิมการ์ดนั้นสามารถเปิดได้ไม่ยาก เพียงแค่ใช้ SIM Door Key ที่แถมมาให้ในกล่อง ซึ่งสามารถเปิดได้โดยจิ้มเข้าไปในช่อง และถาดซิมการ์ดนั้นจะดันตัวออกมา
ส่วนด้านข้างฝั่งซ้ายนั้น จะเป็นพื้นผิวเรียบๆ ไม่มีช่องเชื่อมต่อ หรือปุ่มกดใดๆ
วัสดุด้านหลังตัว เครื่องของ vivo X5 Max นั้นจะเป็นแบบโลหะสแตนเลส (สแตนเลสออสเทนนิติค) พร้อมสารเคลือบซึ่งมีคุณสมบัติในการป้องกันรอยนิ้วมือ โดย vivo X5 Max นั้นไม่สามารถเปิดฝาหลังออกได้ ส่วนแบตเตอรี่จะมีความจุอยู่ที่เพียง 2,300 mAh ซึ่งถือว่าไม่มากเท่าที่ควร หากเทียบกับขนาดของหน้าจอที่ค่อนข้างใหญ่ และฟีเจอร์การใช้งานโดยรวมที่ค่อนข้างหลากหลาย
ด้านหลังส่วนบนนั้น จะประกอบไปด้วยกล้องดิจิตอล ความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายภาพได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4128x3096 Pixels ถัดมาจะเป็นไฟแฟลชแบบ LED และไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวน
ด้านหลังส่วนล่างนั้น จะมีลำโพงเสียงภายนอกขนาดใหญ่ ที่ให้เสียงดังฟังชัดเลยทีเดียว
และอุปกรณ์เพิ่ม เติมที่ให้มาด้วยนั้น จะประกอบไปด้วย สายหูฟัง vivo รุ่น XE600i พร้อมหัวต่อมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร และรองรับระบบเสียงแบบ Hi-Fi 2.0 ได้เต็มประสิทธิภาพ, อะแดปเตอร์สำหรับชาร์จแบตเตอรี่, สาย microUSB สำหรับเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์, SIM Door Key, คู่มือการใช้งาน และเคสสำหรับปกป้องตัวเครื่อง
เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ
vivo X5 Max มาพร้อมหน่วยประมวลผลแบบ Octa-Core 64-bit Qualcomm MSM8939 Snapdragon 615 (ซีพียู Quad-Core Cortex-A53 ความเร็ว 1.5 GHz + ซีพียู Quad-Core Cortex-A53 ความเร็ว 1.0 GHz) และหน่วยประมวลผล าพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Adreno 405 รวมไปถึงหน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB
ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Funtouch OS เวอร์ชัน 2.0 โดยมีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 4.4.4 (KitKat)
ส่วนพื้นที่เก็บบันทึกข้อมูลภายในขนาด 16 GB จะเหลือให้ใช้งานได้จริงประมาณ 9.27 GB โดย vivo X5 Max นั้นสามารถรองรับการใส่การ์ดหน่วยความจำเสริมเพิ่มเติมแบบ microSD Card ได้สูงสุดขนาด 128 GB
เมื่อกดค้างที่ปุ่ม เปิด-ปิด เครื่อง ก็จะมีโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูง, โหมดเปิดระบบสั่น, โหมดใช้งานบนเครื่องบิน หรือ โหมดออฟไลน์, โหมดรีสตาร์ท และโหมดปิดเครื่อง
สำหรับ User Interface ในหน้า Lock Screen และ Home Screen ของ vivo X5 Max นั้นถูกออกแบบมาได้สวยงามน่าใช้ และดูเรียบง่ายไม่ซับซ้อน เมื่อผู้ใช้งานปัดหน้าจอขึ้นไปด้านบนก็จะเข้าสู่ หน้า Home Screen โดย vivo X5 Max จะไม่มีหน้า App Drawer โดยแอปพลิเคชัน เริ่มต้นทั้งหมดจะถูกติดตั้งมาให้ในหน้า Home Screen
โดยจะมีแอปพลิเคชันติดตั้งมาให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันพื้นฐานจาก Google และแอปพลิเคชัน เบ็ดเตล็ด ต่างๆ อย่างเช่น แอปพลิเคชันเครื่องคิดเลข, โน๊ต และเครื่องบันทึกเสียง ก็ติดตั้งมาให้ด้วยเช่นกัน
เมื่อกดปุ่มเมนู เพิ่มเติม ผู้ใช้งานก็สามารถการตกแต่ง เพิ่มสไตล์, วิดเจ็ต, ธีม, วอลเปเปอร์ ในหน้า Home Screen ได้ด้วยตัวเอง และหากจะซ่อนไอคอนที่ไม่ต้องการให้โชว์ในหน้า Home Screen ก็สามารถทำได้
เมื่อปัดขอบหน้าจอ จากด้านล่างขึ้นมาก็จะเข้าสู่โหมด Recent Apps ซึ่งจะแสดงประวัติแอปพลิเคชันทั้งหมดที่เคยใช้งานล่าสุด และสามารถแตะที่ไอคอนแอปพลิเคชันนั้น เพื่อสลับการทำงานของแอปพลิเคชันในปัจจุบัน รวมไปถึงการปัดขึ้นเพื่อปิดการทำงานของแอปพลิเคชันนั้นๆ และยังสามารถ เปิด-ปิด ฟังก์ชันลัดได้ ไม่ว่าจะเป็น WiFi, การเชื่อมต่อข้อมูลเครือข่าย และการปรับแสงหน้าจอ รวมไปถึงโหมดที่น่าสนใจ อย่างเร่งความเร็วของเครื่อง และยังมีฟังก์ชันลัดอีกมากมาย เพียงผู้ใช้งานปัดโหมด Recent Apps ไปทางซ้ายมือ
Notification Bar ที่อยู่ด้านบนนั้นจะมีการแจ้งเตือนสถานะต่างๆ พร้อมทั้งยังสามารถบล็อคการแจ้งเตือนของแอปพลิเคชันที่ไม่พึงประสงค์ได้อีก ด้วย
vivo X5 Max นั้นสามารถเปลี่ยน ธีม ได้หลายรูปแบบ โดยสามารถเลือกเปลี่ยนได้จากแอปพลิเคชัน iTheme ซึ่งจะมีให้เลือกใช้งานทั้งแบบออนไลน์ และออฟไลน์
ในส่วนของฟังก์ชัน โทรศัพท์ มีการออกแบบให้ใช้งานง่าย และสามารถ เลือกเก็บบันทึกเบอร์ผู้ติดต่อใหม่ได้ตามที่ต้องการ พร้อมทั้งยังสามารถค้นหารายชื่อผู้ติดต่อแบบอัจฉริยะได้ โดยพิมพ์ตัวอักษรแรกพินอิน หรือ หมายเลขโทรศัพท์ เพื่อค้นหาแบบรวดเร็ว
มาต่อด้วยคีย์บอร์ด ที่มีความสามารถหลากหลายไม่ว่าจะเป็น การพิมพ์แบบ Swype Keyboard, การพิมพ์ด้วยเสียง พร้อมทั้งสามารถตั้งค่าใช้งานการแก้ไขคำผิด และ การคาดเดาคำศัพท์ ก็สามารถทำได้
และยังสามารถเข้า ใช้งานฟังก์ชัน Google Now ได้ โดยเข้าใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน Google รวมไปถึงการค้นหาข้อมูล หรือ ค้นหาไฟล์ด้วยเสียง ก็สามารถทำได้เช่นกัน
vivo X5 Max นั้นยังรองรับการใช้งาน Email ได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Gmail, Outlook, Hotmail และ Yahoo รวมไปถึงการใช้งาน POP3 เป็นต้น
vivo X5 Max มาพร้อมกับโปรแกรมเรียกดูไฟล์ ซึ่งสามารถเรียกดูไฟล์ และข้อมูลแบบแยกประเภทได้อีกด้วย
แอปพลิเคชัน vivo Cloud มีความสามารถในการ Backup และ Restore ข้อมูลผ่านระบบ Cloud ได้ทั้งรายชื่อ, ข้อความ และบุ๊คมาร์ค
ส่วนการใช้งาน เว็บเบราว์เซอร์ นั้นถือว่ามีความรวดเร็วราบรื่น และไม่สะดุดเลยทีเดียว ไม่ว่าจะป็นเบราว์เซอร์ Android หรือ เบราว์เซอร์Chrome
ส่วนการใช้งานด้าน ฟังเพลงนั้นก็นับว่าโดดเด่นเป็นพิเศษ โดย vivo X5 Max จะมีแอปพลิเคชันการฟังเพลง พร้อมระบบเสียงแบบ Hi-Fi 2.0 มาให้ในเครื่อง (ชิปประมวลผลเสียงโดยเฉพาะแบบ DAC ES9018) โดยสามารถดูรายการเพลงทั้งหมด, ชื่อศิลปิน, อัลบั้ม, และรายการเพลงที่เล่นบ่อย รวมไปถึงการรองรับไฟล์เพลงมาตรฐานแบบ MP3, AAC, AAC+, AMR, MIDI, WAV และ WMA เป็นต้น
และยังมีมีแอปพลิเคชัน Youtube สำหรับการเข้าชมคลิปวีดีโอต่างๆ แบบออนไลน์ ติดตั้งมาให้ใช้งานด้วยเช่นกัน
สำหรับแอปพลิเคชัน สำหรับการชมภาพยนตร์ ด้วยสเปคระดับนี้ แน่นอนว่าสามารถเปิดไฟล์วีดีโอความละเอียดสูงระดับ 1920x1080 Pixels (Full HD 1080p) ได้อย่างราบรื่นไร้อาการกระตุก
พร้อมทั้งยังมีฟังก์ชันซูมหน้าจอ, คำอธิบายภาพ และสามารถตั้งภาพหน้าจอ
และยังสามารถใช้งานฟังก์ชัน Pop Up Play ได้อีกด้วย
ด้านความสามารถใน การเล่นเกม ก็ถือว่าดีเยี่ยมเลยทีเดียว โดย vivo X5 Max มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลกราฟฟิค แบบ Adreno 405 ซึ่งสามารถรองรับกับการเล่นเกมส์ที่ใช้กราฟิกในระดับสูงๆ ได้เป็นอย่างดี
แอปพลิเคชัน และฟังก์ชันอื่นๆ ที่น่าสนใจบน vivo Xshot
vivo X5 Max นั้นมีโหมดการใช้งานอัจฉริยะมาให้ใช้งานหลายอย่าง ประกอบไปด้วยโหมด Smart Wake, ใช้งานโดยไม่สัมผัส, หน้าจอสว่างอัจฉริยะ, การโทรอัจฉริยะ, เขย่าเพื่อเปิดไฟฉาย, ซูมโดยการเอียงโทรศัพท์ และการเตือนอัจฉริยะ
ซึ่งโหมด Smart wake จะแบ่งเป็นโหมดย่อยๆ ดังนี้คือ การเช็คดูภาพพักหน้าจอ, เลื่อนขึ้นเพื่อปลดล็อค, เลื่อนลงเพื่อถ่ายรูป, วาด 'c' เพื่อเข้าสู่หน้าการโทร, วาด 'm' เพื่อเข้าสู่การฟังเพลง, วาดเส้นเปลี่ยนเพลง, วาด 'e' เพื่อเข้าสู่เว็บเบราว์เซอร์, วาด 'w' เพื่อเข้าสู่วีแชท, วาดตัวอัการ "f" เพื่อเปิดใช้งาน Facebook และวาด "@" เพื่อเปิดใช้งานอีเมล
และอีกหนึ่งโหมดที่น่าสนใจอย่าง โหมดการใช้งานมัลติทาสก์ ก็มีมาให้ใช้งานเช่นกัน
i Manager เป็นแอปพลิเคชันที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของสมาร์ทโฟน โดยจะมีโหมดล้างข้อมูล, เช็คการใช้ข้อมูล, จัดการแอปพลิเคชัน, จัดการแบตเตอรี่, ปิดกั้นข้อมูล และพื่นที่สำหรับเก็บไฟล์ส่วนตัว
และแน่นอนว่าผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพิ่มเติมได้ที่ Google Play Store
ทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานด้วยโปรแกรมทดสอบต่างๆ
vivo X5 Max นั้นรองรับการสัมผัสพร้อมกันได้สูงสุด 10 จุด
เมื่อทดสอบ ประสิทธิภาพการใช้งานด้าน GPS ในพื้นที่เปิดโล่ง ด้วยแอพพลิเคชั่น AndroiTS GPS Test จะเห็นว่าสามารถรับสัญญาณจากดาวเทียมได้โดยประมาณ 26 ดวง ล็อคสัญญาณได้ 11 ดวง และระดับความแรงของสัญญาณ อยู่ในช่วงประมาณ 1-208 ส่วนระดับความแม่นยำโดยประมาณอยู่ที่ 10 เมตร
และเมื่อทดสอบอีก ครั้งบนพื้นที่เปิดโล่งด้วยแอปพลิเคชัน GPS Test ซึ่งรับสัญญาณจากดาวเทียมได้โดยประมาณ 24 ดวง ล็อคสัญญาณได้โดยประมาณ 14 ดวง และระดับความแรงของสัญญาณอยู่ในช่วงประมาณ 22-39 ส่วนระดับความแม่นยำโดยประมาณอยู่ที่ 0 ฟุต อย่างไรก็ดี ผลการทดสอบการรับสัญญาณดาวเทียมในแต่ละช่วงเวลาก็จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมขณะทดสอบ เช่นท้องฟ้าเปิดโล่งมากน้อยขนาดไหน หรือมีอาคารสถานที่มาบดบังสัญญาณมากน้อยเพียงใด
ในตัวเครื่อง vivo X5 Max นั้นสามารถใช้งานระบบ GPS และ A-GPS ร่วมกับ แอปพลิเคชัน Google Maps และแอปพลิเคชันนำทางต่างๆ ได้
เมื่อทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานด้วยโปรแกรม Antutu Benchmark ผลคะแนนจะออกมาอยู่ที่ 29737 คะแนน
เมื่อทดสอบ ประสิทธิภาพการใช้งานด้วยโปรแกรม Vellamo ผลคะแนนในส่วนของ Android Browser จะออกมาอยู่ที่ 2053 คะแนน ส่วนผลคะแนนของ Multicore จะออกมาอยู่ที่ 1221 คะแนน และส่วนผลคะแนนของ Metal จะออกมาอยู่ที่ 961 คะแนน
เมื่อทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานด้วยโปรแกรม Quadrant Standard ผลคะแนนจะออกมาอยู่ที่ 17260 คะแนน
เมื่อทดสอบ ประสิทธิภาพการใช้งานด้วยโปรแกรม AndBench ผลคะแนน Native จะออกมาอยู่ที่ 13173 คะแนน และผลคะแนน Java จะออกมาอยู่ที่ 299 คะแนน
กล้องดิจิตอล การถ่ายภาพนิ่ง และภาพวีดีโอ
สำหรับกล้องดิจิตอล ด้านหลังบน vivo X5 Max นั้นมีความละเอียดสูงสุดถึง 13 ล้านพิกเซล พร้อมเซ็นเซอร์รับภาพแบบ Sony IMX214 และมีขนาดของรูรับแสง (Aperture) กว้างสูงสุดที่ F/2.0 โดยสามารถสลับเปลี่ยนเป็นกล้องดิจิตอลด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดสูงสุดถึง 5 ล้านพิกเซล ได้ด้วยการกดที่ไอคอนรูปกล้องด้านซ้าย และสามารถ เปิด-ปิด ไฟแฟลชได้ตามที่ต้องการ
รวมไปถึงตั้งค่าการใช้งานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โหมดใบหน้าสวย, โหมดการถ่ายภาพแบบ HDR, โหมดเด็ก, โหมดกลางคืน, โหมดพาโนรามา, โหมดเบลอ และโหมดแก้ไขเอกสาร
สามารถใส่ลายน้ำบน รูปภาพขณะถ่ายภาพได้ โดยในส่วนของการตั้งค่าด้านซ้ายนั้น ยังสามารถปรับแต่งความละเอียดของภาพถ่ายได้หลายระดับ รวมไปถึงขนาดวีดีโอ, ตั้งเวลาถ่ายภาพ และแตะหน้าจอเพื่อถ่ายภาพก็ทำได้อีกด้วย
รวมไปถึงตั้งค่า กล้องถ่ายภาพแบบ Pro ก็สามารถทำได้ โดยเลื่อนรูปกล้องที่อยู่ทางด้านขวามือมาทางซ้ายมือ แค่นี้ก็จะเปลี่ยนโหมดมาใช้ กล้องถ่ายภาพแบบ Pro กันเลยทีเดียว โดยจะสามารถปรับแต่งค่าต่างๆ ได้ด้วยตนเอง ทั้งระยะโฟกัส, ค่าสมดุลสีขาว, ความเร็วชัตเตอร์, ค่า ISO และค่าชดเชยแสง
โหมดถ่ายภาพแบบ Golden Spiral ที่เป็นองค์ประกอบสัดส่วนของการถ่ายภาพแบบมือโปรเลย โดยจะมีให้เลือกหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเกลียว LU, เกลียว RU, เกลียว RB และ เกลียว LB เป็นต้น
มีโหมดเส้นตรงเพื่อช่วยในการถ่ายภาพไม่ให้เอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิตอลด้านหลังของตัวเครื่องความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล ของ vivo X5 Max
โหมดถ่ายภาพแบบปกติ
เปรียบเทียบภาพถ่ายที่ถ่ายด้วยโหมดปกติ กับภาพถ่ายที่ถ่ายด้วยโหมด HDR
โหมดถ่ายภาพกลางคืน
โหมดถ่ายภาพเบลอ
สรุปผลการทดสอบของ vivo X5 Max
สำหรับ vivo X5 Max เป็น สมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นที่มีจุดเด่นในเรื่องความสวยงามหรูหราของบอดี้ตัว เครื่อง ซึ่งผลิตจากโลหะแมกนีเซียมอัลลอย และสแตนเลส พร้อมเทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ Nano-Injection Molding และ Laser Welding ซึ่งสามารถระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงความบางเฉียบสุดๆ เพียง 5.08 มิลลิเมตร ซึ่งทำให้การพกพานั้นสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ส่วนคุณสมบัติเด่นๆ ในด้านอื่นๆ ก็นับว่าอยู่ในระดับไฮเอนด์ ไม่ว่าจะเป็นกล้องดิจิตอลที่ด้านหลังของตัวเครื่องที่มีความละเอียดถึง 13 ล้านพิกเซล พร้อมเซ็นเซอร์รับภาพแบบ Sony IMX214 และมีขนาดของรูรับแสงที่กว้างถึงระดับ F/2.0 จึงทำสามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงโหมดกล้อง Pro ที่ทำให้เราสร้างสรรค์การถ่ายภาพในหลายๆ รูปแบบได้อย่างอิสระ ส่วนกล้องด้านหน้าก็มีความละเอียดถึง 5 ล้านพิกเซล ซึ่งเหมาะกับการถ่ายภาพเซลฟี่เป็นอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ vivo X5 Max ยังมาพร้อมกับจอแสดงผลแบบ Super AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว ซึ่งมีความละเอียดสูงระดับ Full HD 1080p, หน่วยประมวลผล Octa-Core 64-bit Qualcomm MSM8939 Snapdragon 615 (ซีพียู Quad-Core Cortex-A53 ความเร็ว 1.5 GHz + ซีพียู Quad-Core Cortex-A53 ความเร็ว 1.0 GHz), ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 2.0 (Android 4.4.4 KitKat), หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB, หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB และรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card ได้สูงสุดขนาด 128 GB โดยใช้งานร่วมกับช่องใส่ซิมการ์ดที่สอง ส่วนในด้านมัลติมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นการชมภาพยนตร์ หรือคลิปวีดีโอ ก็สามารถใช้งานได้ดีหายห่วง ซึ่งในการชมภาพยนตร์ ความละเอียดระดับ Full HD ผ่านแอปพลิเคชันภาพยนตร์ และแอปพลิเคชัน Youtube ในแต่ละครั้งนั้น ไม่มีอาการกระตุก หรือสะดุดเลยก็ว่าได้
ส่วนด้านการเล่นเกมนั้นถือว่าดีเยี่ยมเลยทีเดียว ซึ่ง vivo X5 Max นั้น มาพร้อมหน่วยประมวลผลกราฟฟิค Adreno 405 ที่รองรับการเล่นเกมส์ที่มีกราฟิก ระดับสูงได้เป็นอย่างดี และระบบเสียงก็นับว่าโดดเด่นเป็นพิเศษ ด้วยระบบเสียงแบบ Hi-Fi 2.0 ที่ช่วยเพิ่มคุณภาพของเสียง หรือ มิติของเสียงในการดูหนัง และฟังเพลงให้ดีขึ้นไปอีกขึ้น โดยจะมีชิปประมวลผลเสียงโดยเฉพาะแบบ DAC ES9018 ติดตั้งมาให้อีกด้วย พร้อมทั้งสามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านทางระบบเครือข่ายแบบ 4G LTE และรองรับ 3G ทุกเครือข่าย
โดยสรุปแล้ว สำหรับ vivo X5 Max รุ่น นี้ถือเป็นสมาร์ทโฟนดีไซน์พรีเมียมสุดบางเฉียบ ที่มาพร้อมคุณสมบัติระดับไฮเอนด์ ซึ่งสามารถตอบโจทย์กับการใช้งานทุกรูปแบบได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ตั้งแต่การใช้งานระดับพื้นฐาน ไปจนถึงการใช้งานระดับสูง ในราคาค่าตัวที่พอจับต้องได้ไม่ยากนัก (15,990 บาท) เรียก ได้ว่าใครที่มีงบหมื่นกลางๆ และต้องการสมาร์ทโฟนดีๆ สักเครื่อง vivo X5 Max ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม และสุดท้ายนี้ทางทีมงานไทยโมบาย เซ็นเตอร์ ต้องขอขอบคุณทาง vivo ประเทศไทย ที่ส่งเครื่อง vivo X5 Max มาให้ทางทีมงานทำการทดสอบรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน ไว้พบกันได้ใหม่โอกาสหน้า สวัสดีครับ
จุดเด่นของ vivo X5 Max
- บอดี้ตัวเครื่องผลิตจากโลหะแมกนีเซียมอัลลอย และสแตนเลส พร้อมเทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ Nano-Injection Molding และ Laser Welding
- ตัวเครื่องมีความบางเฉียบเป็นพิเศษ เพียง 5.08 มิลลิเมตร
- พื้นผิวที่ด้านหลังของตัวเครื่องมีคุณสมบัติในการป้องกันรอยนิ้วมือ
- รองรับการใช้งานระบบเครือข่ายแบบ 4G LTE
- จอแสดงผลแบบ Super AMOLED Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 Pixels (Full HD 1080p : กว้าง 5.5 นิ้ว : 401 ppi) พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิคโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Adreno 405
- ประมวลผลการทำงานด้วย Octa-Core 64-bit Qualcomm MSM8939 Snapdragon 615 (ซีพียู Quad-Core Cortex-A53 ความเร็ว 1.5 GHz + ซีพียู Quad-Core Cortex-A53 ความเร็ว 1.0 GHz)
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Funtouch OS เวอร์ชัน 2.0 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 4.4.4 KitKat)
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB
- รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 128 GB โดยใช้งานร่วมกับช่องใส่ซิมการ์ดที่สอง
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ WiFi, LTE, HSPA, EDGE และ GPRS
- รองรับการใช้งานเครือข่าย 3G ทุกคลื่นความถี่ในประเทศไทย
- ระบบ GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง) พร้อมฟังก์ชัน A-GPS
- ชิปประมวลผลเสียงโดยเฉพาะแบบ DAC ES9018 พร้อมระบบเสียงแบบ Hi-Fi 2.0
- กล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้าน Pixels, พร้อมเซ็นเซอร์รับภาพแบบ Sony IMX214, ไฟแฟลชในตัว (LED Flash), ขนาดของรูรับแสง (Aperture) กว้างสูงสุดที่ F/2.0, ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ
- รองรับการถ่ายภาพวีดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080p (1920x1080 Pixels : 30 fps)
- กล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels พร้อมขนาดของรูรับแสง (Aperture) กว้างสูงสุดที่ F/2.4
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ vivo X5 Max
- ไม่รองรับการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่านทาง NFC
- พื้นที่เก็บบันทึกข้อมูลภายในขนาด 16 GB เหลือให้ใช้งานจริงอยู่เพียงแค่ประมาณ 9.27 GB
- เมื่อเล่นเกมไปสักพัก ตัวเครื่องจะร้อนพอสมควร
- แบตเตอรี่มีความจุไม่มากนัก คือมีความจุ 2,300 mAh ซึ่งด้วยหน้าจอที่ใหญ่ถึง 5.5 นิ้ว และคุณสมบัติระดับสูง หากมีการใช้งานหนักๆ ก็อาจจะต้องมีการชาร์จแบตเตอรี่อยู่เป็นระยะ
- ไม่สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้
- ไม่มีวิทยุ FM ในตัว
โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทาง ศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริง บ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.thaimobilecenter.com/review/vivo-x5-max-review.asp
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.thaimobilecenter.com/review/vivo-x5-max-review.asp
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.thaimobilecenter.com/review/vivo-x5-max-review.asp