ครั้งแรกกับการได้ทดลองจับ Samsung Galaxy S6 edge สวยเกินคาด

ครั้งแรกกับการได้ทดลองจับ Samsung Galaxy S6 edge สวยเกินคาด

ครั้งแรกกับการได้ทดลองจับ Samsung Galaxy S6 edge สวยเกินคาด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     หลังจากที่หลายวันก่อนผมได้ทดลองเล่น Samsung Galaxy S6 อย่างเป็นทางการและค่อนข้างประทับใจในส่วนของการดีไซน์มากถึงมากที่สุดไปแล้วนั้น

     มาในวันนี้ผมเมื่อผมรับหมายให้ไปรวมงานเปิดตัวทั้ง 2 รุ่นอย่างเป็นทางการ(งานสำหรับ บล็อกเกอร์และสื่อออนไลน์) ผมจึงไม่รอช้าที่จะรีบเคลียร์งานให้เสร็จและไปทันที

     ด้วยเหตุผลง่ายๆ ที่ว่าภายในงานผมจะได้ทดลองเล่น Samsung Galaxy S6 edge ด้วยเช่นกันและมันคือสิ่งที่ผมเฝ้ารอหลังจากพลาดโอกาสสัมผัสของจริงเมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา

คุณสมบัติพื้นฐานของ Samsung  Galaxy S6 edge

- จอแสดงผลแบบ Dual Curved Edge Super AMOLED Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 2560x1440 Pixels (2K QHD : กว้าง 5.1 นิ้ว : 577 ppi) พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิคโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Mali-T760

- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core 64-bit Exynos 7420 (ซีพียู Quad-Core Cortex-A57 ความเร็ว 2.1 GHz และ Quad-Core Cortex-A53 ความเร็ว 1.5 GHz) พร้อมระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 5.0.2 (Lollipop)

- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB, 64 GB หรือ 128 GB และ RAM (LPDDR4) ขนาด 3 GB พร้อมรองรับการเก็บบันทึกข้อมูลแบบ Cloud Storage ด้วยบริการ OneDrive (ฟรีพื้นที่เก็บบันทึกข้อมูลขนาด 115 GB นาน 2 ปี)

- เชื่อมต่อ HTML Browser ผ่านระบบ WiFi, HSPA+, 4G LTE Cat6, EDGE หรือ GPRS พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน NFC, Bluetooth, Infrared หรือ ANT+

- กล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 16 ล้าน Pixels (F/1.9) พร้อมเซ็นเซอร์รับภาพแบบ ISOCELL, ระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS

- กล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels (F/1.9)

-  ซิมการ์ดแบบ nanoSIM

- ขนาด 142.1x70.1x7.0 มิลลิเมตร

- น้ำหนัก 132 กรัม

     มาดูกันว่า Samsung Galaxy S6 edge รุ่นนี้ จะมีความน่าสนใจอย่างไรอีกบ้าง และขอบหน้าจอโค้งด้านข้างมีประโยชน์อย่างไร การได้เจอกับ Samsung Galaxy S6 edge ในค่ำคืนที่ผ่านมานั้นสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวก็ไม่ได้ทำให้ผมผิดหวังเลยจริงๆ ด้วยส่วนของหน้าจอซึ่งโค้งทั้งสองด้านทำให้ Galaxy S6 edge ยิ่งมีความความโดดเด่นกว่า Samsung Galaxy S6 อย่างเห็นได้ชัดครับ

     ด้านหน้าของ Galaxy S6 edge มีขนาดกว้าง 5.1 นิ้ว สำหรับกระจกนั้นเป็นแบบ Corning Gorilla Glass 4 ที่มีความแข็งแรงทนทานมากเป็นพิเศษทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งแน่นอนความมันหนาแน่นกว่าไอโฟนแน่นอน งานนี้ไม่ต้องกลัวเครื่องงอ

     มาต่อกันที่ปุ่ม Home สำหรับรุ่นใหม่ยังเป็นแบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ เช่นเดียวกับ Samsung Galaxy S5 แต่ได้เปลี่ยนวิธีการสแกนใหม่แล้วนะ(สงสัยคงคงมีกลายกระซิบเรื่องมันทำงานยุ่งยากเกินไป) ทำให้ปุ่ม Home ซึ่งของเก่ามีลักษณะการรูดแล้วลากเพื่อปลดล็อก เปลี่ยนมาเป็นแตะเพื่อปลดล็อคแทนเช่นเดียวกับไอโฟน นั้นหมายความว่าซัมซุงเข้าใจถึงปัญหาที่ผู้ใช้เจอ และทำการปรับปรุงมันให้ดีขึ้น

     ในส่วนของรอบๆ ตัวเครื่อง Samsung Galaxy S6 edge นั้นเป็นส่วนของกรอบที่เป็นโลหะทั้งหมดและขอเน้นว่า Galaxy S6 edge บางกว่า Samsung Galaxy S6 แน่นอน ด้านข้างทางขวาของตัวเครื่องเป็นตำแหน่งของปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดตัวเครื่องเท่านั้นไม่มีปุ่มทำงานอื่นๆ อาจเพราะต้องการเน้นให้ดูเรียบง่ายย และหรูหรานั้นเอง

     ด้านข้างทางซ้ายของตัวเครื่อง Samsung Galaxy S6 edge เป็นส่วนของเป็นปุ่มปรับระดับเสียง

     ส่วนด้านล่างของตัวเครื่องประกอบด้วย ช่องหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร, พอร์ต microUSB ถัดมาเป็น ไมโครโฟน 1 ตัว, และส่วนของลำโพง

     ด้านบนของตัวเครื่อง Samsung Galaxy S6 มี่ช่องสำหรับ Nano SIM สำหรับตรงนี้การที่ช่องชิมมาอยู่ด้านบนสุดของตัวเครื่องทำผมแปลกใจนิดหน่อยๆ เพราะไม่ค่อยได้เห็นแบบนี้บ่อยนัก ต่อมาเป็นส่วนของรูของอินฟราเรด และลำโพงอีกหนึ่งตัว

     ด้านหลังนั้นเป็นส่วนขอกล้อง และเซ็นเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate Sensor) มีกระจก Gorilla Glass 4 ครอบทับอีกที จากที่ได้ฟังนั้นส่วนของกระจกสามารถปรับสีสันได้ตามแสงที่ตกกระทบ ส่วนนี้พูดเลยดีงาม ส่วนของฝาหลังนั้นไม่สามารถถอดหรือแกะออกได้อีกต่อไปนะครับ

     มาดูในส่วนของเลนส์กล้องหลังด้านหลังกันหน่อยครับ ลักษณะทั่วไปนั้นเป็นเหมือนกันกับ Samsung Galaxy S6 เลนส์กล้องยื่นออกมาจากตัวเครื่องเล็กน้อย อาจจะด้วยความบางของเครื่องทำให้ต้องออกแบบกล้องให้อยู่ในลักษณะนี้ สำหรับส่วนที่ยื่นออกมานั้นทำให้กลายเป็นคำถามว่า หากวางกับกับพื้นราบจะมีปัญหาอะไรหรือไม่

วางเทียบกันจะเห็นว่า Samsung Galaxy S6 กับ Samsung Galaxy S6 edge

     มาดูในส่วนของฟีเจอร์เด่นที่มาคู่กับหน้าจอโค้ง และถูกพูดถึงคือ People Edge ด้วยการปักหมุดเบอร์คนสำคัญได้สูงสุดถึง 5 คนไว้ที่ขอบจอ ซึ่งเวลาที่ต้องการจะโทรออก, ส่งข้อความ หรือส่งอีเมล ก็สามารถใช้นิ้วปัดที่ขอบจอ เพื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าว นอกจากนี้

     ขอบจอโค้งยังสามารถแสดงการแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันต่างๆ ได้ โดยจะมีแถบสีเล็กๆ ปรากฏที่ขอบจอด้านขวา และเมื่อผู้ใช้ลากแถบสีจากซ้ายไปขวา ก็จะแสดงรายละเอียดการแจ้งเตือนเพิ่มเติม

     สำหรับคอนเทนต์นี้ผมขอผ่านเรื่องของอินเทอร์เฟส และการใช้งานเบื้องต้นไปนะครับเพราะด้วยเวลาที่ได้ทดลองเล่นไม่นาน ทำให้ทำอะไรไม่ถนัดเขียนไปก็กลัวจะไม่เห็นภาพ  ดังนั้นบทความนี้จึงเป็นเพียงแค่ความรู้สึกของผมหลังจากที่ได้ทดลองเล่นGalaxy S6 edge เพียงเวลาไม่นานทำให้บทความยังไม่ได้ลงรายละเอียดมานัก หากทางผมได้เครื่อง Galaxy S6 edge มาอีกครั้งสัญญาว่าจะรีวิวแบบจัดหนักให้อย่างแน่นอนครับ

     ก่อนหน้านี้มีพี่ชายคนนึงถามผมว่าหากตอนนี้มีเงินกองอยู่ตรงหน้า 3 หมื่นหลังจากได้ลองเล่น Galaxy S6 จะเปลี่ยนใจจากไอโฟนไหม? จำได้ว่าตอนนี้ผมบอกพี่เค้าไปว่าสำหรับ Galaxy S6 ความรู้สึกผมแค่หวั่นไหว ขอทดลองเล่น Galaxy S6 edge ก่อนเพราะในใจแอบชอบอย่างหลังมากว่าเพราะความโค้งของขอบจอที่มันดูว๊าววววมากจริงๆ

     แต่หลังจากที่ได้ลองเล่นแล้วทำให้ผมได้รู้เพิ่มเติมว่าส่วนโค้งของกระจกด้านข้างเครื่องนั้น ทำงานแตกต่างกับ Samsung Galaxy Note Edge ครับ คือมันมีลูกเล่นไม่เยอะเท่านั้นเอง

     ส่วนตัวก็ยังประทับใจในเรื่องของดีไซน์อยู่ดี เวลาได้ถือและหยิบออกมาใช้ มันรู้สึกภูมิใจที่สุด แม้ว่าส่วนของด้านข้างที่เป็นโลหะพอได้ทดลองจับและถือจริงๆ ความรู้สึกที่ได้คือมันไม่สบายมือเหมือนตอนจับ Galaxy S6 ก็ตาม แต่คำตอบที่ได้นั้นก็คือ หากมีเงิน 3 หมื่นผมคงเลือกซื้อ Galaxy S6 edge มาใช้งานแน่อน

     ตอนนี้คงต้องมาลุ้นเรื่องของราคาว่าละว่า Galaxy S6 edge จะแพงกว่า Galaxy S6 แค่ไหน? เพราะนั่นคืออีกอย่างที่เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจแน่นอน

     Ps. มีข่าวอัพเดทล่าสุดมาแล้วว่าในวันที่ 1 เมษายน ทางโอเปอเรเตอร์อย่าง AIS และ TruemoveH  จะมีการเปิดให้จอง Samsung Galaxy S6 และ Samsung  Galaxy S6 Edge อย่างเป็นทางการนะครับโดยเจ้าแรกเปิดให้จองตอน 9.00 นใ ส่วนค่ายหลังเปิดเช้าหน่อยเริ่มตอน 8.00 น.

     หรือสามารถเข้าไปจับจองเป็นเจ้าของ  Samsung Galaxy S6 และ Samsung  Galaxy S6 Edge กันง่ายๆ ได้ที่ www.s-estore.com

     ส่วนราคานั้นได้ถูกเคาะอย่างเป็นทางการแล้ว ราคาเซอร์ไพรส์ว่าที่คิด โดยราคาทั้งหมดมีดังนี้ ส่วนสีที่นนเข้ามาขายได้แก่ White Pearl, Black Sapphire และ Gold Platinum

- Samsung Galaxy S6 ความจุ 32 GB ราคา 23,900 บาท

- Samsung Galaxy S6 edge ความจุ 32 GB ราคา 27,900 บาท

- Samsung Galaxy S6 edge ความจุ 64 GB ราคา 30,900 บาท


     สำหรับใครที่อยากรู้ว่า Samsung Galaxy S6 นั้นกล้องชัดแค่ไหนสามารถคลิกเข้าไปดูได้ที่นี่ เทียบภาพถ่าย Samsung Galaxy S6 vs iPhone 6 (Exclusive)

Facebook :

ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!

Facebook :

ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!

Facebook :

ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook