กุมารทอง เจเนอเรชั่นใหม่ น่ารักแบ๊วฟรุ้งฟริ้ง
กุมารทอง กุมารี ความเชื่อทางไสยศาสตร์ ถือเป็นเครื่องรางของขลังประเภทหนึ่งที่ยังคงสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
หลายความเชื่อ ต่างความคิด บ้างก็ว่าเป็นเรื่องลี้ลับ น่ากลัว บ้างก็คิดว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ น่าเคารพนับถือ บ้างก็มองเป็นเรื่องงมงาย ไม่เชื่อ ไม่ศรัทธา
โดยในอดีต กุมารทอง กุมารี เป็น "หุ่นเด็กไทยผมจุก" โดยวัสดุทำจากเครื่องปั้นดินเผา รวมถึงเซรามิกและเรซิน แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป เรื่องของแฟชั่นเข้ามามีอิทธิพลมากขึ้น รูปลักษณ์ของกุมารทอง กุมารี จึงเปลี่ยนจาก "เด็กไทยผมจุก" มาเป็น "ตุ๊กตาหน้าตาน่ารักเหมือนเด็กฝรั่ง" ดวงตากลมโตแบ๊วๆ มีให้เลือกทั้งผมสั้นผมยาว เพียงแต่พิธีกรรมการสร้าง การปลุกเสก ยังคงใช้ตามตำราเดิมทุกประการ
ด้วยรูปร่างหน้าตาที่น่ารักของ "กุมารทองยุคใหม่" จึงเป็นที่นิยมของเหล่าวัยรุ่นจำนวนไม่น้อย รวมไปถึงคนดังในวงการบันเทิงที่หันมาสนใจเลี้ยงกุมารทอง กุมารี อุ้มพาไปไหนมาไหน แต่งตัวให้น่ารักฟรุ้งฟริ้ง ถ่ายรูปอัพลงโซเชียล ราวกับเป็นลูกจริงๆ จนทำให้หลายคนแทบลืมภาพกุมารทองยุคเก่าไปเลย
ปรียาภา วงษ์แสง ผู้เลี้ยงกุมารทอง เล่าว่า รู้จักกุมารทองจากรุ่นพี่ที่ทำธุรกิจและเลี้ยง จึงเริ่มสนใจเพราะเห็นเขาประสบความสำเร็จ จากนั้นก็ศึกษาวิธีการเลี้ยง ก่อนที่จะบูชามาเลี้ยง ส่วนวิธีการเลี้ยงดูก็ไม่ต่างจากกุมารทองในอดีต เนื่องจากได้ผ่านการทำพิธีรวมถึงมวลสารในตัวที่ถูกต้อง การไหว้บูชาก็เหมือนกันไม่เปลี่ยน จะเปลี่ยนก็เพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอกที่ดูน่ารักขึ้น ทำให้สามารถอุ้มพาไปไหนมาไหนได้
"ส่วนตัวคิดว่ากุมารทองในรูปแบบตุ๊กตาน่ารักแบบนี้ มีส่วนมากในการตัดสินใจรับมาเลี้ยง จนเหมือนกลายเป็นแฟชั่นของคนรุ่นใหม่ที่หลายคนได้เห็นก็ชอบ แต่น้อยคนที่ศึกษาอย่างจริงจัง" ปรียาภากล่าว
นอกจากรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปแล้ว ช่องทางการจำหน่ายก็เปลี่ยนไปด้วย จากเมื่อก่อนที่ต้องไปบูชาที่วัดหรือสำนักต่างๆ ก็พัฒนามาขายตาม "โซเชียลเน็ตเวิร์ก" เช่น เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ซึ่งมีบริการจัดส่งทางไปรษณีย์ โดยราคาจะแตกต่างกันไป
โดยแบบที่ยังไม่ทำพิธีจะอยู่ที่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ขึ้นอยู่กับขนาดและคุณภาพของตุ๊กตา ส่วนแบบที่ทำพิธีแล้วจะมีราคาเพิ่มประมาณ 2,000-3,000 บาท หรืออาจจะมากกว่านั้น ซึ่งในบางร้านจะขายเฉพาะที่ลงพิธีแล้วเท่านั้น
จากตรงนี้เอง ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์ ระบุว่าเป็นเรื่องที่งมงายและหลอกลวงประชาชนให้เชื่อในไสยศาสตร์ แต่ก็ยังมีบางส่วนที่เผยว่า เรื่องแบบนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ถ้าไม่เชื่อก็ไม่ควรไปลบหลู่
นอกจากนี้ สมาคมต่อต้านสิ่งงมงายได้แสดงความคิดเห็นว่า "สินค้าแพงเกินราคา แถมภาษีก็ไม่ต้องจ่าย ซึ่งสรรพคุณบอกทำนู่นทำนี่ได้ เฝ้าบ้านได้ ทำให้รวย กิจการเจริญรุ่งเรือง หากมองว่าเป็นสินค้าซื้อมาตามสรรพคุณแล้ว ไม่เป็นไปตามคำกล่าวอ้าง มันก็เข้าข่ายหลอกลวงต้มตุ๋น" นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบด้วย
กัญจพร เข็มทรัพย์ ผู้เลี้ยงกุมารทอง เล่าว่า โดยส่วนตัวที่บ้านมีการบูชากุมารแบบองค์เก่าแก่ 1 องค์ และแบบองค์ที่เป็นตุ๊กตาแบบสมัยใหม่อีก 2 องค์ การบูชาก็จะถวายน้ำแดง น้ำเปล่า ขนม ของเล่นและเสื้อผ้า การเลี้ยงจะเลี้ยงเหมือนเป็นลูกคนหนึ่ง รัก เอาใจใส่ดูแล และไม่ทอดทิ้ง ที่สำคัญจะไม่ผิดสัจจะกับกุมาร เมื่อเราพูดอะไรแล้วต้องทำให้ได้
ด้วยรูปลักษณ์ที่น่ารักฟรุ้งฟริ้งแบ๊วๆ จึงทำให้หลายคนอยากเลี้ยงบ้าง
หนึ่งในผู้ที่เกือบจะบูชากุมารทอง เพชรรัตน์ แสงจันทร์ เล่าว่า เคยซื้อกุมารมา เพราะเห็นว่ามีหน้าตาน่ารักดี แต่ซื้อแบบที่ยังไม่ทำพิธี เนื่องจากร้านที่ซื้อคิดค่าทำพิธีสูงเกินกว่าร้านปกติ จึงคิดว่าจะนำไปลงพิธีเอง แต่เมื่อซื้อมาแล้วก็เกิดความรู้สึกกลัวขึ้นมา และไม่พร้อมในหลายๆ เรื่อง จึงเปลี่ยนใจไม่นำกุมารไปลงพิธี
ธณัฎฐภรณ์ ศรีแก้วสาย ผู้ที่บูชากุมารมาได้ 5 ปี ปัจจุบันกุมารทองและกุมารี ทั้งหมดมี 20 องค์ แบบหุ่นปูน 18 องค์ และตุ๊กตา 2 องค์ แนะว่า ถ้าใครอยากเลี้ยงกุมาร "ให้ศึกษาก่อน อย่าคิดว่าฮิตแล้วจะบูชา เพราะทุกสิ่งล้วนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย"
อีกหนึ่งเทรนด์ฮิตที่ปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย
(หน้า 18 มติชนรายวัน วันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 )