พรีวิว: พาชม (Hand-on) Samsung Galaxy A8 ก่อนวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

พรีวิว: พาชม (Hand-on)  Samsung  Galaxy A8 ก่อนวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

     Samsung แบรนด์สมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม ยังคงรุกตลาดอย่างต่อเนื่องเพราะล่าสุดนั้นได้ส่งสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล A-Series อย่าง Samsung  Galaxy A8 ลงสู่ตลาดอย่างเป็นทางการ

     และทางทีมงาน Sanook! Hitech ก็ไม่พลาดที่จะเดินทางไปร่วมงานเปิดตัวในครั้งนี้ พร้อมทั้งเก็บภาพ Samsung  Galaxy A8 มาพรีวิวเรียกน้ำย่อยเบาๆ ก่อนวางจำหน่ายในบ้านเราสิ้นเดือนนี้ และเชื่อว่าหากใครที่ซื้อ Samsung  Galaxy A7 ไปก่อนหน้าและได้อ่านบทความนี้ ต้องมีงอลทาง Samsung กันเบาๆ แน่นอนเพราะเพิ่มเงินอีกไม่เท่าไรก็ได้ของที่แรงขึ้น

     มาเริ่มกันดีกว่าครับ Samsung  Galaxy A8 มาพร้อม เทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ All-Metal Unibody (กรอบตัวเครื่องถูกขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน ด้วยวัสดุแบบโลหะทั้งชิ้น) พร้อมความบางเฉียบเพียง 5.9 มิลลิเมตรและมีน้ำหนัก 151 กรัมเท่านั้นเอง 

     หน้าจอของ Galaxy A8 นั้นเรียกว่าใหญ่ที่สุดในบรรดาของสมาร์ทโฟนตระกูล A-Series นั้นคือมีขนาดหน้าจอที่กว้างถึง 5.7 นิ้ว ซึ่งเรียกได้ว่าใหญ่กำลังดี เหมาะสำหรับคนที่อ่านหนังสือเวลาเดินทางหรือหากจะดูคลิปต่างๆ ก็ดูลงตัวไปหมด

     ส่วนของจอแสดงผลเเป็นแบบ Super AMOLED Capacitive Touchscreen  มาพร้อมฟังก์ชัน Ambient Light Sensor ซึ่งสามารถปรับแสงของหน้าจอภาพได้อัตโนมัตินั้นเอง

 

     ด้านหลังของตัวเครื่องถูกปิดผนึกด้วยโลหะอะลูมิเนียมอย่างดี เรียบง่ายและหรูหราอย่างที่บอกไปแล้วว่ารุ่นนี้นั้นไม่สามารถแกะฝาหลังออกได้

     เหนือหน้าจอมีเลนส์กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมค่ารูรับแสงที่กว้างถึง f/1.9 เรียกได้ว่าอัพเดทที่สุดแล้วในตอนนี้

     ต่อมาเป็นตำแหน่งที่ตอนนี้นั้นกลายมาเป็นจุดขายของสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ในแต่ละค่ายนั้นคือความละเอียดของกล้องตัวหลักที่ด้านหลังนั้นเองครับใน Galaxy A8 นั้นเรียกได้ว่าจัดกล้องลงมาเต็มสูบเช่นเคย ส่วนของกล้องหลังมีความละเอียดสูงถึง 16 ล้าน Pixels ขนาดของรูรับแสง (Aperture) กว้างสูงสุดที่ F/1.9 พร้อมไฟแฟลชในตัว แบบ LED Flash

     หากอ่านมาถึงตรงนี้จะเห็นได้ว่า Galaxy A8 เป็นกล้องรุ่นแรกที่มีขนาดของรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.9 ทั้งกล้องหน้าและหลัง

     ปุ่มกดด้านล่างยังคงเหมือนกับ Samsung รุ่นใหม่ๆ ประกอบไปด้วยปุ่ม Recent Apps (ไว้สำหรับสลับ Apps ไปมา) ปุ่ม Home ที่เป็นปุ่มกดและพิเศษกว่าพี่น้องในตระกูล A นั้นคือ Galaxy A8 มาพร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือหรือ Fingerprint Scanner แบบใหม่เหมือนรุ่นท็อปอย่าง Galaxy S6

     ขอบด้านบนของตัวเครื่องมีเพียงรูไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวนเท่านั้นเองครับ

     ส่วนขอบด้านล่างนั้นเป็นตำแหน่งของพอร์ต Micro USB เวอร์ชัน 2.0, ถัดมาเป็นรูไมโครโฟนสำหรับใช้สนทนาและช่องต่อสายหูฟังมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร สำหรับแถบที่เห็นลอบรอบทั้งด้านขวาและซ้ายนั้นเป็นแถบรับสัญญาณครับ

     รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดพร้อมกันภายในเครื่องเดียว ช่องใส่ซิมการ์ดจำนวน 2 ช่อง(แบบ Nano Sim ทั้ง 2 ช่อง) หรือจะเลือกมา 1 ช่องสำหรับเปลี่ยนมาใส่ microSD (เพิ่มสูงสุด 128GB)

ด้านขวาของตัวเครื่องเป็นตำแหน่งของปุ่มเปิด-ปิดเครื่องและล็อกหน้าจอ

     Galaxy A8  รันบนระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 5.1.1 Lollipop สำหรับรุ่นที่นำเข้ามาวางจำหน่ายในไทยนั้นใช้ชิปเซ็ต CPU Exynos 5430 Processor (ซีพียู Quad-Core Cortex-A15 ความเร็ว 1.8 GHz และ Quad-Core Cortex-A7 ความเร็ว 1.3 GHz) User Interface แบบ TouchWiz UI

     สำหรับฟังก์ชันเรื่องการถ่ายภาพนั้น Galaxy A8 ก็จัดมาเต็มไม่แพ้รุ่นไหนๆ ของทาง Samsung ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชั่นหลักอย่าง ฟังก์ชัน Beauty Face สำหรับการปรับแต่งใบหน้า หรือแม้แต่โหมดถ่ายภาพแบบ Wide Selfie ส่วนใครที่ชอบการถ่ายภาพแบบ Selfie เค้าก็มี ฟังก์ชัน Palm Selfie สำหรับการยกฝ่ามือขึ้นโชว์ที่หน้ากล้องเพื่อสั่งถ่ายภาพ มาให้ใช้งาน

พรีวิว: พาชม (Hand-on)  Samsung Galaxy A8

ภาพเปรียบเทียบคุณสมบัติเด่นระหว่างสมาร์ทโฟนตระกูล A-Series

สำหรับใครที่ยังห่วงเรื่องแบตเตอรี่ ว่าหากจอใหญ่ขึ้นแล้วคงต้องใช้พลังงานที่มากขึ้นนั้น คงไม่ต้องกังวลอีกต่อไปเพราะ Samsung Galaxy A8 มาพร้อมแบตเตอรี่ ชนิด Li-Ion ความจุ 3050 mAh ที่มากว่า สมาร์ทโฟนตระกูล A-Series ทั้ง 2 รุ่นที่ออกมาก่อนหน้านี้ครับ

นอกจากนี้นั้น Samsung  Galaxy A8 ยังมีโหมด Ultra Power Saving ซึ่งช่วยในการประหยัดพลังงาน ถึงตรงนี้แม้ว่าแบตเตอรี่จะเหลือแค่ 10% ก็ยังสามารถใช้งานต่อได้นานประมาณ 24 ชั่วโมงหรือ 1 วันโดยประมาณครับ

สำหรับราคาของ Galaxy A8 อยู่ที่ 15,900 บาท และจะเริ่มวางขายสิ้นเดือนกรกฏา ส่วน Galaxy Tab S2 เข้าไทยสิงหานี้  มี 3 สีมาตรฐานให้เลือก (ขาว, ดำ และทอง) (Pearl White, Midnight Black และ Champagne Gold) โดยมีหน่วยความจำเริ่มต้นที่ 32 GB และสามารถเพิ้มได้สูงสุด 128 GB

ปิดท้ายด้วยราคาของ สมาร์ทโฟนตระกูล A-Series ทั้ง 3 รุ่นครับ (ราคาดังกล่าวด้านล่างเป็นราคาศูนย์ที่อ้างอิงจากเว็บไซต์ thaimobilecenter.com)

-  Samsung Galaxy A5  11,900 บาท
-  Samsung Galaxy A7  13,900 บาท
-  Samsung Galaxy A8  15,900 บาท

เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับพรีวิว Samsung  Galaxy A8 ที่ทางทีมงาน Sanook! Hitech นำมาฝากกันในวันนี้ ขาดตกบกพร่องตรงไหนก็สามารถโพสบอกพวกเราได้ที่ตรงคอมเม้นต์ด้านล่างได้เลยครับ ทางทีมงานน้อมรับและจะนำไปพัฒนาในบทความต่อๆ ไป