[พรีวิว] Samsung Galaxy Note 5 สมาร์ทโฟนดีไซน์หรูตัวจริงก่อนใคร
สิ้นสุดการรอคอยสักทีสำหรับ Smart Phone รุ่นเรือธงของ Samsung ที่หลายคนนั้นตั้งตารอดูกันมานานกับ Galaxy Note 5 เรามาพรีวิวกันสั้น ๆ ว่าตัวเครื่องมีจุดเด่นและน่าสนใจมากน้อยสำกับการรอคอยหรือไม่
ก่อนอื่นเรามาดูว่าในกล่อง Samsung Galaxy Note 5 เมื่อจำหน่ายจริงจะมีอะไรบ้าง ประกอบไปด้วย
- ปลั้กไฟ Fast Charge
- สาย Micro USB
- หูฟังแบบ In Ear
- ไส้ปากกา S Pen
- ที่เปิดซิมการ์ด
- คู่มือ
- ตัวเครื่อง Galaxy Note 5 + S Pen
รูปร่างของ Samsung Galaxy Note 5 มีการเปลี่ยน Theme Design ใหม่เป็นแบบเดียวกับGalaxy S6 ที่เปิดตัวไปตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยหน้าจอของตัวเครื่องมีขนาด 5.7 นิ้วความละเอียดยังคงเป็น QHD (2560x1440) เท่ากับ Galaxy Note 4 ทุกประการ แต่ด้วยขอบหน้าจอที่เล็กลงทำให้ตัวเครื่องจับได้ถนัดขึ้น
ส่วนบนบนมาพร้อมกล้องหน้าขนาด 5 ล้านพิกเซล (F1.9) และหูฟังที่ชิดหน้าจอมากขึ้น
ส่วนล่างมีระบบสแกนลายนิ้วมือที่เหมือน Galaxy S6 และปุ่ม Recent และ Back เหมือนเดิม
เมื่อเทียบกับ Note 4 จะเห็นได้ชัดว่าปุ่มกดแยกชัดเจน
ด้านข้าง ใช้วัสดุอะลุมิเนียมเกรดดีกว่า S6 ฝั่งซ้ายมีปุ่มปรับระดับเสียง
ฝั่งขวามีปุ่ม Power
ด้านบน มีช่องใส่ซิมแบบ Nano SIM ส่วน Memory ไม่สามารถเพิ่มได้
ด้านล่างมีช่องเสียบหูฟัง, Port Micro USB ลำโพงตัวเครื่อง
ซึ่งจุดที่เว้นไว้นั้นคือปากกา Spen ที่สามารถ กดเพื่อถอดออกมา ซึ่งเป็นกลไกลจากตัวปากกาที่สามารถ ใส่และล็อคได้อย่างมั่นคงกว่าเดิม และมีรูปร่างที่เรียวและสามารถจับได้ถนัดมือมากขึ้นอีกด้วย
ด้านหลังโค้งมน พร้อมกับกล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล F1.9 พร้อม LED Flash และ Heart Rate Monitor ในตัว และเป็นกระจกเหมือนกับด้านหน้า จุดนี้จะแตกต่างจาก Note 4 พอสมควร
ประสิทธิภาพของ Galaxy Note 5 มีดังนี้
- CPU Exynos 7420 Octa Core ประกอบด้วย Quad Core 1.5 GHz + Quad Core 2.1 GHz
- RAM 4GB แบบ LDDR4
- ความจำในตัว 32GB, ไม่สามารถเพิ่มความจำภายนอกได้
- รองรับ 4G LTE Cat 9
- Bluetooth V4.1
- WiFi 802.11 b/g/n/ac
- NFC, Wireless Fast Charger
- กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล (F1.9), กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล (F1.9 + Auto Focus + LED Flash)
- ระบบปฏิบัติการ Android 5.1.1 ใหม่ล่าสุด
- แบตเตอร์รี่ขนาด 3000 mAh
โดยสเปคที่ให้มาถือว่าจัดเต็มและเร็วที่สุด ณ ตอนนี้เลยก็ว่าได้ แทบไม่ต้องทดสอบคะแนน Benchmark เลยต้องบอกว่า เครื่องตอบสนองการใช้งานได้ครบตั้งแต่การใช้งานทั่วไป, เน้นการจดบันทึก, ใช้งานหลาย Apps และเล่นเกมระดับเทพที่ใช้ RAM เยอะ
เพราะการได้ RAM 4GB ผลดีคือ สิ่งที่กล่าวมาขั้นต้นสามารถทำงานได้ราบรื่นมากขึ้น แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถเพิ่มความจำได้เท่านั้นเอง
คุณสมบัติอื่น ๆ ที่เรียกว่าเป็นจุดเด่นของ Galaxy Note 5 มีดังต่อไปนี้
ปากกา S Pen Design ใหม่ นอกจากจะออกแบบให้สวยงามจับได้ถนัดมือแล้ว ยังตอบสนองความแม่นยำได้มากกว่าเดิมทำให้สามารถเขียนข้อความได้ดีกว่า Galaxy Note 4 อยู่พอสมควร
Air Command เปลี่ยนรูปแบบให้สามารถเรียกใช้งานได้เพียงแตะ icon รูปปากกา จะแสดงผลขึ้นมา ซึ่งประกอบด้วยลูกเล่นใหม่เช่น
- Smart Select ที่เพิ่มเติมการเลือกบางส่วนของหน้าจอ บันทึกเข้าสู่ Gallery หรือ Scrapbook ได้เช่นเดียวกัน
- Screen Writer เมื่อกดบนเว็บไซต์หรือเอกสาร ที่มีความยาวไม่เกิน 25 หน้า จะรวมไว้ใน Screen Shot อันเดียว
- สามารถเพิ่มเติม icon ของ Apps ที่ต้องการใช้งานได้อย่างง่ายดายและเพิ่มเป็นทางลัดในการเข้า Apps ได้อีกด้วย
- Action Memo ปรับรูปแบบให้เข้าใจง่ายดูดีไปอีกแบบ และสามารถทำงานได้เมื่อคุณปิดหน้าจอ และดึงปากกาออกมาจากเครื่องก็จดบันทึกได้ทันที
S Note มีการเปลี่ยนรูปแบบใหม่ให้ดูง่ายและสะดวกกว่าเดิม
นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นอื่น ๆ เช่น Live Podcast ให้เราถ่ายทอดสดรายการที่เราต้องการให้เพื่อนเราดูได้ โดยสามารถเชื่อมต่อกับ Youtube Live ได้ทันที, Side Sync ที่รองรับเวอร์ชั่นล่าสุด สามารถโอนถ่ายข้อมูลระหว่างภาพได้
UHQ Audio (Ultra High Quality Audio) ระบบช่วยจัดการปรับเสียงไม่ว่าจะเป็น File เสียงแบบไหนก็ตาม จะทำให้คมชัดและสามารถรองรับการเล่นผ่าน Bluetooth ได้ราบรื่น
ส่วน Fast Wireless Charging ที่ติดมาให้ใน Galaxy Note 5 เป็นครั้งแรก โดย สามารถชาร์จเร็วกว่า Wireless Charge ปกติถึง 33% และไม่ได้ตัด Fast Charge แบบปกติทิ้งไปนะครับ สามารถชาร์จไฟให้เต็มในเวลา 120 นาที(แบบไร้สาย) และ 90 นาที(แบบสาย Fast Charging)
กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล F1.9 และกล้องหลังยังคงใช้ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash และ Auto Focus มีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ของทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังคือ Steady Shot เพิ่มความมั่นคงระหว่างการถ่ายภาพ โดยการจะจับภาพไว้ล่วงหน้าก่อนการถ่าย โดยเฉพาะวีดีโอจะทำให้ภาพที่ถ่ายออกมาสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นไปอีก และสามารถเรียงลำดับภาพของกล้องได้อีกด้วย การถ่ายวีดีโอยังทำได้สูงสุดที่ระดับ 4K (30 FPS) และ FHD ความเร็วต่อเฟรม 60 FPS รองรับ VDIS ทำให้การถ่ายวีดีโอทำได้ราบรื่นขึ้นมาก
นอกจากนี้ยังรองรับการถ่ายภาพแบบ RAW File และสามารถโหลดฟีเจอร์ใหม่ ๆ ในการถ่ายภาพลงมาได้เหมือนกับ Samsung รุ่นอื่น ๆ ที่ออกมาก่อนหน้านี้
ภาพจากกล้องหลัง Galaxy Note 5
ภาพจากกล้องหลัง Galaxy Note 5
ภาพจากกล้องหลัง Galaxy Note 5
ภาพจากกล้องหลัง Galaxy Note 5
จากที่สัมผัสนั้นลูกเล่นส่วนใหญ่ได้ใช้และสุดยอดพอสมควร โดยเฉพาะปากกาที่คราวนี้สามารถมีสปริงในการดีดและเก็บทำให้ดูดีและหรูหราไปในตัว กับลูกเล่นที่พัฒนามาถึงรุ่นที่ 5 ยังคงความสมบูรณ์แบบอยู่ไม่น้อย แต่จุดที่ไม่ชอบคงเป็นเรื่องภาพรวมของตัวเครื่องที่จับแล้วลื่นไม่ต่างจาก S6 ที่ออกมาก่อนหน้านี้และ Memory ที่ไม่สามารถเพิ่มภายนอกได้อีกต่อไป ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายไปจริง ๆ
สรุปสำหรับ Galaxy Note 5 ถือว่าเป็น Smart Phone ที่สมการรอคอยไม่ว่าจะเป็นเรื่องของลูกเล่นเยอะสมการรอคอย พร้อมกับรูปร่างที่สวยงามและมาพร้อมกับจุดเด่นที่ครบเครื่องชนิดที่ไม่ต้องหาอะไรมาใส่กันให้วุ่นวาย เพราะในเครื่องนี้มีหมด เหลือเพียงราคาของมันยังไม่ได้เปิดเผยว่าเท่าไหร่ กำหนดวางขายของ Galaxy Note 5 นั้นวางวันที่ 21 สิงหาคมนี้(ในสหรัฐอเมริกา) ต้องมาลุ้นว่าจะเข้าไทยเมื่อไหร่ค่อยว่ากันอีกที หากใครสนใจอดใจรอหน่อยนะครับ
ปล. Review Galaxy Note 5 ตัวจริงเจอกันที่นี่ เร็ว ๆ นี้
อัพเดทราคาล่าสุดนั้นจะวางจำหน่ายพร้อมกันในวันที่ วันที่ 21 สิงหาคม สำหรับราคานั้นมีดังนี้ Samsung Galaxy Note 5 ความจุ 32 GB ราคา 25,900 บาท และรุ่น Samsung Galaxy Note 5 ความจุ 64 GB ราคา 29,900 บาท และ สีล่ะสี... ร่ำรวยมั่งมี ใช้สีเงินสีทอง ส่วนสีดำอาจจะเข้ามาในเดือนตุลาคม สีขาวยังไม่มีกำหนด
อัลบั้มภาพ 10 ภาพ