[รีวิว] Canon EOS M3 กล้อง Mirror Less ใหม่ล่าสุดจาก Canon
ปัจจุบันต้องยอมรับว่า กล้องขนาดเล็กที่เปลี่ยนเลนส์ได้ หรือเรียกว่า Mirror Less มีมากขึ้นในตลาดและแต่ละรุ่นก็มีความน่าสนใจมิใช่น้อยเลยทีเดียว ครั้งนี้ Sanook! Hitech จะรีวิวกล้อง Mirror Less จาก Canon ในรุ่น EOS M3 ว่าจะมีลูกเล่นและความสามารถจนต้องซื้อมาใช้กันเพราะอะไรบ้าง มาเริ่มกันเลย
รายละเอียดของ Canon EOS M3
-จอภาพ 3 แบบทัชสกรีน กางได้สูงสุด 180 องศา
-จำนวนพิกเซลสูงสุด 24.2 ล้านพิกเซล
-ถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ (ที่ได้มารีวิว เป็นเลนส์ Kit 18-55)
-มี Flash ในตัว และใส่อุปกรณ์เสริมเพิ่มเติมได้
-Sensor Hybrid CMOS AF III
-รอบรับ WiFi Direct, NFC
รูปร่าง
ด้านหน้า เป็นพลาสติกเงาสีขาวสวยงามใช้ได้ มีโลโก้ EOS และ Canon อยู่มุมซ้าย ซึ่งจะมีปุ่มกดเพื่อถอดเลนส์ พร้อมไฟโฟกัส ส่วนกริปเครื่องเป็นหนังสีเทาและมีช่องรับ IR จากรีโมตคอนโทล
ด้านข้างขวา มีช่องเสียบ HDMI ขนาดมาตรฐาน พร้อมฝาปิด
ด้านข้างซ้าย มีปุ่มยก Flash และช่องเสียบ ไมโครโฟน และสายเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ แบบ Mini USB พร้อมสัญญาณ WiFi
ด้านบน มีช่องเก็บไฟ Flash ช่องเสียบอุปกรณ์เสริมเช่น ไมโครโฟน หรือ Flash เป็นต้น และปุ่มเปลี่ยน Mode และปรับค่า White Balance และปุ่มเลือก Manual Focus พร้อมกับปุ่ม Shutter
ด้านล่างมีที่ยึดขากล้อง, Tag NFC และ ฝาปิดแบตเตอร์รี่และ SD Card เมื่อเปิดฝาจะพบว่าช่องใส่แบตเตอร์รี่ และ SD Card ข้างใน
ส่วนหน้าจอขนาด 3 นิ้ว แบบทัชสกรีนที่สามารถพลิกเข้าหาตัวได้ และสามารถปรับโยกเพื่อให้ใช้มุมมองต่าง ๆ ได้มากขึ้น
พร้อมปุ่มควบคุมตัวกล้องได้หลากยหลายมากยิ่งขึ้น
คุณสมบัติการถ่ายภาพ เนื่องจากกล้องรุ่นนี้เป็นแบบ Mirror Less ดังนั้นคุณภาพที่ทำได้เหมือนกับกล้องมือโปร นิดหน่อย แต่ข้อเสียที่พูดเลยว่าใช้งานดีพอสมควร แต่ด้วยน้ำหนักตัวที่มากทำให้การควบคุมกล้องจะดูยากสำหรับผู้หญิงไปสักหน่อย และปัญหาที่พบของกล้องรุ่นนี้คือ ความเร็วชัตเตอร์ที่มากทำให้โอกาสที่จะกดเบิ้ลมีสูงนั่นเอง
นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นในเรื่องการทำความสะอาดฟิลเตอร์เองในตัว ถือว่าเป็นกล้องอีกรุ่นที่ให้ฟังก์ชั่นนี้มา ซึ่งปกติแล้ว น้อยยี่ห้อจะให้ลูกเล่นนี้
(ตัวอย่างภาพถ่าย)
สรุป แคนนอน EOS M3 เป็นกล้องที่พัฒนาเข้าสู่ยุคมือถือเป็นใหญ่และกล้อง Mirror Less มีบทบาทกับการถ่ายรูปทั้งแบบ Selfie และการถ่ายภาพอย่างอื่น เพราะขนาดเล็ก เปลี่ยนเลนส์ได้ และจอภาพที่ปรับได้หลากหลายทำให้สามารถนำไปใช้งานได้ทุกที่ ในราคา 18,990 บาท ไปจนถึง 29,990 บาท จัดว่าไม่ได้แพง มากและเป็นเจ้าของได้ง่าย แต่สิ่งที่ต้องฝากคือ ถ้าลดน้ำหนักกล้องและเปลี่ยนวัสดุให้ดูแข็งแรงกว่านี้ จะทำให้มันน่าใช้มากขึ้นและเหมาะกับกลุ่มคนทุกเพศทุกวัย
ข้อดี
- ลูกเล่นกล้องจัดว่าเยอะ
- งานประกอบดี
- แบตเตอร์รี่ทนทาน
- คุณภาพของภาพไม่ได้เลวร้าย
ข้อเสีย
- การทำงานของชัตเตอร์ไวเกินไป
- น้ำหนักกล้องมาก
- ความที่กล้องเป็นผิวพลาสติกแบบ Glossy ทำให้เปื้อนและเป็นรอยง่าย
- การโฟกัสภาพ ช้า เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น
อัลบั้มภาพ 31 ภาพ