[รีวิว] GoPro Hero 4 Session กล้องจิ๋วสุดทนกับเพื่อคนถ่ายไปเล่นกีฬาไป
![[รีวิว] GoPro Hero 4 Session กล้องจิ๋วสุดทนกับเพื่อคนถ่ายไปเล่นกีฬาไป](http://s.isanook.com/hi/0/ud/279/1398409/thum.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/jpg)
GoPro จัดว่าเป็นกล้องที่สามารถถ่ายได้ทุกที่และมีขนาดเล็ก (เกือบ) ที่สุด แต่ที่ได้รับความนิยมที่สุดนั้นเพราะว่า ความทนทาน และอุปกรณ์เสริมของมันที่มีให้เลือกมากมาย ครั้งนี้ Sanook! Hitech ไม่พลาดที่จะนำ Go Pro Hero 4 Session มารีวิวให้ได้ดูกัน พร้อมแล้ว มาลองดูคุณสมบัติของกล้องจิ๋วตัวนี้กันดีกว่า
รายละเอียดของ GoPro Hero 4 Session
- รองรับการเชื่อมต่อผ่าน WiFi Direct และ Bluetooth ผ่าน Apps : GoPro Mobile Apps
- ตัวกล้องทนน้ำได้ 10 เมตร โดยไม่ต้องใส่ Housing Case และกันกระแทบได้
- รองรับการ์ดความจำ Micro SD สูงสุด 64GB
- ความละเอียดในการถ่ายภาพนิ่ง: 8 ล้านพิกเซล
- รองรับการถ่ายวีดีโอ
- 1440p : 30, 25fps Ultra Wide FOV
- 1080p : 60, 50, 30, 25fps Ultra Wide, Medium FOV
- 1080p SuperView : 48, 30, 25fps Ultra Wide FOV
- 960p : 60, 50, 30, 25fps Ultra Wide FOV
- 720p : 100, 60, 50, 30, 25fps Ultra Wide, Medium, Narrow FOV
- 720p SuperView : 60, 50, 30, 25fps Ultra Wide FOV
- WVGA : 120, 100fps Ultra Wide FOV
- รองรับการถ่ายวีดีโอ Time Lapse 60 FPS, Slow Motion 100FPS ความละเอียด 720P
รูปร่างของ GoPro Hero 4 Session นั้น เป็นกล้องที่มีขนาดเล็กกระทัดรัด(มาก) จนเรียกได้ว่า ถ้าเก็บไม่ดีหรือไม่เป็นที่ก็มีสิทธิ์ที่จะหายได้ทันที ตัวเครื่องประกอบด้วย ส่วนหน้าสุดคือกล้องหน้าที่มีเลนส์กว้างมากถึง 160 องศาของการมอง พร้อมไฟบอกสถานะด้านหน้า
ด้านบนของตัวเครื่องมีปุ่มบันทึกการถ่ายวีดีโอ/ภาพนิ่ง/ Enter สำหรับการตั้งค่า พร้อมหน้าจอขนาดเล็กแสดงผลแค่คำสีขาวและดำ บอกค่าการตั้งค่า และจำนวนรูปที่ถ่ายไป
ด้านซ้าย นั้นใช้วัสดุพลาสติกแบบด้านให้ความรู้สึกมั่นคงและกระชับเมื่อจำเป็นต้องถือ
ด้านขวา เป็นช่องสำหรับเสียบการ์ดความจำแบบ Micro SD, Micro USB เพื่อชาร์จไฟ
ด้านหลัง มีปุ่มกดเพื่อสั่งเปิดเครื่อง เลื่อนเมนู และเลือกการตั้งค่า ทำงานคู่กับปุ่มบันทึกด้านบน
ด้านล่าง เป็นพลาสติกทั่วไป
ตัวเครื่องจะมาพร้อมกับ Housing Case ที่มีหน้าตาเป็นกล่องสี่เหลี่ยมทั่วไปโปร่ง ๆ ไม่มีอะไรมากนัก
อย่างไรก็ดี นี่คือ กล้อง GoPro ที่เล็กที่สุดที่เคยทำมา โดยเล็กกว่า GoPro Hero 4 Sliver 40% เลยทีเดียว แต่ประสิทธิภาพของกล้องอาจจะยังไม่เท่าเพราะว่า Hero 4 Sliver สามารถถ่ายวีโอได้ระดับ 4K ได้ แต่รุ่นนี้ยังไม่สามารถทำได้(ทำได้สูงสุดแค่ 2K) ข้อเสียคงมีแค่เรื่องว่าไม่มีจอภาพ แน่ล่ะ ตัวมันเล็กขนาดนี้จะมีจอภาพได้อย่างไร
นอกจากนี้ อุปกรณ์เสริมยังใช้กับ GoPro แทบจะทุกรุ่นอีกด้วย แต่ทีเด็ดสุดอยู่ที่เคสแบบ Ball Joint Buckle ที่สามารถตอบสนองในการถ่ายภาพได้ดี เพราะสามารถปรับมุมมองได้โดยไม่ต้องถอดตัวกล้องออก ทำให้ถ่ายภาพได้ต่อเนื่อง
คุณสมบัติอื่น นอกจากตัวเครื่องที่จะกันน้ำกระกระแทกได้แล้ว ยังมีเรื่องของคุณสมบัติที่เมื่อหมุนกล้องแล้ว ภาพจะไม่เอียงทันทีสามารถเปลี่ยนมุมองศาการถ่ายภาพได้ตามที่ต้องการ เหมาะสำหรับคนที่ใช้ในการปั่นจักรยาน หรือติดตัวเฉพาะบางกีฬาที่ GoPro รุ่นอื่นไม่สามารถจะทำได้นั่นเอง
นอกจากนี้ GoPro Hero 4 Session ยังสามารถเชื่อมต่อกับ Application GoPro ได้ทั้ง Android และ iOS เพื่อเชื่อมต่อและนำภาพสดจากการถ่ายภาพวีดีโอได้อย่างต่อเนื่อง และควบคุมได้ง่าย รวมทั้งสั่งเปิดปิดกล้องได้ยังกับ รีโมต
(ตัวอย่างภาพถ่ายจาก GoPro Hero 4 Session)
สรุป GoPro Hero 4 Session เป็นกล้องที่มีขนาดจิ๋วและเล็กที่สุดที่ GoPro เคยทำมา เพื่อตอบสนองคนชอบกีฬาผาดโผนและใช้งานดำน้ำไม่ถึงกับลึกมาก และต้องการกล้องที่มีขนาดเล็กใช้กับพื้นที่ ๆ ยากจะเข้าถึงเมื่อเทียบกับ GoPro ปกติ แต่ต้องทำใจว่า มันไม่มีจอ, มันจะเล็กจนไม่สามารถใส่เซนเซอร์กล้องที่ละเอียดเท่าตัวแพงได้
แต่แลกกับความทนทานสุดยอดของมัน คงทำให้หลายคนสามารถเลือกได้ เหลือแค่ว่า ค่าตัวอยู่ที่ 14,800 บาท เท่ากับ Hero 4 Sliver อันนี้ก็ลองคิดดูกันเองว่าจะเลือกตัวไหน แต่ท้ายที่สุดแล้วถ้าให้ผู้เขียนเลือกนั้น ผมจะเลือกตัวนี้ก็เพียงพอแล้ว เพราะชอบตัวเล็กกว่านั่นเอง
ข้อดี
- ขนาดเล็ก
- ฟังก์ชั่นครบถ้วน
- รองรับ WiFi Direct
- แบตเตอร์รี่ทนทานมาก
- ทนน้ำทนตกได้ (เก่งจริง ๆ เลยนะตัวแค่นี้)
ข้อเสีย
- ยอมว่าเล็กและจอภาพไม่มี เว้นแต่ต้องเชื่อมกับ Smart Phone
- การกดเลือกเมนู เข้าใจยาก
- ราคาเท่ากับ Hero 4 Sliver (จุดนี้อาจจะทำให้มันขายยาก)
- Housing ที่ให้มา ถ้าใส่ด้านผิด จะกดปุ่มเลือกเมนูไม่ได้เลย