7 อาชีพเหลือเชื่อที่จะเกิดขึ้นในอีก 10 ปีข้างหน้า
ดิจิทัลทำให้โลกทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีใหม่ๆ ทำให้เกิดสถานที่ทำงานที่ทันสมัย เพื่อตอบรับความต้องการของคนทำงานในรูปแบบใหม่ๆ รวมถึง 7 อาชีพเหลือเชื่อที่น่าจะเกิดใน 10 ปีข้างหน้า ดังนี้
1.Digital Detox Therapist (นักบำบัดการติดดิจิทัล)
หากทุกวันนี้หลายคนตื่นมาก็คว้าโทรศัพท์เลย ในอนาคตอาจมีคนจำนวนมากเช็คเมลบนเตียง รวมถึงไม่สามารถเอาตัวเองออกจากโลกดิจิทัลได้ นักบำบัดการติดดิจิทัลจะมาช่วยให้เราสามารถจัดการเวลาต่างๆ ได้ดีขึ้น รวมถึงมีการใช้งานดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
2. Crowd Funding Specialist (ผู้เชี่ยวชาญด้านการระดมทุน)
VC (venture capital) จะไม่ใช่ที่พึ่งของ Startup เสมอไป ในอนาคตผู้เชี่ยวชาญด้านการระดมทุน สามารถให้คำแนะนำบริษัทต่างๆ ร่วมลงทุนในธุรกิจหน้าใหม่อย่างใน Kickstarter หรือแคมเปญอินดี้ที่น่าสนใจ
3. Productivity Counselor (ผู้ให้คำแนะนำด้านการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ)
ต้องยอมรับว่าแม้เทคโนโลยีจะช่วยให้การทำงานต่างๆ ง่ายขึ้น แต่หลยาครั้งเทคโนโลยีเองก็ขัดขวางการทำงานหรือทำให้การทำงานเสียเวลา ผู้ให้คำแนะนำด้านการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยแนะนำวิธีการทำงานให้มี ประสิทธิภาพมากที่สุดโดยไม่กินเวลาส่วนตัวในชีวิต
4. Urban Shepherd (นักเคลื่อนไหวด้านอาหาร)
โลกกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วจนเกิดสังคม 'เมือง' มากมาย ในขณะที่การผลิตอาหารนั้นมีอยู่อย่างจำกัด นักเคลื่อนไหวด้านอาหารจะคอยตรวจตราให้มีปริมาณอาหารเพียงพอสำหรับเลี้ยงคน ในเมือง รวมถึงมีการจัดการการผลิตอาหารอย่างยั่งยืนด้วย
5. Vicarious Videographer (วิดิโอกราฟเฟอร์)
วิดิโอกราฟเฟอร์จะเดินทางไปรอบโลก เพื่อถ่ายวิดิโอบอกเล่าประสบการณ์ที่แปลกและแหวกแนว โดยใช้ lifelogging หรือ GoPro ในการถ่ายภาพ แล้วส่งวิดิโอมาให้คนทางบ้านนั่งชมไปพร้อมๆ กัน
6. Quantified-Self Personal Trainer (เทรนเนอร์ส่วนตัวสุดเอ็กคลูซีฟ)
โลกดิจิทัลและเทคโนโลยีทำให้สุขภาพของเราสามารถวัดผลได้ด้วยตัวเลขและ เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม และในอนาคตนี้อาชีพใหม่อย่างเทรนเนอร์ส่วนตัวจะสามารถนำค่าต่างๆ ที่แสดงถึงสุขภาพของเรามาปรับใช้ เพื่อช่วยดูแลสุขภาพและรูปร่างของเราได้ดียิ่งขึ้น
7. Cultural Intelligence Agent (ทูตวัฒนธรรม)
ในอนาคตหากใครมีความหลงไหลในด้านใดด้านหนึ่ง เช่น เพลง ดนตรี เกม ดีไซน์ และสามารถที่จะโน้มน้าวให้คนอื่นให้เห็นไปในทางเดียวกันได้ พวกเขาเหล่านั้นสามารถมีอาชีพที่เรียกว่าทูตวัฒนธรรม เพราะคอยเติมเชื้อให้คนอื่นๆ ตลอดเวลา รวมถึงมีส่วนร่วมในการสร้างการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ
ที่มา : Mashable
สนับสนุนเนื้อหา: thumbsup.in.th