รีวิว Lenovo VIBE Shot กล้องถ่ายรูปในร่างสมาร์ทโฟน
Lenovo VIBE Shot สมาร์ทโฟนหน้าจอขนาด 5 นิ้ว Full HD 1080p กันรอยขีดข่วนด้วยกระจก Gorilla Glass ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
ฟีเจอร์เด่นอยู่ที่กล้องความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ประกอบด้วย 6 ชิ้นเลนส์ พร้อมแฟลชสามสี (Tri-color LED)ระบบกันภาพสั่นไหวและอินฟราเรดเพื่อโฟกัสได้เร็วขึ้น โดยมีปุ่มกดชัตเตอร์อยู่ตรงขอบเครื่องด้านขวา
สรุปข้อมูลและสเปค Lenovo VIBE Shot
- ราคาเปิดตัว 11,990 บาท (สิงหาคม 2558)
- ขนาดตัวเครื่อง 142 x 70 x 7.3 มม.
- น้ำหนัก 145 กรัม
- 2G : GSM 850 / 900 / 1800 / 1900 MHz
- 3G : HSDPA 850 / 900 / 1700 / 1900 / 2100 MHz
- 4G : LTE 800 / 1800 / 2100 / 2600 MHz
- รองรับ 2 ซิม (micro SIM + micro SIM)
- หน้าจอแสดงผลขนาด 5 นิ้ว IPS LCD Full HD (1080 x 1920 พิกเซล)
- ระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop
- ชิปเซ็ต Qualcomm MSM8939 Snapdragon 615
- ซีพียู 64 บิต Octa-core (Quad-core 1.7 GHz Cortex-A53 & Quad-core 1.0 GHz Cortex-A53)
- กราฟิก (GPU) Adreno 405
- หน่วยความจำ RAM 3 GB
- หน่วยความจำ ROM 32 GB เพิ่มความจำภายนอกได้ด้วย microSD สูงสุด 128 GB
- กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล แฟลชสามสี (Tri-color LED) ระบบกันภาพสั่นไหว (OIS) และอินฟราเรดโฟกัส
- กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล
- รองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, Bluetooth 4.1
- GPS/ A-GPS
- วิทยุ FM
- แบตเตอรี่ Li-Po 3,000 mAh (ถอดเปลี่ยนเองไม่ได้)
แกะกล่องและอุปกรณ์ในกล่อง
Lenovo VIBE Shot มาในกล่องด้านบนสีดำพร้อมลายคำว่า VIBE ตัดกับด้านหลังกล่องสีแดง อุปกรณ์ที่มาในกล่องได้แก่
- ตัวเครื่อง Lenovo VIBE Shot และแบตเตอรี่ในตัว
- เคสพลาสติกใส
- อะแดปเตอร์
- สาย microUSB
- หูฟัง
- คู่มือใช้งาน
- เข็มสำหรับจิ้มถาดใส่ซิม
ตัวเครื่อง ดีไซน์ และหน้าจอแสดงผล
Lenovo VIBE Shot ดีไซน์ก็เป็นไปตามสมัยนิยม เรียบหรู และด้วยจุดเด่นอยู่กล้องถ่ายรูปทำให้การดีไซน์ผสมผสานความกล้องเข้าไปด้วย โดยมีปุ่มกดชัตเตอร์และปุ่มเลือกใช้โหมดกล้องอยู่ตรงขอบเครื่องด้านขวา ส่วนด้านหน้ากับด้านหลังครอบด้วยกระจกกันรอย ขนาดตัวเครื่องบาง 7.3 มม.
หน้าจอแสดงผลของ VIBE Shot มีขนาด 5 นิ้ว Full HD ความหนาแน่นของจุดพิกเซลประมาณ 441 พิกเซลต่อนิ้ว ตัวเครื่องอาจจะดูค่อนข้างใหญ่กว่ารุ่นอื่นที่มีขนาดหน้าจอเท่ากัน เพราะว่า VIBE Shot ต้องมีพื้นที่ด้านล่างหน้าจอสำหรับปุ่มนำทาง จึงทำให้ตัวเครื่องดูยาวขึ้นนั่นเอง
เหนือหน้าจอมีเลนส์กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, ลำโพงเสียงสนทนา และไฟแจ้งเตือน LED
ด้านล่างหน้าจอมีปุ่มนำทางแบบสัมผัส 3 ปุ่ม เริ่มจากด้านซ้าย ได้แก่ ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ
ขอบด้านบนตัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. และไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน
ขอบด้านล่างตัวเครื่องมีไมโครโฟน, ลำโพง และพอร์ตเชื่อมต่อขนาด microUSB เวอร์ชั่น 2.0
ขอบด้านขวามีปุ่มปรับระดับเสียง, ปุ่ม Power สำหรับปิด/เปิดเครื่องหรือปิด/เปิดหน้าจอ, ปุ่มเลือกการใช้งานโหมดกล้องถ่ายรูป และปุ่มชัตเตอร์
ขอบด้านซ้ายมีช่องถาดใส่ซิมการ์ดขนาด micro SIM จำนวน 2 ซิม และช่องถาดใส่ microSD card รองรับความจุสูงสุด 128GB หลายคนน่าจะชอบตรงนี้เพราะว่าสมาร์ทโฟนในปัจจุบันที่รองรับ 2 ซิมการ์ดจะรวมช่องใส่ microSD กับช่องใส่ซิมด้วยกันทำให้ต้องเลือกว่าจะใส่ซิมหรือ microSD แต่ VIBE แยกมาให้ทั้งหมด
ด้านหลังตัวเครื่องมองแล้วให้ความรู้สึกเหมือนกล้องดิจิตอล ลักษณะผิวเรียบครอบด้วยกระจก ภายในมีแบตเตอรี่ขนาด 3,000 mAh
VIBE Shot มีเลนส์กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, แฟลชสามสี (Tri-color LED) และอินฟราเรดออโต้โฟกัส
อินเตอร์เฟซและฟังก์ชั่นการใช้งาน
Lenovo VIBE Shot รันระบบปฏิบัติการ 5.1 Lollipop ซึ่งในหน้าล็อคสกรีนสามารถปัดขึ้นเพื่อเข้าสู่หน้าหลักหรือหน้าโฮม หรือจะแตะที่ไอคอนโทรศัพท์เพื่อปลดล็อคเข้าใช้งานเมนูการโทร และแตะไอคอนกล้องเพื่อปลดล็อคเข้าใช้งานแอพกล้องถ่ายรูปได้ทันทีเช่นกัน
ในหน้าโฮมจะแสดงไอคอนแอพพลิเคชั่นทั้งหมดที่มีการติดตั้งบนตัวเครื่อง เนื่องจาก VIBE Shot รวมถึงสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่หลายรุ่นจะไม่มีในส่วนของ App Drawer แล้ว ทำให้แอพพลิเคชั่นทุกตัวถูกจัดเรียงไว้ที่หน้าโฮมทั้งหมดรวมกับวิดเจ็ต
หน้าโฮมสามารถเพิ่มได้โดยการจีบสองนิ้วเข้ากันในหน้าโฮม และสามารถเพิ่มหรือแก้ไขวิดเจ็ตได้ด้วยการแตะค้างไว้บริเวณพื้นที่ว่างใน หน้าโฮม หรือใช้นิ้วลากจากขอบด้านล่างหน้าจอขึ้นมาเพื่อเรียกใช้งานเมนูปรับแต่งหน้า จอก็ได้เช่นกัน ได้แก่ เลือกธีม, เปลี่ยนภาพพื้นหลัง เป็นต้น
เมื่อลากจากขอบด้านบนหน้าจอลงมาจะเป็นในส่วนของการแจ้งเตือน ซึ่งจะแสดงรายการแจ้งเตือนต่าง ๆ เลือกแตะที่รายการเพื่อเปิดู หรือปัดซ้าย/ขวาเพื่อลบกาาแจ้งเตือน และส่วนของ Controal Panel ซึ่งใช้สำหรับปิด/เปิดการทำงานต่าง ๆ นอกจากนี้ก็มีเมนูสำหรับจับภาพหน้าจอให้ด้วย
สำหรับใครที่เบื่อหน้าตาระบบเดิม ๆ อยากเปลี่ยนหน้าตาใหม่ เข้าไปที่ระบบธีมของ Lenovo ที่มากับเครื่องก็มีให้เลือกดาวน์โหลดใช้งานฟรีอีกเพียบ
Lenovo VIBE Shot รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด เลือกได้ว่าจะให้ซิมใดรับเครือข่าย 3G/4G LTE ได้จากเมนูตั้งค่าในเครื่อง เมื่อเลือกซิมแล้ว อีกซิมก็จะสลับไปเป็น 2G อัตโนมัติ ซึ่งหมายความว่าช่องใส่ซิมทั้ง 2 ช่องสามารถเลือกรับเครือข่าย 3G/4G LTE ได้ เพียงแต่สามารถใช้งาน 3G/4G LTE ได้เพียง 1 ซิมเท่านั้น
Lenovo VIBE Shot รองรับ 3G ทุกเครือข่ายในไทย และรองรับ 4G LTE คลื่นความถี่ 2100 MHz ในไทยขณะนี้ได้ รวมถึงคลื่น 1800 MHz ที่จะใช้งานกันได้ในอนาคตด้วย
ฟีเจอร์การสั่งงานขณะหน้าจอปิดที่น่าสนใจ
- จับภาพด่วน เป็นฟีเจอร์เปิดกล้องและถ่ายรูปแบบด่วนขณะหน้าจอปิดอยู่ โดยการกดปุ่มลดเสียงหรือเพิ่มเสียงก็ได้ 2 ครั้งติดกัน กล้องจะถูกเปิดขึ้นมาพร้อมกับถ่ายรูปทันที
- เพิ่มความสว่างหน้าจอ เพียงเคาะหน้าจอ 2 ครั้งขณะหน้าจอปิดอยู่เพื่อเปิดหน้าจอขึ้นมาแทนการกดปุ่ม Power
Smart scene (ฉากอัจฉริยะ) เป็นฟีเจอร์สำหรับการใช้งานที่มีการปรับตั้งค่าให้เหมาะสมกับช่วงเวลาหรือ สถานการณ์ต่าง ๆ เช่น การนอน, การประชุม เป็นต้น ซึ่งแต่ละโหมดสามารถปรับตั้งช่วงเวลาและการปิดการใช้งานฟังก์ชั่นระบบได้ เช่น เวลานอน ตั้งเวลาไว้ตั้งแต่ 22.00-6.00 น. ให้เปิดโหมดเครื่องบิน และเสียง เป็นต้น
Wide touch (ไวด์ทัช) คือปุ่มลอยอยู่เหนือหน้าจอ (คล้าย ๆ กับปุ่ม Assistive Touch ของ iOS) สำหรับแตะเพื่อเรียกใช้งานเมนูและแอพต่าง ๆ ซึ่งถูกตั้งมาให้โดยระบบ ยังไม่สามารถกำหนดเพิ่มเมนูหรือแอพตัวไหนที่เราใช้งานบ่อย ๆ มาไว้ในปุ่มนี้ได้
โหมดประหยัดพลังงานสำหรับยืดระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้น มีให้เลือกใช้งานหลัก ๆ 2 โหมด คือประหยัดแบตเตอรี่แบบธรรมดา คือปิดการทำงานเบื้องหลังและปิดการสั่น ส่วนอีกหนึ่งโหมดคือปิดการทำงานทุกอย่าง จะใช้งานได้เพียงเมนูการโทรและข้อความเพื่อประหยัดแบตเตอรี่ให้ได้ยาวนานที่ สุด เหมาะสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่ไม่สามารถหาที่ชาร์จแบตเตอรี่ได้
แอพน่าสนใจที่มากับเครื่อง
- SHAREit บริการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างสมาร์ทโฟนโดยไม่มีการเชื่อมต่ออิน เทอร์เน็ต การใช้งานง่าย ๆ แค่เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนที่ต้องการถ่ายโอนข้อมูลแล้วแตะปุ่ม รับ-ส่ง หรือตั้งค่าการแบ่งปันได้ ความเร็วในการรับส่งจะเร็วกว่าหลายเท่าหากเทียบ กับการส่งผ่าน Bluetooth ทั่วไป นอกจากนี้แล้วตัว SHAREit ยังรองรับการส่งหรือรับไฟล์ทั้งจากอุปกรณ์ Apple, Android แบรนด์อื่น และคอมพิวเตอร์ด้วย
- SYNCit เป็นระบบสำรองข้อมูลรายชื่อผู้ติดต่อ, ข้อความ SMS, บันทึกการโทรไปเก็บยังบริการคลาวด์ อีกทั้งยังสามารถสำรองข้อมูลผู้ไปไว้ที่ microSD card ได้ด้วย เมื่อสำรองไว้แล้วหากต้องการคืนค่าก็ทำได้ผ่าน SYNCit
- CLONEit เป็นฟีเจอร์สำหรับย้ายข้อมูลจากเครื่องเก่าไปยังเครื่องใหม่ ทั้งแอพพลิเคชั่น, รายชื่อติดต่อ, SMS, รูปภาพ และอื่น ๆ ซึ่งให้หลักการเดียวกันกับ SHAREit คือไม่ต้องต่ออินเตอร์เน็ต
ตรวจสอบเซ็นเซอร์ด้วย Android Sensor Box และมัลติทัช
- Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้
- Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม
- Orientation Sensor ระบบปรับมุมมองการแสดงผลหน้าจออัตโนมัติ
- Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน
- Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
- Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก
- รองรับมัลติทัชสูงสุด 10 จุด
VIBE Shot ไม่มี Gyro Sensor ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ 3 แกน ซึ่งเป็นตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นหลากหลายในการควบคุม
ทดสอบประสิทธิภาพการทำงาน
Lenovo VIBE Shot รันระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop ซึ่งเป็น 64 บิต, ชิปเซ็ต Qualcomm MSM8939 Snapdragon 615 ซีพียู 64 บิต Octa-core กับจีพียู Adreno 405 และแรม 3 GB
ผลการทดสอบ AnTuTu ในโหมด 64 บิต ซึ่งเป็นการทดสอบการเข้าถึงการทำงานของแรม (RAM) และประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือจีพียู (GPU) ทำคะแนนรวมได้ 39,298 คะแนน ระดับคะแนนถือว่าอยู่ในระดับกลาง ๆ และผลทดสอบคะแนนรวมจาก Quadrant Standard ได้ 24,833 คะแนน
ผลการทดสอบด้วย Geekbench 3 เพื่อวัดประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลโดยรวม ผลทดสอบ Single-core ทำได้ 709 คะแนน และ Multi-core ทำได้ 2,648 คะแนน
กล้องถ่ายรูป
Lenovo VIBE Shot มาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล (5328 × 2997 พิกเซล) แฟลชสามสี (Tri-color LED) ซึ่งเป็นโทนสีแตกต่างกัน 3 สีช่วยให้ภาพออกมาเป็นธรรมชาติมากกว่าเดิม มีระบบกันภาพสั่นไหว (OIS) และอินฟราเรดช่วยโฟกัสภาพได้เร็วขึ้นในที่แสงน้อย และกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล
เมนูการตั้งค่าในแอพกล้องเลือกอัตราส่วนภาพ 16:9 ได้โดยความละเอียดภาพยังเป็นความละเอียดสูงสุด, มีโหมด HDR, แนบแผนที่ลงบนภาพถ่าย และเลือกที่จัดเก็บภาพไปยัง microSD card ได้
กล้องของ VIBE Shot มาพร้อม Auto Mode และ Pro Mode ซึ่งสามารถเลือกสลับใช้งานได้โดยการเลื่อนปุ่มที่ขอบด้านข้างตัวเครื่อง โดย Pro Mode สามารถควบคุมค่าการเปิดรับแสงของกล้อง (Exposure), ความไวแสง (ISO), สมดุลแสงสีขาว (White Balance),ความเร็วชัตเตอร์ (Shutter speed), การเลือกโฟกัส (Manual Focus) และอื่น ๆ
นอกจากนี้แล้วก็ยังมีโหมดสำเร็จให้เลือกใช้งานกันด้วย ได้แก่ พาโนรามา, ทิวทัศน์กลางคืนแบบซุปเปอร์, HDR ศิลปะ, เบลอพื้นหลัง, การถ่ายภาพตนเองแบบพาโนรามา และรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุด 1080p
โหมดการถ่ายภาพตนเองแบบพาโนรามา น่าจะถูกใจผู้ที่ชอบการเซลฟี่แบบกลุ่ม ด้วยโหมดนี้จะเป็นการถ่ายภาพ 3 ช็อตคือ ตรงกลาง ไปทางซ้าย และไปทางขวา จากนั้นระบบจะนำภาพมาประมวลผลเป็นภาพเดียว คราวนี้เพื่อนไม่ตกเฟรมแน่นอนครับ
ภาพด้านยนนี้เป็นตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าด้วยโหมดพาโนรามาเซลฟี่ หรือ Wide Selfie ในแนวตั้งแนะแนวนอน จะเห็นว่าให้มุมที่กว้างมาก เหมาะกับการถ่ายเซลฟี่เป็นกลุ่มหรือเก็บภาพวิวฉากหลังสวย ๆ เวลาเซลฟี่
ตัวอย่างภาพถ่าย
สรุปจุดเด่น
- หน้าจอ 5 นิ้ว IPS Full HD
- ระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop
- ชิปประมวลผล Snapdragon 615 Octa-core 64 บิต
- แรม 3 GB
- กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล มีแฟลชสามสี (Tri-color LED), ระบบกันภาพสั่นไหว (OIS) และอินฟราเรดโฟกัส
- กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล
- รองรับการใช้งาน 2 ซิม และใช้งาน 4G LTE ในไทยได้
- เพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ด้วย microSD สูงสุด 128GB
- ฟีเจอร์การใช้งานหลากหลาย
จุดสังเกตเพิ่มเติม
- กล้องความละเอียดสูง แต่ไม่รองรับการบันทึกวิดีโอ 4K ด้วยข้อจำกัดของชิปประมวลผล
สนับสนุนเนื้อหา: iphone-droid.net