ประสบการณ์ครั้งแรกในการใช้งาน Huawei P8 เชื่อเถอะถูกใจคนชอบถ่ายรูปแน่นอน

       ในที่สุดก็เปิดตัวให้เราเห็นพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัวแล้วครับสำหรับครอบครัว Huawei  family ที่ล่าสุดได้ทำการเปิดตัว Huawei P8 Premium และ Huawei P8 Max เพิ่มเติมอีก 2 รุ่นหลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ทำการเปิดไปแล้ว 2 รุ่นนั้นคือ Huawei P8 และรุ่น P8 Lite

      ล่าสุดทาง Sanook! Hitech ได้มีโอกาสไปร่วมงาน Huawei P8 Series Blogger Day ที่จัดขึ้นเพื่อเป็นการประกาศอย่างเป็นทางการว่าครอบครัว Huawei P8 ได้มากันครบทั้ง 4 รุ่นแล้วนั้นเอง ก่อนเริ่มรีวิวก็มาดูภาพบรรยากาศของในงานที่ผ่านมากันก่อนดีกว่าครับ สนุก และเป็นกันเองแบบสุดๆ

      อย่างที่บอกละครับว่าในงานเค้าทำการเปิดตัว 2 รุ่นใหม่ด้วยความที่เวลาในการทดลองเล่นเครื่องนั้นยังน้อยไป ทางทีมงาน Sanook! Hitech เลยยังไม่ได้ทำการรีวิวทั้ง 2 รุ่นในตอนนี้

      ดังนั้นบทความนี้จึงเป็นการนำเครื่อง Huawei P8 ที่ได้เปิดตัวไปก่อนหน้านี้มารีวิวให้ได้อ่านกันก่อนครับ ในส่วนของ Huawei P8 Premium และ Huawei P8 Max ทางทีมงานขอติดไว้ในบทความหน้า

      มาดูกันว่า เมื่อต้องมาใช้งานจริงจะน่าใช้ตามที่มีการพรีเซนต์หรือไม่ สำหรับใครที่อยากอ่านรีวิวของ Huawei P8 Lite ก็สามารถเข้าไปอ่านได้ที่ >>> [รีวิว] Huawei P8 Lite เชื่อหรือไม่ นี่คือมือถือราคา 7,990 บาท แต่ทำได้ดีกว่าที่คาด ถือว่าเป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจเช่นกันครับ

      รูปร่าง เริ่มจากหน้าจอ IPS LCD ขนาด 5.2 นิ้วความละเอียด Full HD (1920×1080) พร้อมกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล ตัวเครื่องไม่มีปุ่มกดอยู่ด้านหน้าแต่อย่างใด ขอบจอล้อมรอบด้วยสีดำ

      ด้านข้างขวา มีปุ่มปรับระดับเสียงแบบปกติ และ ปุ่ม Power ที่ขนาดเล็กและกดง่าย ขอบเครื่องเป็นโลหะ และมีการตกแต่งด้วยร่องสีดำอย่างสวยงามชัดเจน พร้อมช่องใส่ซิมแบบ Nano Sim 2 ช่องและช่องที่ใส่ซิม 2 สามารถเปลี่ยนมาใส่ MicroSD

      ทำให้ด้านข้างซ้ายไม่มีปุ่มแต่อย่างใด

      ด้านบนของตัวเครื่องนั้นเป็นตำแหน่งของไมโครโฟนตัวที่ 2 และ หูฟัง 3.5 มิลลิเมตร

      ด้านล่างมีลำโพง ไมโครโฟน และ Micro USB การตกแต่งระหว่างไมโครโฟนและลำโพงแบบคล้ายกันอาจจะทำให้สับสนได้

      ด้านหลังมีกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซลแบบแบน ๆ พร้อม LED Flash คู่เนื่องจากเครื่องที่ได้มานั้นเป็นสีดำทำให้ขอบชิ้นส่วนนี้เป็นสีดำ แผ่นหลังเครื่องเป็นโลหะ เพราะเฟรมเครื่องเป็นโลหะทั้งหมด ทำให้ดู Sleek อย่างมาก และมีรอยต่อที่ดูเนียนความจริงมันคือเสาอากาศที่ 2 จากรูปร่างที่ปรากฏ

      ตัวเครื่องออกแบบได้สวยมากและจับได้ถนัดมือ และให้ความรู้สึกใหญ่กว่า P7 อย่างชัดเจน แต่ส่วนหลังที่เป็นกล้องใช้กระจกบางทีต้องระวังเรื่องเป็นรอยสักหน่อย และรองรับแค่ Nano Sim อย่างเดียว

ประสิทธิภาพ Huawei P8 เลือกขุมพลังดังนี้

      จากการลองใช้พบว่าเล่นเกมทำได้ดีลื่นไหลใช้ได้ทั้งเกมเบาและหนักสามารถ ตอบสนองกับ CPU Kirin 930 Octacore ผลิดโดย Huawei และ GPU Mali-T628 MP4 ได้ดีมาก การใช้งานลื่นไหลไม่กระตุก อาจจะมีบ้างกับบาง Apps เช่น LINE ที่ต้องอัพเกรด Firmware จนเครื่องเสถียรขึ้นมา

      ส่วนคะแนนนั้น Antutu ทำได้ 36802 คะแนน Geekbench Single Core ทำได้ 563 คะแนน Multi Core 2453 คะแนน และ PC Mark 3691 ทำให้ผลที่จะบอกต่อไปนี้คือ คะแนนตามหลัง Samsung Galaxy S6 เยอะ แต่ไม่ห่างมากกับ LG G4 มัลติทัชรองรับ 10 จุด (ย้ำว่าคะแนน Benchmark ไม่ใช่จุดชี้วัดว่าเครื่องจะดีเสมอไป)

      ส่วนหน้าจอ IPS Neo-LCD ขนาด 5.2 นิ้วความละเอียด Full HD (1920×1080) ที่จริงความละเอียดเท่านี้เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปแล้วข้อดีคือการตอบสนอง ดีใช้ได้สู้แสงดี(เรียกว่าสู้ตายเลยดีกว่า) ส่วนเซนเซอร์ปรับแสง มีมาให้ครบ และทำงานว่องไวตามเคย

      แบตเตอร์รี่ขนาด 2680 mAh ถือว่ามากพออยู่กับสเปคขนาดนี้ด้วย CPU จะมี Mode ของการใช้พลังงานให้เลือก ทั้งแบบ Normal, Smart, Ultra Saving ส่วนคะแนนทดสอบ Battery ได้ทั้งสิ้นตามภาพครับ

คุณสมบัติเด่น ของ Huawei P8 ที่คุณสามารถสัมผัสได้นั้นเช่น

      EMUI (Emotion UI) เวอร์ชั่น 3.1 ที่ยังคงความใช้งานไม่มี Apps Drawer และจัดวางทุกอย่างให้เข้าใจง่ายรองรับกับ Android 5.0.2 ที่ติดตั้งมาพร้อมกับเครื่อง และ Wallpaper หน้า Lock Screen ยังเปลี่ยนแปลงตลอดหรือเราสามารถตั้งค่าได้ และยังมีช่องทางลัดให้ได้ใช้งาน หากเบื่อหน้าตาเดิม ๆ สามารถหา Theme มาใส่เพิ่มได้

      เมื่อหน้าจอใหญ่ไปสามารถย่อหน้าจอได้ง่ายเพียงกดปุ่ม Home แล้วสไลด์ไปทางขวาหน้าจอจะเล็กมา ซึ่งมองว่า แบบนี้เหมาะสมกับ P8 Max มากกว่า ปุ่ม Soft Key สามารถเปลี่ยนตำแหน่งการกดได้อีกด้วย

      Motion Control ควบคุมการใช้งานผ่านทางทางเช่น การพลิกเครื่องเพื่อให้เงียบ หรือจะเพิ่มเสียงในกระเป๋า และยังมีอื่น ๆ อีกมากมายเช่น Do Note Disturb Voice Wakeup เป็นต้น

      Phone Manager ระบบจัดการโทรศัพท์ที่สามารถลบสิ่งที่ไม่ต้องการจัดการพลังงานและทำให้เครื่องมีความเสถียรต่อการใช้งานได้อีกด้วย

      ส่วนเรื่องความบันเทิงยังให้ FM Radio พร้อมระบบเสียง DTS สำหรับการฟังเพลงซึ่งจากการลองฟังแล้วพบว่าเสียงที่ออกมาอิ่มและกลมกล่อม สำหรับคนที่ชอบเบสหนักกว่าอื่น ๆ ซึ่งมันจะปรับตามเพลงไปตามปกติ นอกจากนี้ยังมี Director Mode สามารถเชื่อมต่อ Huawei P8 พร้อมกัน 3 เครื่องถ่ายวีดีโอและกำกับเป็นภาพยนตร์ในมือคุณได้อีกด้วย

      ส่วนเครื่องมือและระบบจัดการชีวิตประจำวันยังคงปฏิทิน เครื่องคิดเลข เครื่องอัดเสียง ระบบจัดการซิมทั้ง 2 กระจกส่องหน้า และ ไฟฉาย

      สำหรับเรื่องกล้องของ Huawei P8 เป็นกล้อง 13 ล้านพิกเซล พร้อม Auto Focus และ Dual LED Flash แบบ True Tone ความแตกต่างจากกล้องของ Flag Ship คือการใส่เลนส์ 5 ชิ้นและระบบป้องกันภาพสั่นไหว ค่า F Stop 2.0 พร้อมกับความบางของเลนส์กล้องเมื่อเทียบกับ Galaxy S6 และ iPhone 6 ชัดเจน

      จากการลองถ่าย มันให้ผลที่ว่องไวและสามารถใช้งานได้ดี นอกจากนี้ยังมี Mode ให้เลือกมากมายทั้ง HDR Super Night Mode, Panorama, ถ่ายบันทึกเสียง, Time Lapse, Slow-mo เด่นสุดที่ Light Painting ที่ลดความเร็วชัตเตอร์หน่วงให้สามารถวาดแสงไฟได้ แต่ต้องอยู่สภาพแสงน้อยจึงจะออกมาดูดี การถ่ายวีดีโอ ทำได้ละเอียดสุด 1920×1080 เท่านั้น

      ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล จุดเด่นที่ต้องพูดเลยคือเลนส์กล้องหน้ากว้าง แต่ค่า F 2.4 ยังมากกว่า Samsung Galaxy S6 และ LG G4 จุดเด่นคือมี Beauty Mode ที่ปรับได้ 2 แบบคือ Perfect Beauty ที่สามารถปรับแต่งโดยอัตโนมัติและแบบปรับเอง

      มาดูในส่วนของภาพถ่ายที่ได้จากการนำกล้อง ไปถ่ายยังสถานที่ต่างๆ กันบ้างดีกว่าครับ

      ไฮไลน์ของกล้องรุ่นนี้คือฟังก์ชั่น  Light Painting  ที่ในงาน(Huawei P8 Series Blogger Day)ได้มีการโชว์การควงไฟ ให้เราได้ทดสอบฟังก์ชั่นดังกล่าวกันด้วยครับ มาดูกันว่าคุณภาพของกล้องจะดีจริงสมคำร่ำลือไหม?

ส่งท้ายกันด้วยตัวอย่างการถ่ายวีดีโอ Huawei P8

สรุป Huawei P8 กับความประทับใจทั้งหมด

      ถือว่าเป็น Smart Phone ตัวท็อปรุ่นที่ 3 ที่เข้าในประเทศไทยตามหลังคู่แข่งไม่ไกลนัก ด้วยความโดดเด่นของลูกเล่นที่เยอะจนเรียกว่าเป็นนวัตกรรมที่น่าใช้งานและ ราคาเครื่องเพียง 15990 บาท จึงเป็นทำให้น่าสนใจกว่าในระดับเดียวกัน แต่บางอย่างต้องยอมรับเมื่อราคาถูกกว่าอาจจะยังไม่ได้แต่ภาพรวมแล้วนี่คือ Huawei อีกรุ่นหนึ่งที่สวยและสามารถใช้งานได้สมบูรณ์ในชีวิตประจำวันอีกรุ่นหนึ่ง

     ความประทับใจของ Huawei P8 เป็น Smart Phone ที่รองรับ 4G Cat 6 ที่ออกตามหลังกับคุณสมบัติลูกเล่นกล้องที่ไม่แพ้กลุ่มราคา 2 หมื่น สเปคสามารถตอบสนองการใช้งานได้ครบ พร้อมนวัตกรรมเพียบ ในราคาหมื่นกลาง ๆ

     สิ่งที่ต้องปรับปรุง แม้ว่าจะออกแบบได้ดีลูกเล่นเยอะจนน่าสนใจ แต่คะแนน Benchmark น้อยไปหน่อย ความละเอียดหน้าจอตามหลังเพื่อนในกลุ่ม และ การออกแบบกล้องหลังที่เป็นกระจกทั้งแผ่นทำให้เป็นห่วงเรื่องเมื่อเป็นรอย แถมได้กลิ่นการออกแบบเหมือนค่าย Apple ค่อนข้างมากอยู่

      สำหรับผู้ใช้งานและสาวกแอนดรอยด์สมาร์ทโฟนจากหัวเว่ย เตรียมพบกับเงื่อนไขสุดพิเศษของพีแปด ซีรีส์ และสมาร์ทโฟน, แท็บแล็ต รุ่นต่างๆกว่า 20 รุ่นที่รวมรวมโปรโมชั่นสุดคุ้มมูลค่า 3,000 บาทได้ในงาน Thailand Mobile Expo 2015 ตั้งแต่วันที่ 1 – 4 ตุลาคม 2558  ณ บูธ 2L3  โซนพลาซ่า และ บูธ PM10 เพนนารี่ฮอลล์