รีวิว ASUS ZenFone 2 Deluxe ฝาหลังลายคริสตัล พื้นที่จัดเก็บรวมสูงสุด 256GB
ASUS ZenFone 2 Deluxe โดดเด่นในงานดีไซน์ฝาหลังแบบคริสตัล ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Intel Atom ให้ความจำแรมมากถึง 4GB และความจุตัวเครื่องมากที่สุด 128GB แถมเพิ่ม microSD card ได้อีกด้วย
สรุปข้อมูลและสเปค ASUS ZenFone 2 Deluxe ZE551ML (Z00AD)
- ราคาเปิดตัว 12,990 บาท (ตุลาคม 2558)
- ขนาดตัวเครื่อง 152.5 x 77.2 x 10.9 มม.
- น้ำหนัก 170 กรัม
- 2G : GSM 850 / 900 / 1800 / 1900 MHz
- 3G : HSDPA 850 / 900 / 1900 / 2100 MHz
- 4G : LTE Cat6 300/50 Mbps 1(2100), 2(1900), 3(1800), 5(850), 7(2600), 8(900), 20(800)
- รองรับ 2 ซิม (micro SIM + micro SIM)
- หน้าจอแสดงผลขนาด 5.5 นิ้ว IPS Full HD ความละเอียด 1080 x 1920 พิกเซล
- ระบบปฏิบัติการ Android 5.0 Lollipop
- ชิปเซ็ต Intel Atom Z3580
- ซีพียู Quad-core 2.3 GHz
- กราฟิก (GPU) PowerVR G6430
- หน่วยความจำ RAM 4 GB
- หน่วยความจำ ROM 128 GB เพิ่มความจำภายนอกได้ด้วย microSD สูงสุด 128 GB
- กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล แฟลช True Tone Dual-LED
- กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล
- รองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 4.0
- GPS/ A-GPS
- แบตเตอรี่ Li-Po 3,000 mAh
แกะกล่อง
ASUS ZenFone 2 Deluxe มาในกล่องกระดาษสี Illusion Blue ซึ่งเป็นโทนสีเดียวกับฝาหลังตัวเครื่อง อุปกรณ์ภายในกล่อง ได้แก่ ตัวเครื่อง ZenFone 2 Deluxe พร้อมแบตเตอรี่, อะแดปเตอร์, สาย microUSB, หูฟังกับปลอกสวมหูฟัง และคู่มือการใช้งาน
ตัวเครื่อง ดีไซน์ และหน้าจอแสดงผล
ASUS ZenFone 2 Deluxe มีขนาดตัวเครื่องและดีไซน์โดยรวมแล้วก็คือ ZenFone 2 แต่เพิ่มความโดดเด่นด้วยฝาหลังที่มีการตัดพื้นผิวแบบคริสตัล ซึ่งเป็นการตัดลายลงบนพื้นผิวจริง ๆ ไม่ใช่การใช้เทคนิคการเพิ่มลาย ทำให้เกิดมุมสะท้อนและให้แสงเงาเมื่อแสงตกกระทบ
ตัวเครื่องด้านหลังมีความโค้งเว้าที่เรียกว่า Arc Design สอดรับกับอุ้มมือเมื่อจับเมื่อใช้งาน ทำให้จับกระชับมือ และด้วยพื้นผิวที่แปลกใหม่ ไม่เรียบ ทำให้จับถนัดมือ ไม่ลื่นด้วย ซึ่งส่วนที่บางที่สุดของขอบตัวเครื่องอยู่ที่ 3.9 มม.
หน้าจอของ ZenFone 2 Deluxe มีขนาด 5.5 นิ้ว IPS Full HD ให้สัดส่วนหน้าจอมาประมาณ 70.8% ของพื้นที่ตัวเครื่อง ความหนาแน่นประมาณ 401 พิกเซลต่อนิ้ว ซึ่งความหนาแน่นระดับนี้ให้ความคมชัดแน่นอน และปกป้องหน้าจอด้วยกระจก Gorilla Glass 3
เหนือหน้าจอมีช่องลำโพงเสียงสนทนา, เลนส์กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และไฟแจ้งเตือนเล็ก ๆ จะส่องสว่างเมื่อมีการแจ้งเตือน
ล่างหน้าจอมีปุ่มนำทาง 3 ปุ่ม เริ่มจากซ้ายสุดเป็นปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโอม และปุ่ม Recent Apps ซึ่งทั้ง 3 ปุ่มไม่มีไฟส่องสว่าง ทำให้มองไม่เห็นเมื่อใช้งานในที่มืด
ขอบด้านซ้ายและด้านขวาไม่มีปุ่มใด ๆ
ขอบด้านบนจะเห็นรูเล็ก ๆ ซึ่งเป็นไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน, ปุ่มปิด/เปิดเครื่อง และช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม.
ขอบด้านล่างมีพอร์ตเชื่อมต่อ microUSB และไมโครโฟน
ด้านหลังมีเลนส์กล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช True tone และปุ่มปรับระดับเสียง บริเวณส่วนล่างจะมีชองลำโพง
ฝาหลังแกะเปิดได้ ภายในมีแบตเตอรี่ชนิด Li-Polymer ขนาด 3,000mAh ฝังติดกับตัวเครื่อง แกะถอดเองไม่ได้, ช่องใส่ซิมจำนวน 2 ช่องขนาด micro SIM โดยช่องใส่ซิม 1 สำหรับซิม 2G/3G/4G ส่วนช่องใส่ซิม 2 จะรองรับเฉพาะ 2G เพื่อใช้งานการโทรเท่านั้น และช่องใส่ microSD card ความจุสูงสุด 128GB
อินเตอร์เฟซและฟังก์ชั่นการใช้งาน
ASUS ZenFone 2 Deluxe รันระบบปฏิบัติการ Android 5.0 Lollipop ครอบด้วย ZenUI สามารถแสดงรายการแจ้งเตือนต่าง ๆ ในหน้าล็อคสกรีนได้ โดยในหน้าโฮมก็สามารถปรับแต่ง จัดเรียงไอคอนแอพฯ และเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์ได้ ส่วนแอพฯที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องดูเยอะเกิน ความจำเป็นเต็มไปหมด ไม่ได้มีเพียงแอพฯของ ASUS เอง แต่มีแอพฯจากบริษัทอื่นเพียบ
นอกจากนี้แล้วก็ยังสามารถเรียกเมนูจัดการหน้าโฮมโดยการแตะค้างบริเวณ พื้นที่ว่าง ๆ หรือปัดจากขอบด้านล่างหน้าจอขึ้นมาก็ได้ ซึ่งเราสามารถเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์, เอฟเฟ็กการเลื่อนหน้า
เมื่อจีบ 2 นิ้วเข้าหากันในหน้าโฮม จะเข้าสู่การจัดการหน้า สำหรับเพิ่มหรือลบหน้าโฮม และสามารถจัดการแก้ไขได้โดยการแตะค้างไว้ที่หน้าโฮมนั้น ๆ
ระบบธีมก็มีให้เลือกดาวน์โหลดใช้งานได้ฟรี
เมื่อเลื่อนแถบบาร์ด้านบนลงมาจะเป็นในส่วนของการแสดงรายการแจ้งเตือนต่าง ๆ และแผง Control panel สำหรับปิด/เปิดการทำงานเมนูระบบต่าง ๆ โดยไม่ต้องเข้าเมนูการตั้งค่าให้ยุ่งยาก
รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด โดยซิม 1 จะใช้งานเครือข่าย 2G/3G/4G ได้ ส่วนซิม 2 ใช้งานได้เฉพาะเครือข่าย 2G สำหรับการใช้งานการโทร
การเชื่อมต่ออื่น ๆ ก็รองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Wi-Fi Direct, Hotspot, ในส่วนของการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth เวอร์ชั่น 4.0 รองรับ A2DP หรือพูดง่าย ๆ ก็คือการส่งผ่านข้อมูลเสียงในแบบสเตอริโอนั่นเอง นอกจากนี้ก็มี GPS รองรับ A-GPS และ GLONASS อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี NFC ด้วย
ZenMotion หรือการใช้ท่าทางในการสั่งงาน ไดแก่ เคาะหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อปิด/เปิดหน้าจอ, วาดตัวอักษรขณะหน้าจอปิดอยู่เพื่อเรียกใช้งานแอพพลิเคชั่น และเคาะปุ่มโฮม 2 ครั้งเพื่อลดขนาดหน้าจอให้เล็กลงสำหรับใช้งานมือเดียว
ZenFone 2 Deluxe มีฟีเจอร์สำหรับเคสฝาพับแบบหน้าต่างวงกลมด้วย ช่วยให้สามารถใช้งานผ่านช่องหน้าต่างวงลมของฝาพับด้านหน้าได้ โดยไม่ต้องเปิดฝาเคส
ZenFone 2 Deluxe มีแบตเตอรี่ 3,000mAh รองรับเทคโนโลยี BoostMaster ซึ่งเป็นการชาร์จเร็ว โดยต้องใช้อะแดปเดอร์ที่มาในกล่อง และมีโหมดประหยัดพลังงานเพื่อช่วยจัดการพลังงานอีกด้วย
ตรวจสอบเซ็นเซอร์ด้วย Android Sensor Box และมัลติทัช
- Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้
- Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม
- Orientation Sensor ระบบปรับมุมมองการแสดงผลหน้าจออัตโนมัติ
- Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน
- Gyro Sensor ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ 3 แกน ซึ่งเป็นตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นหลากหลายในการควบคุม
- Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
- Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก
- รองรับมัลติทัชสูงสุด 10 จุด
ทดสอบประสิทธิภาพการทำงาน
ASUS ZenFone 2 Deluxe รันระบบปฏิบัติการ Android 5.0 Lollipop ซึ่งเป็น 32 บิต ในขณะที่ชิปเซ็ต Intel Atom Z3580 ซึ่งเป็นซีพียูแบบ 64 บิต Quad-core 2.3 GHz ทำให้ดึงประสิทธิภาพการทำงานได้ไม่เต็มที่ และจีพียู PowerVR G6430 กับแรม 4GB
ผลการทดสอบ AnTuTu ซึ่งเป็นการทดสอบการเข้าถึงการทำงานของแรมและประสิทธิภาพการทำงานของหน่วย ประมวลผลกราฟิกหรือจีพียู ทำคะแนนรวมได้ 48,091 คะแนน ระดับคะแนนถือว่าอยู่ในระดับที่ดีมากเมื่อเทียบกับรุ่นที่มีระดับราคาเดียว กัน และทำคะแนนได้ดีกว่า ZenFone 2 ZE551ML ที่เคยทำได้ 45,386 คะแนน ส่วนผลทดสอบคะแนนรวมจาก Quadrant Standard ได้ 12,307 คะแนน ซึ่งทำได้น้อยกว่าเมื่อเทียบกับ ZenFone 2 ZE551ML
ผลการทดสอบด้วย Geekbench 3 เพื่อวัดประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลโดยรวม ผลทดสอบ Single-core ทำได้ 910 คะแนน และ Multi-core ทำได้ 2,842 คะแนน
กล้องถ่ายรูป
ASUS ZenFone 2 Deluxe มีกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ประกอบด้วย 5 ชิ้นเลนส์ อัตราส่วนภาพ 4:3 ขนาดภาพ 4,096 x 3,072 พิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0 และแฟลชแบบคู่ True tone (Dual LED) สำหรับถ่ายภาพในที่แสงน้อย ช่วยให้ภาพที่ได้สมจริงมากขึ้น
การกดถ่ายรูปหรือชัตเตอร์สามารถทำได้ด้วยการแตะบนหน้าจอหรือตั้งค่าให้ ใช้ปุ่มลดเสียงสำหรับกดชัตเตอร์ได้ นอกจากนี้ปุ่มปรับระดับเสียงยังสามารถตั้งให้เป็นปุ่มกดสำหรับซูมภาพได้อีก ด้วย ตัวกล้องมาพร้อมโหมดการถ่ายภาพแบบอัตโนมัติ แตะหน้าจอเพื่อเลือกจุดโฟกัส และมีระบบแนะนำให้เปิด HDR ด้วย
กล้องหลังรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p
โหมดถ่ายภาพกลางคืน, พาโนรามา และ HDR เป็นต้น ซึ่งสามารถเลือกโหมดถ่ายทันได้ ไม่ต้องกดหนดค่าใด ๆ ในขณะที่โหมดกำหนดเอง หรือ Manual Mode สามารถกำหนดค่า White balance, ISO, EV และความเร็วชัตเตอร์ปรับได้นานสุดเพียง 1/2 วินาที
ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมโหมดเพิ่มความสวยงาม เอาใจคนรักเซลฟี่ และยังเอาใจคนชอบเซลฟี่เป็นกลุ่มด้วยโหมดเซลฟี่พาโนรามา
ตัวอย่างภาพถ่าย
สรุปจุดเด่น
- ฝาหลังดีไซน์สวยงาม
- รองรับ 2 ซิม ใช้งาน 4G ได้
- หน้าจอขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว IPS Full HD
- ระบบปฏิบัติการ Android 5.0 Lollipop
- ชิปเซ็ต Intel Atom Z3580 ซีพียู Quad-core 2.3 GHz
- แรม 4 GB
- ความจำตัวเครื่องให้มา 128 GB เพิ่มความจำภายนอกได้ด้วย microSD สูงสุด 128 GB รวมแล้ว 256GB
- กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล แฟลช True Tone Dual-LED
- กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ Li-Po 3,000 mAh
จุดสังเกตเพิ่มเติม
- ใช้งาน 3G/4G ได้เฉพาะช่องใส่ซิม 1 ส่วนช่องซิม 2 รองรับเฉพาะเครือข่าย 2G เท่านั้น
- ปุ่มนำทางล่างหน้าจอไม่มีไฟส่องสว่าง มองไม่เห็นที่มืด
สนับสนุนเนื้อหา: www.iphone-droid.net
ขอบคุณ ASUS ประเทศไทย