Ching Can Cook กนกวรรณ อัศวานุชิต เปลี่ยนการทำอาหารให้เป็นเรื่องง่าย

        การทำอาหารนอกจากฝีมือและใจที่รักจะทำแล้ว ยังต้องสามารถสรรหาเคล็ดลับและวัตถุดิบที่จะทำอาหารให้อร่อยอีกด้วย ซึ่งนับว่าเป็นศิลปะแขนงหนึ่งที่ต้องมีการฝึกฝนก่อนที่จะสร้างสรรค์ออกมาให้ได้รสชาติที่ถูกปากและถูกใจ เช่นเดียวกันกับแม่ครัว ชิ้ง - กนกวรรณ อัศวานุชิต เจ้าของเพจ FashionOnFood ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 260,000 คน หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ Ching Can Cook จากแม่บ้านที่ชื่นชอบในการทำอาหาร ทดลองทำตามสูตรต่างๆ ตามอินเทอร์เน็ต และสรรหาวิธีการที่ง่ายที่สุดมาแบ่งปัน ทำให้เธอกลายเป็นขวัญใจของบรรดาคนก้นครัวในปัจจุบัน

ส่งต่อเคล็ดลับการทำอาหารผ่านออนไลน์

        คนที่ไม่เคยได้ทำอาหาร หรือเพิ่งเริ่มต้นเข้าครัวนั้น อาจจะเกิดอาการสับสนในขั้นตอนต่างๆ ว่าจะเลือกหยิบจับอุปกรณ์ชิ้นไหน หรือต้องใช้ระยะเวลาเท่าไรในการทำให้สุก ซึ่งนับว่าต้องใช้เวลาทดลองอย่างมากกว่าจะประสบความสำเร็จสักจานหนึ่ง

        ชิ้ง เล่าว่า สำหรับตัวเองเริ่มต้นจากการที่เราชอบทำอาหารอยู่แล้ว เลยได้ทดลองทำเมนูใหม่อยู่เสมอ โดยจะดูจากอาหารที่ตัวเองชอบ แล้วทดลองทำดูให้ได้รสชาติที่ดี พอรู้ว่าตัวเองมีพรสวรรค์ทางด้านนี้เลยอยากที่จะแบ่งปันสิ่งที่ได้ลองผิดลองถูกมาแล้วให้กับคนอื่นๆ ด้วย จึงเริ่มต้นจากการทำเพจเฟซบุ๊กเพื่อเป็นพื้นที่สำหรับการแชร์สูตรอาหาร เพราะเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวและไม่มีต้นทุน

        "ช่วงเริ่มแรกก็ศึกษาผ่านทางอินเทอร์เน็ตเยอะ จะเน้นทำอะไรที่เราชอบ ส่วนใหญ่ก็เป็นอาหารไทยรสจัด แต่พวกฟิวชั่นก็มีด้วย แต่สิ่งที่เราถ่ายทอดให้คนที่ติดตามคือ เราหาวิธีที่ง่ายที่สุดมาบอกต่อ อย่างการหมักไก่ การทอดไก่ ซึ่งเป็นเรื่องยากของใครหลายคนก็เอามาทำให้ง่ายขึ้น เพราะอยากส่งเสริมให้คนทำอาหารกินเองไม่ต้องไปเรียน หรือซื้อกินแพงๆ คือเราเองก็ทำให้อร่อยได้เหมือนกัน"

คนติดตามจากความเป็นตัวเอง

        เอกลักษณ์ที่ทำให้มีคนเข้ามาติดตามแม่ครัวชิ้งเป็นจำนวนมากนั้น เพราะว่าความเป็นตัวเองที่เธอได้ใส่ลงไปในทุกๆ เนื้อหาจากความรักที่จะแบ่งปัน เธอต้องการที่จะถ่ายทอดสิ่งดีๆ ให้กับทุกคน

        "สิ่งหนึ่งที่ทำให้คนเข้ามาติดตามเพราะว่าเราเป็นเรา ชิ้งชอบแต่งตัว ก็จะแต่งชุดในชีวิตประจำวันเนี่ยแหละ ถ่ายรายการ เราไม่อยากพยายามอะไรมากมาย อย่างถ้ามีคนมาติดต่องานแต่ให้ถอดขนตาใส่ชุดเชฟก็ไม่เอา เพราะเราเองไม่ใช่แม่ครัวเต็มตัว เราเป็นคนที่ชอบทำอาหารและต้องการถ่ายทอดความรู้ของเราให้กับคนอื่น ดังนั้นเราก็คิดว่าการที่เราไม่ได้ปรุงแต่งอะไรก็จะอยู่ตรงนี้ไปได้นาน"

        สิ่งหนึ่งที่เธอให้ความสำคัญนอกจากการแต่งตัว และตั้งใจทำอาหารให้อร่อยแล้ว คือการจัดตกแต่งอาหารให้สวยงาม เพราะเชื่อว่าความสุขของการได้ทานอาหารนั้นไม่ใช่แค่เพียงรสชาติ แต่ต้องรวมถึงความสวยงาม และกลิ่นที่ดึงดูดใจด้วย โดยภาพอาหารทุกจานที่ออกมาผ่านสื่อก็มาจากฝีมือการถ่ายภาพของชิ้งเองทั้งสิ้น เพราะว่าอยากจะถ่ายทอดความสวยงามให้คนเห็นในมุมมองของตัวเอง

ช่องทางการนำเสนอออนไลน์และออฟไลน์

        ช่องทางการติดตามผลงานของแม่ครัวคนนี้มีให้เลือกหลากหลายทั้งในรูปแบบออฟไลน์ อย่างหนังสือ Cook Book ที่ตีพิมพ์มาแล้วถึง 2 เล่ม และติด Best seller ทั้งสองเล่มเช่นกัน โดยกำลังจะมีเล่มที่สามตามมาในปีหน้าด้วย ส่วนช่องทางออนไลน์ที่เป็นที่รู้จักก็เป็นส่วนของรายการทีวี รายการอาหารผ่านทางยูทูป เว็บไซต์ และแฟนเพจ

        ชิ้ง เล่าว่า การทำงานรูปแบบงานเขียนและคลิปวิดีโอมีความแตกต่างกันมาก แต่ก็สนุกกับทั้ง 2 อย่างเช่นกัน การทำคลิปเผยแพร่ออนไลน์นั้น เธอบอกว่าในตอนแรกเป็นคนที่กลัวกล้องมาก ไม่ชอบที่จะถูกถ่ายภาพ แต่เมื่อลองได้ทำแล้วก็พัฒนาตัวเองมาเรื่อยๆ และทักษะการพูดก็เป็นสิ่งที่สำคัญ จะเน้นการพูดเยอะๆ เพื่อให้คนดูเข้าใจกับสิ่งที่กำลังทำอยู่และนำไปใช้ได้จริง ส่วนทางด้านการเขียนต้องย่อเรื่องราวที่ซับซ้อนให้สั้นลง ซึ่งในขณะเดียวกันต้องเข้าใจง่ายด้วย แต่ด้วยความที่มีความสามารถด้านการถ่ายทอดด้วยตัวอักษรอยู่แล้ว ทำให้การทำงานตรงนี้ง่ายขึ้น

        นอกจากนี้ ชิ้งยังเป็นฟู๊ดบล็อกเกอร์คนเดียวที่มีแอพพลิเคชั่นบนมือถือ รวมถึงบนแอปเปิลวอทช์ด้วย เพราะว่าอีกบทบาทหนึ่งชิ้งยังเปิดบริษัทออนไลน์เอเยนซี่และพัฒนาแอพพลิเคชั่นด้วย จึงได้ทำในส่วนนี้เพื่อให้อำนวยความสะดวกในการค้นหาเมนูอาหารได้อย่างรวดเร็ว

        "ที่เราเข้ามาทำงานก็ทำไปอย่างมีความสุข ส่วนหนึ่งที่มีสื่อเยอะเพราะไม่ได้หวังในเรื่องของรายได้ เห็นว่าอะไรที่ตอบโจทย์คนที่ติดตามได้ก็ทำ อย่างแอพพลิเคชั่นมันน่าสนใจ คือสะดวกกว่าการที่ต้องเข้าเว็บฯ แล้วรอโหลดนานๆ แอพฯ คือเปิดปุ๊บแล้วก็ค้นหาสูตรอาหารได้เลย ส่วนนี้ก็คาดหวังว่าจะได้แบ่งปันความรู้ให้คนอื่นได้ง่ายขึ้น ก็มีคนโหลดแอพฯ ไปใช้งานแล้วมากกว่า 70,000 ครั้ง"

โอกาสที่เข้ามาในฐานะผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์

        เมื่อมีคนรู้จักและติดตามมากขึ้น ทำให้เธอก้าวเข้าสู่แถวหน้าของวงการฟู๊ดบล็อกเกอร์ และขยายไปสายทราเวลบล็อกเกอร์อีกด้วย ทั้งได้รับโอกาสต่างๆ มากมาย โดยเธอมองว่าทุกสิ่งที่เข้ามาล้วนแต่เป็นโอกาสที่ดี อะไรที่สามารถคว้าไว้ได้ก็จะรับมันและทำให้ได้ดีที่สุด

        "ทุกอย่างที่เข้ามาเกินความคาดหมาย เราแค่ชอบทำอาหารในสิ่งที่เรารัก แต่วันดีคืนดีเราก็ได้ไปเป็นก๊อบปี้ไรท์เตอร์ ได้รับเชิญไปเทศกาลดนตรีนานาชาติ ไปขึ้นคอนเสิร์ต ซึ่งมันก็เป็นโอกาสที่ดีมากจนเราไม่คิดว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ แต่ละวันตื่นมาเราก็คิดว่าจะได้เจอกับอะไร เจอใครใหม่ๆ บ้าง มันก็ทำให้เรามีความสุขและตื่นเต้นไปกับทุกวัน"

        ด้วยความที่พบเจอคนใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ทำให้ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลมากขึ้นทั้งกับบรรดาบล็อกเกอร์ และเชฟที่มีชื่อเสียง ซึ่งโอกาสตรงนี้เธอก็ใช้เพื่อเก็บข้อมูลมาประยุกต์ใช้ และนำเสนอให้กับคนที่ติดตามอีกด้วย
สุดท้าย ชิ้งยังฝากถึงผู้ที่ต้องการเริ่มต้นสร้างสรรค์คอนเทนต์ต่างๆ เช่นเดียวกับเธอว่า ถ้าอยากจะทำให้เริ่มจากการหาสิ่งที่ชอบให้เจอ แล้วขยายหัวใจเปิดกว้าง ยอมรับและเรียนรู้ก่อน การประสบความสำเร็จทุกอย่างมันเกิดจากการฝึกฝน ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้อะไรกลับมาเลย อย่างน้อยเราก็ยังได้ทำและฝึกฝีมือของตัวเอง ซึ่งยังไงก็เป็นสิ่งที่เรารักอยู่แล้ว และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ต้องมีหัวใจที่พร้อมเป็นผู้ให้ และทำมันไปอย่างสม่ำเสมอด้วย

Website : www.chingcancook.com
Facebook Fanpang : Fashion on Food
YouTube : ChingCanCook
LINE Official : @ChingCanCook
Instagram : ChingCanCook
Sanook : Fashion on Food
Application : ChingCanCook

สามารถติดตามเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ นิตยสาร digital Age ฉบับที่ 205 หรือทาง http://www.digitalagemag.com/

ผู้เขียน : กองบรรณาธิการ

สนับสนุนเนื้อหา: