[พรีวิว] Canon EOS 1DX Mark 2 กล้องโปร ขั้นเทพตัวใหม่ลูกเล่นเยอะเพื่อมือโปร

    ขึ้นชื่อว่ากล้องโปรระดับหลายแสนบาทแล้ว EOS 1DX คงติดอยู่ในชื่อที่ใครหลาย ๆ คนมองเห็นแน่นอน ล่าสุดนั้นมีการปรับปรุงมาสู่รุ่น Mark 2 ซึ่งมีฟีเจอร์และการตกแต่งกล้องที่ทำให้โปรหลายคนต้องหันมาน่าสนใจ

    พรีวิวนี้อาจจะเล่าสั้น ๆ ถึงลูกเล่นเด่น ๆ ของกล้องรุ่นนี้และรูปร่างเบื้องต้นของเครื่องนะครับ เพราะกว่าจะวางขายอย่างเป็นทางการ ตั้งเดือน เมษายน 2559 นี้ พร้อมแล้วก็มาดูกันเลย

     ซึ่ง Canon EOS 1DX Mark 2 นั้นเป็นรุ่นที่พัฒนาต่อมาจากกล้อง 2 รุ่นคือ EOS 1DX ในเรื่องของการใส่เทคโนโลยีโปรเต็มขั้นกับ EOS 1DX C ซึ่งเป็นกล้อง DSLR Full Frame ของ Canon ที่ถ่ายภาพแบบ 4K ได้ โดยที่ EOS1DX Mark2 เป็นกล้องที่ถ่ายภาพ 16 fps ที่ live view และ 14 fps ใน view finder เพราะเทคโนโลยี shutter speed นั้นเร็ว แม่นยำขึ้นกว่าเดิม

     เหตุผลที่ทำได้ขนาดนั้นเพราะว่าการพัฒนาของ mirror box รุ่นใหม่ ทำให้การถ่ายภาพนั้นเร็วขึ้น และมีเทคโนโลยี High speed vibration ทำให้ได้ทั้งระบบกลไกและระบบการทำงานที่แม่นยำว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงระบบลดแรงกระแทกทำให้ช่วยถนอมอายุการใช้งานให้ยาวนานมากขึ้น และเป็นกลไกที่ใช้ใน EOS สำหรับกล้องฟิล์มในสมัยก่อนอีกด้วย

 

     เซนเซอร์รับภาพนั้นใช้แบบ cmos 20.2 ล้านพิกเซล ทำให้ความละเอียดคม ด้วยเทคโนโลยี gapless micro lenses ทำให้การวางของชิ้นเลนส์ที่ชิด ทำให้การถ่ายภาพนั้นลด noise ประมวลผลได้รวดเร็ว

    ทำให้รับสัญญาณของภาพนั้นเร็วขึ้น และถ่ายวีดีโอเร็วขึ้น ได้ถึง 120fps ถ่ายภาพภาพกีฬาที่ต้องใช้ความเร็วได้อย่างสบาย ๆ แถมเทคโนโลยี dual pixel cmos af รุ่นใหม่ พัฒนาจาก eos 70d series มันเร็วขึ้นกว่าเดิม และยังสามารถขยาย ISO ได้สูงถึง 51200 และเต็มที่สุดที่ ISO 409600 อีกด้วย ทำให้ภาพกลางคืนสว่างมากขึ้น

 

     เหตุผลที่ทำให้กล้องรุ่นนี้ประมวลผลได้เร็วมาก เพราะมีการใช้ เซนเซอร์ของกล้องนั้นให้มา 2 ตัว เลยใช้ชื่อ Dual DiGiC 6+ และรวมกับเทคโนโลยีของการทำช่องมองภาพ ที่ออกแบบให้ช่วยถ่ายภาพได้ดีมากขึ้น และไม่นับจุด cross side assis นะ

    จุดที่นับจริงคือ จุด โฟกัสที่ทำงานในกล้องจริง ๆ และมีมากถึง 61 จุด เรียกได้ว่าเยอะในบรรดากล้องโปรเลยก็ว่าได้ และยังทำงานคู่กับ Dual Pixel ยิ่งทำให้การโฟกัสภาพทำได้รวดเร็วขึ้น

 

      ในส่วนของ View Finder นั้นได้มีการใช้ Intelligent viewfinder II ถูกใส่ในกล้องรุ่นนี้ ทำให้วัดแสงดีขึ้นและมี ITR วัดแสงได้ดีขึ้น ส่วนหน้าจอปกตินั้นเป็นแบบสัมผัสขนาด 3.0 นิ้ว สามารถเลือกจุดโฟกัสได้ และความสว่างจะ track ตามได้ พร้อมกับ AI servo AF III+ เป็นเรื่องของการถ่ายวัตถุที่ต้อง track ตาม มันจะไม่หลุด น้อยกว่าเดิม

      และยังมี anti flicker ช่วยแก้ไขเรื่องแสงที่ถ่ายกับหลอดไฟ และมี DLO (digital lens optimizer) ทำให้การถ่ายภาพในกล้อง แก้ไขแสง ปรับจุดที่ต้องการในกล้องได้ทันที พร้อมกับ GPS ที่สามารถบอกพิกัดในการถ่ายภาพได้ ซึ่งแบ่งการทำงานเป็น 2 Mode คือตลอดเวลา หรือ จะเฉพาะเมื่อกล้องเปิด เป็นต้น

 

     และกล้องรุ่นนี้ยังรองรับการถ่ายภาพ 4K แบบ digital cinema และเป็นเฟรมขนาด 16:9 และ active pixel ตรงมุมสีเขียวอ่อน ทำให้ได้ภาพ 2 แบบ คือ ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และ 8 ล้านพิกเซลนั่นเอง การเขียน 4k นั้นใช้แบบ motion jpeg (ภาพ jpeg เรียกกัน 60 เฟรม) คุณภาพสีจะต้องเป็น 422 color sampling เหมาะกับการออกรายการโทรทัศน์ และ full hd ได้สูงสุด 120fps มาตรฐาน NTSC ส่วน PAL ได้ที่ 100 fps พร้อมกับรองรับเทคโนโลยี Dual Pixel AF สำหรับการถ่ายหนัง เรียกได้ว่ากล้องรุ่นนี้ถ่ายหนัง 4K ได้เลยด้วยซ้ำ

 

      ส่วนตัวเครื่องนั้น Canon EOS 1DX Mark 2 ใช้บอดี้ที่ทำมาจาก แมกนีเซียมอัลลอยที่แข็งแรงและสามารถทนต่อสภาพอากาศได้ดี และยังมียางกันน้ำและการทดสอบเรื่องการสั่นสะเทือนมาจนเรียกได้ว่า กล้องพร้อมลุยเลยก็ว่าได้

 

      และยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมมากมาย โดยเฉพาะ การรับส่งข้อมูลไร้สาย ผ่าน WFT-E8A ตัว WiFi เสียบภายนอกของกล้องซึ่งรองรับมาตรฐาน 802.11 ac และ Apps Canon Camera Connect สามารถมองเห็นภาพจากมือถือได้อีกด้วย แต่ทำไมไม่ใส่กับกล้องไปเลย คำตอบคือ มันจะทำให้กล้องดูใหญ่, ราคากล้องจะสูงเกินไป และ บอดี้แบบโลหะขนาดนี้น่าจะทำให้การส่งสัญญาณทำให้คลื่นตกลงนั่นเอง

       ส่วนความจำของกล้องนั้นมีมาให้ 2 ช่อง แต่ยังคงใช้ความจำแบบ CF (compact flash) แต่รองรับทั้งแบบ Cfash card ที่เขียนเร็วกว่าปกติ และยังมีช่องสำหรับ CF แบบปกติมาให้ด้วย

 

       จากที่ทีมงาน Sanook! Hitech ได้สัมผัสกล้องรุ่นนี้ทั้งรูปแบบการถ่ายปกติและใช้เลนส์ Tele พบว่ามันให้ความคล่องตัวสำหรับคนที่ใช้งานกล้องหนัก ๆ ได้อย่างดี คนที่ชอบปรับเยอะ ๆ หรือนักข่าวสายกีฬา หรือคนที่ชอบเข้าป่าถ่ายนก นี่ก็เป็นกล้องอีกตัวที่คุณต้องชอบแน่นอน

      แต่สำหรับคนที่ถ่ายภาพทั่วไปแล้วล่ะก็ กล้องรุ่นนี้อาจจะมีฟีเจอร์ที่มากเกินความจำเป็นอยู่ แต่ถ้าคุณงบถึงแล้วล่ะก็ ก็น่าจะจัดไว้สักตัว แต่ผมแนะนำว่า ถ้าใช้จริง ๆ DSLR ทั่วไปก็เพียงพอแล้ว หรือ ถ้าคนที่ต้องการถ่าย Video 4K กล้อง Mirror Less บางตัวก็ให้การตอบสนองได้ดีไม่แพ้กัน

 

     สุดท้ายแล้วคุณจะเลือกกล้องรุ่นนี้หรือไม่ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณต้องการว่า Full Option เลยหรือไม่ นั่นเอง ส่วนกำหนดวางขายของกล้องรุ่นนี้ ปลายเดือนเมษายนนี้ ราคาก็ขอให้ดูกล้อง Full Frame ของ Canon เอาไว้ อยู่แถว ๆ นั้นล่ะครับ