[รีวิว] Moto 360 Gen 2 นาฬิกาฉลาด คู่บุญโมโตยุคใหม่
สำหรับ Smart Watch ตอนนี้ถือว่าเป็นอีก Gadget หนึ่งที่มีความน่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการให้ Smart phone ทีทำอะไรได้มากกว่าตอนนี้ แน่นอนว่า Moto 360 เป็นอีกรุ่นที่ในต่างประเทศมีให้เลือก แต่ตอนนี้สำหรับในประเทศไทยเข้ามาในรุ่นที่ 2 อย่าง Moto 360 Gen 2 ได้เข้าจำหน่ายอย่างเป็นทางการและครั้งนี้ Sanook! Hitech จะมารีวิวให้ได้ฟังกันว่า Smart Watch รุ่นนี้จะน่าสนใจแค่ไหน
รายละเอียดของ Moto 360 Gen 2 (46 mm)
- ขนาดตัวเครื่อง 46 x 46 x 11.4 มิลลิเมตร
- สีตัวเครื่อง หน้าปัดเงิน สายมีให้เลือก คือดำ กับ น้ำตาล
- กระจก Gorilla Glass 3
- CPU Qualcomm Snapdragon 400 Quad Core 1.2GHz
- GPU Adreno 305
- RAM 512MB
- ความจุในตัว 4GB
- WiFi 802.11 b/g, Bluetooth V4.0
- หน้าจอ 1.55 นิ้วความละเอียด 360x330
- แบตเตอรี่ 400 mAh
- ระบบปฏิบัติการ Android Wear
รูปร่าง
ตัวเครื่องทำจากสแตนเลส ทรงกลมโดยมีให้เลือก 2 ขนาดคือ 46 มิลลิเมตรจะมีหน้าจอขนาด 1.55 นิ้ว และ 42 มิลลิเมตร ขนาดหน้าจอ 1.37 นิ้ว ความละเอียดเท่ากันคือ 360x330 ให้แสดงผลที่ดี และสามารถทัชสกรีนได้แม่นยำใช้ได้
ข้างซ้ายของตัวเครื่องเรียบพร้อมกับไมโครโฟนเพื่อสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Voice Command
ข้างซ้ายมีปุ่มสำหรับกลับหน้าแรก โดยมีรูป M เป็นโลโก้ของ Moto
ด้านบนและล่างมีลักษณะเดียวกันคือ ร่องสำหรับล็อคสาย และเป็นจุดที่สามารถเปลี่ยนสีได้แน่นอน เป็นแบบอะลูมิเนียม
สายเป็นลักษณะหนังและมีตัวล็อคสายแบบโลหะดูแข็งแรงทนทาน และสายมีหลากสี
ด้านใต้ มาพร้อมกับระบบเซนเซอร์วัดจังหวะการเต้นของหัวใจ พร้อมกับไฟ LED เพื่อส่องหาชีพจร และยังมีสีดำดูกลมกลืน
ภาพรวมของ Moto 360 Gen 2 ขนาด 46 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าเป็นตัวที่ใหญ่สุด ถือว่าออกแบบได้น่าประทับใจ และดูเหมือนกันนาฬิกาหรู ๆ หลาย ๆ รุ่นและแน่นอนว่าไม่ได้หนักมาก แต่สิ่งที่ต้องติก่อนคือ กระจกของจอนูนขึ้นมา ทำให้เสี่ยงต่อเป็นรอยได้ง่ายมาก ถ้าลดลงไปหน่อยก็จะดีไม่น้อย
ประสิทธิภาพของ Moto 360 Gen 2
เนื่องจากเป็น Smart Watch ทำให้เราไม่มีการทดสอบ Benchmark ได้ละเอียดจึงจับการใช้งานจริงมาเล่าสู่กันฟัง ภาพรวมการทำงานจาก RAM 512MB พร้อมกับความจำในตัว 4GB ถือว่าตอบสนองได้ดี แต่บางจุดนั้นอาจจะยังหน่วง เพราะการแจ้งเตือนนั้น บอกเยอะหลาย ๆ อย่างทำให้ช้าลงนิดหน่อย แต่แทบไม่รู้สึกว่าช้า
สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือแบตเตอรี่นั่นเอง เพราะว่าเมื่อใช้คู่กับหน้าจอใหญ่และมีการทำงานของเซนเซอร์ต่าง ๆ ทำให้การใช้งานเมื่อหมดวัน แบตเตอรี่จะเหลือราว ๆ 57% เท่านั้น
คุณสมบัติลูกเล่นที่น่าสนใจ
สำหรับ Moto 360 Gen 2 เป็นอีก Smart Watch ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android Wear ซึ่งรองรับการทำงานได้ทั่วโลก และมีความคล้ายกับการทำงานบนมือถือในระบบ Android มากที่สุด นั่นหมายความว่าหน้าแรกของเครื่องสามารถที่จะบอกข้อมูลต่าง ๆ ครบถ้วน และสั่งงานด้วยด้วยการสัมผัสหน้าจอไปมา โดยหน้าแรกจะแสดงเวลา
เลื่อนลงเป็นการตั้งค่าและการปรับค่าอย่างรวดเร็ว
เลื่อนขึ้น เข้าไปทางการแจ้งเตือนต่าง ๆ ที่เป็นข้อมูลของเราแบบละเอียดด้วย Google Now
นอกจากนี้ถ้าคุณพูดว่า OK Google และตามด้วยคำสั่งต่าง ๆ เช่น นำทางไปที่ทำงาน ระบบก็จะค้นหาและเปิดแผนที่เครื่องมือถือและในหน้าจอนาฬิกา
และยังสามารถโหลด Apps เพิ่มเติมได้จากใน AndroidWear ที่มีอยู่ใน Google Play Store ได้ทันที
ความพิเศษของ Moto 360 อยู่ที่ Solution ของ Moto นั้นจะมีให้เลือก 2 รายการได้แก่
- Moto Body ตัวแรกนี้จับเรื่องการใช้งานในชีวิตประจำวัน ซึ่งหมายถึงจังหวะการเต้นของหัวใจ การเดินของเรา และรวมไปถึงเรื่องการเผาผลานของร่างกายได้ง่าย
- Moto Body การวิ่ง เป็น Apps สำหรับการวิ่ง เพื่อใช้งานวิ่งโหด ๆ จริง ๆ ถ้าไม่ได้วิ่งอะไรมาก ใช้ตัวแรกก็เพียงพอแล้ว
แม้ว่าคุณสมบัติที่เล่ามานั้นถือว่าดูดีมากและน่าใช้พอสมควร แต่จริง ๆ แล้วสิ่งที่ต้องตินั้นยังคงมีเหมือนกัน เช่น การนับก้าวเดินของ Android Wear เพี้ยน เนื่องจากลองแกว่งแขนแล้วพบว่าก้าวเดินขยับ ซึ่งต้องแก้ไขกันในระบบของ Android ต่อไป และการรับคำสั่งภาษาไทยดีขึ้น แต่อาจจะยังมีงงกับบางเงื่อนไข ซึ่งจะต้องให้ทางกลไก AI เรียนรู้มากขึ้นนั่นเอง
สรุปในภาพรวมของ Moto 360 Gen 2
เรียกได้ว่าเป็นผู้บุกเบิก Android Wear อีกรุ่นในเมืองไทยเลยก็ว่าได้ แต่ความโดดเด่นของตัวเครื่องที่ออกแบบได้หรูหรา ดูดีมากทำให้มีความน่าสนใจ แถมยังมีขนาดให้เลือกใช้งานได้ทั้ง 42 และ 46 มิลลิเมตร ตามความสะดวกของแต่ละคน เป็นออฟชั่นที่ดี ถึงแม้แบตเตอรี่จะลดลงเร็วตามสไตล์สิ่งของหน้าจอสัมผัส, เรื่องนับก้าวเพี้ยน และ การสั่งงานที่ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจหน่อยก็ตาม
สำหรับ Moto 360 จะมีราคาให้เลือกอยู่ 2 รุ่นคือ 12,990 บาท กับขนาด 42 มิลลิเมตร และ 46 มิลลิเมตรกับราคา 13,990 บาท เรียกได้ว่าค่อนข้างสูงพอสมควรเมื่อเทียบกับต่างประเทศ ถ้าจะต้องถูกต้องซื้อคู่กับมือถือของ Moto เอาอย่างที่เคยนำเสนอข่าวไปนั่นเอง แต่ถ้าเทียบกับคู่แข่ง สิ่งที่ Android Wear จะได้เปรียบที่สุดคือ เรื่องการที่สามารถใช้งานกับมือถือทุกระบบปฏิบัติการ ยกเว้น Windows Phone นั่นเอง ทำให้มันดูน่าเล่น แต่ถ้าเทียบกับ Huawei Watch ที่มีราคาห่างกันเพียงหลัก 10 บาท สิ่งที่คุณจะได้จาก Moto 360 แน่นอนคือความสวยงามและเรียบง่ายกว่า Huawei แต่ถ้าต้องการหรูหรา ประหยัดงบกว่า ต้องเชิญดูที่ Huawei Watch แทน แต่ของค่อนข้างหายากสักหน่อยครับ
ข้อดี
- Android Wear ให้ประสบการณ์ที่แปลกใหม่
- การทำงานจัดว่าเร็วดี
- ใช้งานได้ทุกระบบปฏิบัติการ
- รูปร่างสวยพร้อมกับสายที่เปลี่ยนได้
- การทำงานของ Moto Body ละเอียดมาก
ข้อควรปรับปรุง
- ราคาค่อนข้างสูง
- กระจกด้านหน้านูนเกินไป
- การนับก้าวไม่ตรง