[รีวิว] vivo v3 max Smart Phone แรงเทพสะใจ ในราคาหมื่น 2

    หลังจากมีข่าวหลุดและผลการทดสอบ Benchmark และรายละเอียดเครื่องมือถือจาก vivo รุ่นหนึ่งที่ทำให้มือถือในจีนค่อนข้างเน้นความเร็วพอสมควร และครั้งนี้เราก็ได้รีวิวแล้วอย่างเป็นทางการ มันก็คือ vivo v3 max กับราคาในไทยเพียง 12,990 บาทเท่านั้น จะน่าสนใจแค่ไหนมาดูกัน

รายละเอียดของ vivo v3 max

- ขนาดตัวเครื่อง 153.9 x 77.1 x 7.6
- สีตัวเครื่อง ด้านหน้าขาว ด้านหลังสีทอง
- น้ำหนัก 168 กรัม
- CPU Qualcomm Snapdragon 652 Quad Core 1.8GHz + Quad Core 1.4 GHz
- GPU Adreno 510
- RAM 4GB
- ความจุในตัว 32GB
- เพิ่มความจำได้ด้วย Micro SD 128GB
- ความถี่ 2G 850 / 900 / 1800 / 1900
- ความถี่ 3G 800 / 850 / 900 / 2100 HSDPA
- ความถี่ 4G 1(2100), 3(1800), 5(850), 7(2600), 8(900), 40(2300) LTE Cat 4 150/50 Mbps
- WiFi 802.11 b/g/n, Bluetooth V4.1, NFC
- หน้าจอ 5.5 นิ้วความละเอียด 1920x1080
- กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล
- กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซลพร้อมระบบ Auto Focus และ LED Flash
- แบตเตอรี่ 3000 mAh
- ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 2.5 พื้นฐาน Android 5.1

รูปร่าง

    ด้านหน้าของ vivo v3 max จะคล้ายกับ vivo รุ่นอื่น ๆ เริ่มจากหน้าจอแบบ AMOLED ขนาด 5.5 นิ้วความละเอียด 1920x1080 (Full HD) มาพร้อมกับจุดเด่นในเรื่องของการแสดงผลที่ดีแม้เรื่องจะบาง รองรับมัลติทัช 10 จุด และยังเสถียรดีกว่าที่คิด และมาพร้อมกับกระจก Gorilla Glass 4

    ส่วนบน มีเซนเซอร์ ลำโพงสนทนา โลโก้ Vivo พร้อมกับไฟสถานะเมื่อมีการแจ้งเตือนผ่าน Notification

    ส่วนล่างมีปุ่ม Option, Home และ Back

 

    ด้านข้างทำจากอะลุมิเนียม เรียบและดูดีมากกับเครื่อง โดยมีความบางเพียง 6.8 มิลลิเมตร ฝั่งซ้านมีช่องใส่ซิม Micro SD, Nano SIM และอีกถาดเป็นช่องใส่ Micro SIM

    ข้างขวามีปุ่ม ปรับระดับเสียงและปุ่ม เปิดปิดเครื่อง

    ด้านบนมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร

    ด้านล่างมีช่องเสียบ Port Micro USB ลำโพงของเครื่องและไมโครโฟน

    ด้านหลัง ทำจากโลหะอย่างดีโดยส่วนบนและล่างจะมีสีทองออกชมพู แต่ตรงกลางจะเป็นสีทองพร้อมกับโลโก้ vivo พร้อมกับกล้องหลังขนาด 13 ล้านพิกเซล พร้อมกับ LED Flash และอีกจุดเด่นที่ชัดเจนกับเครื่องนี้คือ ระบบสแกนลายนิ้วมือ ที่วางตำแหน่งได้พอดี

    ภาพรวมของ Vivo V3 Max เป็นมือถือที่ออกแบบได้บางเฉียบน่าใช้ แต่ด้านหน้าถ้ามองดี ๆ ก็เหมือนกับ vivo รุ่นก่อนหน้านี้ มันดูคุ้นเคย แต่สำหรับคนที่ไม่ต้องการความแปลกใหม่อาจจะยังไม่ตอบโจทย์ แต่ภาพรวมของตัวเครื่องแล้ว มันสะดวกในการใช้งานอยู่ไม่น้อย

ประสิทธิภาพของ vivo v3 max

    จากภาพการทดสอบ Benchmark ที่เห็นคะแนนของ Antutu นั้นทำได้อยู่ที่ 66748 คะแนน เรียกได้ว่าสูงจนน่าตกใจ แต่แน่นอนล่ะ เพราะ RAM ขนาด 4GB มีผลจริงกับความเร็ว ดังนั้น vivo v3 max ก็กลายเป็นมือถือระดับราคาหมื่นต้นที่แรงจนมือถือที่แพงกว่ายังอายก็ว่าได้ ทุกการใช้งานไม่ว่าจะเป็นทั่วไปหรือเล่นเกมโหด มือถือเครื่องให้คุณได้ครบ

    ส่วนแบตเตอรี่ให้ขนาดมาที่ 3000 mAh พร้อมระบบชาร์จไฟเร็ว แต่ทดสอบผ่านโปรแกรม อยู่ได้ 6 ชั่วโมงกว่า แต่ใช้งานจริงถ้าไม่ได้ใช้งานอะไรมาก สามารถข้ามวันได้อย่างสบาย ๆ เลยทีเดียว และยังรองรับระบบ Fast Charge อีกด้วย

คุณสมบัติลูกเล่นที่น่าสนใจ

    Vivo v3 max ยังคงใช้ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS เวอร์ชั่น 2.6 บนพื้นฐานของ Android 5.1 Lollipop อยู่ จุดเด่นคือเรื่องของการแยกระหว่าง ส่วนการแจ้งเตือน และการตั้งค่าออกทำให้ดูง่ายและหน้าจอไม่มี Apps Drawer หรือที่รวม Apps ทำให้เมื่อคุณโหลดโปรแกรมมาก็จะกระจายอยู่ในหน้า Home Screen ทำให้สะดวกในการหยิบใช้อยู่ไม่น้อย

    ความโดดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่ระบบสแกนลายนิ้วมือที่ทำงานได้รวดเร็วและมีความละเอียดแม่นยำพอสมควร และยังใช้เป็นปุ่ม Shutter ได้อีกด้วย

    ส่วนลูกเล่นอื่น ๆ เช่น Gesture ยังคงมีให้ครบเหมือนเดิม

    นอกจากนั้น เรื่องความบันเทิงยังคงมีเครื่องเล่นเพลงมา พร้อมทำงานกับระบบเสียง Hi-Fi ที่ให้คุณภาพเสียงออกมาไม่ผิดหวัง พร้อมกับมี วิทยุ FM, เครื่องคิดเลข, สมุดจด, แผนที่, เข็มทิศ, ระบบสำรองข้อมูลของ vivo cloud เป็นต้น

    กล้องของ vivo v3 max ให้มาขนาด 13 ล้านพิกเซลพร้อมระบบโฟกัสแบบ Phase Detection AF ตามสมัยนิยม พร้อมกับรูรับแสง F2.0 และมี Mode การถ่ายภาพที่หลากหลายแต่น่าเสียดายที่ไม่มี Manual มาให้ ภาพรวมของการถ่ายภาพออกมาถือว่าดีอยู่แต่ในระดับราคาแค่นี้ และการถ่ายวีดีโอรองรับที่ Full HD

    แต่กล้องหน้าให้มา 8 ล้านพิกเซล และมีฟีเจอร์ในการถ่ายภาพแบบ Ultra HD พร้อมกับ Beauty Mode เยอะเอาการ

(ตัวอย่างภาพถ่ายจาก vivo v3 max)

สรุปจากการลองใช้ vivo v3 max

    กลายเป็นมือถือระดับ mid-end ที่ให้ความสามารถทั้งสวย, ประสิทธิภาพ แรง ระบบปฏิบัติการดีและมีลูกเล่นครบ ทำให้น่าใช้งานพอสมควร แต่ยกเว้นถ้าคุณต้องเก็บรายละเอียดภาพในที่แสงน้อย มันคือปัญหาพอสมควรเพราะอาจจะมี Noise มารบกวนใจ และระบบปฏิบัติการอาจจะดูยังไม่ Update เท่าไหร่ ซึ่งข้อเสียเหล่านี้หักล้างกันได้อยู่

    เมื่อเทียบกับราคาของมันนั้นเปิดมาได้เกินความคาดหมาย เพราะเปิดมาแค่ 12,990 บาทเรียกว่าถูกพอ ๆ กับคู่แข่งอย่าง Samsung Galaxy A5 2016 แต่ถ้ามองเรื่องความแรงและการใช้งานปกติแล้ว vivo เพียงพอแล้วเหลือแน่นอน แต่ถ้ามองเรื่องกล้องด้วยจุดนี้ A5 2016 ยังคงเหนือกว่าเล็กน้อย สุดท้ายนี้ ถ้าคุณชอบมือถือที่มีประสิทธิภาพดี ราคาประหยัด นี่คือคำตอบครับ

ข้อดี
- ตัวเครื่องบางเฉียบ

- ประสิทธิภาพจัดว่าดีมา

- ราคาเครื่องถือว่าถูก

- ลูกเล่นมีให้ครบแทบไม่ต้องลงอะไรเพิ่ม

ข้อควรปรับปรุง
- กล้องหลังยังถ่ายภาพกลางคืนไม่สวย

- ยังใช้ Android 5.1 อยู่

- มีให้เลือกแค่สีเดียวเท่านั้น

ขอบคุณ vivo ประเทศไทยที่เอื้อเฟื้อให้ vivo v3 max มาทดลองใช้ในครั้งนี้