รีวิว iPhone SE ไอโฟนรุ่นเล็ก ด้วยสเปคแรงเท่า iPhone 6S บนหน้าจอขนาด 4 นิ้ว ในราคาค่าตัวเพียง 16,800
แม้จะมีการประกาศราคา iPhone SE ในไทย อย่างเป็นทางการไปแล้ว โดยเริ่มต้นที่ 16,800 บาทเท่า นั้น สำหรับรุ่นความจุ 16 GB แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่า iPhone SE จะเริ่มวางจำหน่ายเมื่อใด ซึ่งคาดว่า ในเร็วๆ นี้คงจะได้จับจองเป็นเจ้าของ และน่าจะเป็นรุ่นที่ขายดิบขายดีกันอย่างแน่นอน
โดยเว็บไซต์ต่างประเทศชื่อดังอย่าง gsmarena.com ได้รีวิว iPhone SE มาให้ชมกันแล้ว มาดูกันดีกว่าว่า iPhone หน้าจอ 4 นิ้วรุ่นสานต่อนี้ น่าใช้ขนาดไหน
ดีไซน์
สำหรับดีไซน์โดยรวมของ iPhone SE นั้น เรียกได้ว่า ถอดแบบมาจาก iPhone 5S ทุกกระเบียดนิ้ว ด้วยตัวเครื่องแบบโลหะคุณภาพสูง บนหน้าจอขนาด 4 นิ้ว แบบ Retina Display ความละเอียด 1136 x 640 พิกเซล ซึ่งน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 113 กรัม และความหนา 7.6 มิลลิเมตร
แบตเตอรี่
สำหรับแบตเตอรี่ของ iPhone SE นั้น มีขนาดใหญ่กว่า iPhone 5S โดยแบตเตอรี่บน iPhone 5S มีขนาดความจุอยู่ที่ 1560 mAh ในขณะที่ iPhone SE มีขนาดความจุแบตเตอรี่อยู่ที่ 1624 mAh ซึ่งจากการทดสอบใช้งาน พบว่า iPhone SE สามารถใช้งานได้โทรศัพท์ได้นานถึง 12 ชั่วโมง, เล่นอินเทอร์เน็ต 13 ชั่วโมง และเล่นวีดีโอได้นาน 14 ชั่วโมงเลยทีเดียว เห็นเครื่องจิ๋วๆ แบบนี้ แต่ความสามารถไม่ธรรมดาเช่นกัน
คุณภาพเสียง
ทีมงาน gsmarena ได้ทดสอบคุณภาพเสียงระหว่าง iPhone SE กับ iPhone 6S พบว่า คุณภาพเสียงไม่ดีเท่ากับ iPhone 6S และมีความดังของเสียงเกือบจะเท่าๆ iPhone 5S นั่นหมายความว่า ถ้าอยู่ในที่ที่มีเสียงดังมากๆ อาจจะไม่ได้ยินเสียงเรียกเข้าบน iPhone SE ส่วนคุณภาพเสียงด้านอื่นๆ เช่น การฟังเพลง อยู่ในระดับปานกลาง
กล้องถ่ายรูป
iPhone SE มาพร้อมกับกล้องด้านหลัง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.2 แบบเดียวกับ iPhone 6S ในขณะที่กล้องด้านหน้า ความละเอียดอยู่ที่ 1.2 ล้านพิกเซลเท่านั้น ส่วนจะถ่ายได้สวยแค่ไหน ลองให้ภาพถ่ายเหล่านี้เป็นคำตอบครับ
ส่วนคุณสมบัติด้านการถ่ายวีดีโอ iPhone SE รองรับการถ่ายคลิปที่ความละเอียด 2160p @30fps และ 1080p @30fps กับ 60fps นอกจากนี้ ยังรองรับการถ่ายคลิปแบบ Slo-Mo อีกด้วย
ทดสอบ Benchmark
iPhone SE มาพร้อมกับชิปเซ็ต Apple A9 แบบ Dual-Core Processor ความเร็ว 1.84 GHz, หน่วยประมวลผลภาพกราฟิก PowerVR GT7600 แบบ 6-Core และหน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB ซึ่ง เป็นชิปเซ็ตตัวเดียวกับ iPhone 6S รับประกันได้เลยว่า ประสิทธิภาพด้านการประมวลผลไม่เป็นรองใครแน่นอน โดยการทดสอบ Basemark OS II 2.0 ได้ 2,163 คะแนน ส่วนการทดสอบ Basemark ES 3.1 ได้ 882 คะแนน
ถึงแม้ว่า iPhone SE จะมีคุณสมบัติหลายๆ อย่างที่คล้ายกับ iPhone 6S บ้างก็ตาม แต่ก็มีฟีเจอร์บางอย่างที่ถูกตัดออกไป นั่นก็คือ ไม่รองรับ 3D Touch แถมกล้องด้านหน้า ไม่เหมาะกับการเซลฟี่มากเท่าที่ควร
เนื่องจากเซ็นเซอร์ไม่ละเอียดเท่าใดนักเมื่อเทียบกับมือถือรุ่นอื่นๆ แต่สำหรับใครที่ชอบ iPhone รุ่นหน้าจอ 4 นิ้วเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หรือใช้ iPhone 5 กับ iPhone 5S อยู่ แล้วมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนรุ่นใหม่ ก็ถือว่า iPhone SE รุ่นนี้ ตอบโจทย์อย่างมาก ด้วยระดับราคาที่ไม่แพงมากเกินไป แต่ได้สเปคเทียบเท่า iPhone 6S ส่วนคะแนนรีวิว iPhone SE รวม ทาง gsmarena ให้ 3.5 เต็ม 5 คะแนนครับ
ที่มา : gsmarena.com
สนับสนุนเนื้อหา: www.techmoblog.com
